การมีสัตว์เลี้ยงที่เรารักอยู่ในที่อยู่อาศัย จะช่วยทำให้บรรยากาศอบอุ่นและผู้อยู่มีสภาพจิตใจดีขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดนั้น เราต้องออกแบบให้เหมาะสมเพื่อให้ท้ังเราและเขาอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข วันนี้บ้านและสวน Pets ร่วมกับ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) คอนโดมิเนียมที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ (Pet-Friendly Residences) มีไอเดียการตกแต่งคอนโดสำหรับคนรักสัตว์มาฝากกันค่ะ
การตกแต่งมุมต่างๆให้สัตว์เลี้ยงในคอนโดให้สวยนั้นมีมากมายหลายวิธี แต่สิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใดคือคุณภาพและการเลือกใช้วัสดุที่เป็นพื้นฐานหลักของคอนโดฯมากกว่า อย่างเช่นการออกแบบและเลือกใช้วัสดุของคอนโดในเครือของเมเจอร์ ซึ่งไม่ได้แค่หยิบยกแค่ฟังก์ชันความสวยงามมาอย่างเดียว ทางโครงการยังเลือกใช้วัสดุเพื่อความปลอดภัย อย่างเช่น พื้นลามิเนต ซึ่งเป็นวัสดุทดแทนไม้ที่มีความแข็งแรง คงทน ป้องกันการกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดี ผิววัสดุที่ไม่ลื่น ช่วยซัพพอร์ตข้อต่อของสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย แต่ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่จะสร้างพื้นที่แห่งความสุขให้สัตว์เลี้ยงได้ ไม่ว่าจะตกแต่งมุมสวยด้วยไอเดียใดๆ เราต้องเข้าใจธรรมชาติของสัตว์ที่เลี้ยงและไลฟ์สไตล์ของเราก่อนค่ะ
ไอเดียที่ 1 จัดแบ่งสเปซที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับชนิดของสัตว์และการเลี้ยงดู
สำหรับแมวซึ่งธรรมชาติของแมวที่เลี้ยงในบ้านหรือคอนโดจะชอบพื้นที่ที่มีสเปซให้เขาขึ้นปีนป่ายในแนวดิ่ง ต้องการพื้นที่แนวสูงเพื่อขึ้นไป จะต้องมีระดับให้เขาขึ้นไต่ได้ปีนขึ้นไป ต้องมีพวกอุปกรณ์ให้ทำตามสัญชาตญานธรรมชาติ เช่น ที่ลับเล็บ อุโมงค์บ้าน กล่องแคบที่เข้าไปนอนได้ แมวจึงเลี้ยงในห้องในคอนโดได้ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องขนาดพื้นที่ ชอบวิวผ่านกระจกใส เห็นสิ่งแวดล้อมข้างนอก ซึ่งสำหรับห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนของคนในครอบครัว สำหรับคนรักแมวแล้วย่อมต้องการให้เจ้าเหมียวแสนซนมีพื้นที่สำหรับการผ่อนคลายและกระโดดโลดโผน ไอเดียการตกแต่งพื้นที่สำหรับการเล่นสนุกของเจ้าเหมียวอาจจะฟังดูเหมือนต้องใช้พื้นที่เยอะ ซึ่งจริงๆ แล้วเราสามารถออกแบบให้สวยงามและใช้พื้นที่น้อยได้ ด้วยการเลือกติดบันไดไม้ของเล่นสำหรับแมวกับผนัง ซึ่งคุณสามารถแบ่งพื้นที่ภายในห้องนั่งเล่นสำหรับการตกแต่งเพื่อเจ้าเหมียวได้ เรียกได้ว่าสุขทั้งคนทั้งแมวแบบนี้ ต้องลองนำไปปรับใช้กันนะคะ
ภาพ : ombiaombia.wordpress.com – cattree.uk
สะพานแมวนอกจากจะใช้สำหรับให้แมวไต่เล่นไปบนผนังตามมุมต่างๆ ของบ้านแล้ว ยังสามารถใช้เป็นเปลเอาไว้ให้แมวเหมียวได้แอบงีบกันแบบส่วนตัว
ภาพ: www.etsy.com
สำหรับสุนัขจะใช้พื้นที่แนวราบ ลักษณะที่เหมาะสมในบ้านหรือห้องจะต้องไม่มีสิ่งที่เป็นอันตราย เช่น เฟอร์นิเจอร์สิ่งของที่มีคมเหลี่ยม พื้นต้องไม่ลื่นเพราะจะส่งผลต่อกล้ามเนื้อของสุนัข ที่สำคัญคืออยู่แล้วต้องปลอดภัย ทำความสะอาดง่ายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ในห้องนอนกับเจ้าของ หรือพืนที่ในห้องนั่งเล่นหรือโถงทางเดิน ซึ่งเราสามารถเลือกที่นอนหรือเบาะนอนให้เหมาะสมกับพื้นที่และขนาดตัวของสุนัข ไม่ว่าจะเป็นทรงกระโจม เบาะ เป็นต้น
ไลฟ์สไตล์ของเจ้าของก็เป็นส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกโทนสีหรือธีมห้อง เมื่อนำมาตกแต่งมุมสัตว์เลี้ยง สามารถเลือกข้าวของเครื่องใช้ให้เข้ากันได้อย่างลงตัว
โทนสีผนังน้ำเงิน กับ เบาะรองนอนสีเทาหุ้มด้วยไม้ จัดวางอย่างกลมกลืน ทำให้ดูเท่ลงดัวที่สุด
รูปแบบเบาะชนิดต่างๆ เลือกตามพื้นที่และขนาดตัวของสุนัข
ไอเดีย 2 พื้นที่สำหรับวางอาหารและน้ำ รวมถึงจุดขับถ่าย
สำหรับสัตว์เลี้ยงควรมีชามอาหารและน้ำดื่มตั้งเตรียมไว้ให้พร้อม โดยเฉพาะน้ำยิ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรขาด ถ้าเป็นถ้วยธรรมดาแนะนำให้เปลี่ยนน้ำทุกวัน แต่ถ้าเป็นน้ำพุก็อาทิตย์ละครั้ง ซึ่งควรจะวางมุมใดมุมหนึ่งของห้อง และไม่อยู่ใกล้เฟอร์นิเจอร์ที่ห้ามโดนน้ำหรือทำความสะอาดได้ยาก เพราะบางทีสัตว์เลี้ยงของเราอาจทำเลอะได้ รวมถึงไม่มีมดหรือแมลง และมุมสำหรับวางจุดขับถ่าย ถ้าเป็นแมวก็ต้องมีกระบะทรายถ้าเป็นหมาก็ต้องมีที่รองฉี่ ซึ่งควรวางคนละมุมกับที่วาง
ชามอาหารในช่องลับ ประหยัดพื้นที่และยังเป็นการช่วยจัดระเบียบให้เรียบร้อยด้วย
ภาพ : bhg.com – themarthablog.com
ส่วนระเบียงด้านนอกสามารถใช้เป็นพื้นที่ของการขับถ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นกระบะทรายแมว หรือ แผ่นรองอึหรือฉี่ของสุนัข ซึ่งในส่วนนี้คอนโดฯทุกโครงการของเมเจอร์ก็ให้ความสำคัญ ราวระเบียงมีความถี่เพียง 7.5 เซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งถือว่ามีความถี่มากๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขลอดออกไปได้ โดยคำนึงถึงเรื่องความสวยงามให้สอดคล้องกับฟังก์ชันด้วยซึ่งตามธรรมชาติสุนัขและแมว จะรู้ตำแหน่งแต่ละอย่างทั้งที่นอน ที่กิน ที่ขับถ่าย จึงควรจัดสเปซให้มีระยะห่างที่เหมาะทำให้ถูกสุขลักษณะ แบ่งพื้นที่ทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันให้เป็นที่เป็นทาง โดยเจ้าของสามารถปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่มีได้
ไอเดีย 3 สภาพอากาศในห้อง
อย่าลืมว่าสัตว์เลี้ยงของเราอยู่ในห้องทั้งวัน ดังนั้นอากาศในห้องต้องถ่ายเทสะดวก เพื่อไม่ให้ห้องอบอ้าวร้อนจนเกินไป อีกทั้งยังเป็นการระบายกลิ่นอับชื้นอีกด้วย อุณหภูมิ กลิ่น แสง เสียง สภาพแวดล้อมที่เหมาะกับสัตว์เลี้ยง ซึ่งห้องคอนโดของเมเจอร์ฯ ได้ออกแบบช่วยให้ห้องเย็นสบาย โดยให้มีช่องประตูหน้าต่างบานใหญ่ฝังตัวทุกๆ ห้อง บางยูนิตที่มีขนาดใหญ่ก็เพิ่มหน้าต่างบานกระทุ้งที่เปิดรับลมให้เข้าออกได้ด้วย มีแสงสว่างส่องเข้าพื้นที่เพื่อให้เกิดผลดีต่อสัตว์เลี้ยง ซึ่งบานกระจกที่กว้างเปิดให้เห็นวิวก็จะช่วยสร้างความเพลิดเพลินให้สัตว์เลี้ยงที่ชอบดูวิวข้างนอกด้วย
ห้องคอนโดของเมเจอร์ฯ ออกแบบให้บานกระจกกว้างเปิดให้เห็นวิว เป็นการช่วยสร้างความเพลิดเพลินให้สัตว์เลี้ยงด้วย
ไอเดีย 4 ปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์นิดหน่อย
สำหรับสัตว์เลี้ยงหากต้องอยู่บ้านเฉยๆ ทั้งวัน อาจจะมีเบื่อกันบ้าง ลองหากิจกรรมหรือลูกเล่นต่างๆ มาไว้ภายในบ้าน สำหรับปลดปล่อยพลังงาน เช่นแผ่น หรือที่ฝนเล็บ ไว้แก้ปัญหาชอบกัด ตะปบ ตะกุยเฟอร์นิเจอร์หรือโซฟา เราลองหาอุปกรณ์เพื่อใช้ในการลับเล็บ และเพื่อเป็นการป้องกันบริเวณขาโต๊ะ โซฟาหรือตามมุมต่าง ๆ ของตู้และโต๊ะทำงาน ลองหาเชือกมะนิลามาพันติดไว้ก็ได้นะคะ
ภาพจาก : ikea.com – homecrux.com
ไอเดีย 5 ตกแต่งคอนโดด้วยต้นไม้
การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในที่อยู่อาศัยอย่างคอนโด เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น สบายตา และรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งการปลูกต้นไม้ในคอนโด นอกจากจะช่วยสร้างความมีชีวิตชีวาแล้ว ต้นไม้บางต้นยังช่วยฟอกอากาศได้อีกด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแนวทางหรือไอเดียที่ช่วยให้การตกแต่งพื้นที่ของสัตว์เลี้ยงในคอนโดอย่างง่ายๆ ที่เราสามารถทำเองหรือนำไปปรับใช้ตามตามความเหมาะสม เพราะเมื่อเราตัดสินใจพาเจ้าขนฟูมาร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวแล้ว เราก็ต้องจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสม และอยู่ร่วมกันกับเราได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข
