Visit Archives - Page 5 of 17 - room

KAITHONG ORIGINAL สาขาใหม่สีขาวบริสุทธิ์ ตัวแทนความจริงใจที่บอกเล่ารสชาติอาหารคุณภาพ

ไก่ทอง ออริจินัล  สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ถ่ายทอดบรรยากาศธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เหมือนอาหารที่ปรุงจากใจทุกเมนู ไก่ทอง ออริจันัล ร้านอาหารไทยสไตล์ออเรียลทัลที่ส่งต่อความอร่อยมายาวนานกว่า 24 ปี ล่าสุดกับการเปิดสาขาที่ 4 ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี โดยคุณหนู-แสงอรุณ มนตรีวัต ผู้บริหารและสานแบรนด์ต่อจากคุณแม่อรุณี มนตรีวัต ยังคงเน้นย้ำคุณภาพอาหารที่ปรุงจากใจ เพื่อมอบให้ลูกค้าได้รับประทานอาหารอร่อย ๆ ไม่ว่าจะสาขาไหนรับรองไม่ผิดหวัง และสำหรับสาขานี้ ขอเน้นการบริการที่โฟกัสและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ กับจำนวนที่นั่งที่รองรับลูกค้าเพียง 12 โต๊ะเท่านั้น ท่ามกลางบรรยากาศปลอดโปร่งสบาย ๆ สัมผัสได้ถึงความฮาโมนี มีธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนช่วยเติมเต็มเรื่องราว สื่อถึงความความรักอันบริสุทธิ์และจริงใจ เหมือนแม่ที่คัดสรรแต่อาหารคุณภาพดีให้คนในครอบครัวได้รับประทาน โดยครั้งนี้ดีไซเนอร์จาก Trimode Studio ขอเลือกหยิบแนวคิดความเป็นธรรมชาติอันบริสุทธิ์มาถ่ายทอดลงสู่พื้นที่ เพราะธรรมชาติถือเป็นต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง และเป็นผู้ให้อย่างไม่มีเงื่อนไข ดุจเดียวกับความรักของแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ร้านไก่ทองตั้งใจมอบให้แก่ลูกค้ามาโดยตลอด  จากความหมายอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ได้รับการคลี่คลายผ่านองค์ประกอบต่าง ๆ ที่มีความเป็นงานคราฟต์ซึ่งเป็นกระบวนการสร้างงานอันเป็นเอกลักษณ์ของ Trimode Studio รวมเข้ากับโจทย์ของคุณหนูที่ต้องการให้ร้านมีบรรยากาศลักชัวรี่เหนือกาลเวลาและเรียบง่ายไปพร้อมกัน ภายใต้ข้อดีของทำเลที่มีช่องแสงขนาดใหญ่ถึงสามด้าน ดีไซเนอร์จึงนำแสงมาเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ เพื่อเชื่อมโยงแสงภายนอกเข้ามาสู่ภายใน กลายมาเป็นงานดีไซน์ที่ชวนให้จินตนาการถึงถ้ำในธรรมชาติ ที่พาทุกคนลัดเลาะผ่านสเปซทางเข้าด้านหน้า ก่อนเผยให้เห็นสเปซโล่งกว้างด้านใน […]

EASTERNGLASS CAFE คาเฟ่ในโรงงานทำแก้วแฮนด์เมด ได้อารมณ์อินดัสเทรียลสุดเท่แบบแท้ ๆ

ปรับตัวเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในยุคโควิด-19 ให้คนไทยรู้จักแบรนด์แก้วทำมือสุดประณีตรายใหญ่แห่งเดียวในกรุงเทพฯ กับการเปลี่ยนพื้นที่ในโรงงานให้เป็นคาเฟ่ เต็มอิ่มกับบรรยากาศอินดัสเทรียลสุดเท่ ๆ พร้อมเล่าเรื่องราวความเป็นมาของโรงงานแก้วบูรพา หรือ EasternGlass Manufacturer Co., Ltd ที่ดำเนินงานมากว่า 70 ปี EasternGlass Cafe จากพื้นที่ที่เคยเป็นส่วนของสำนักงานด้านหน้า มาวันนี้ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ให้กลายเป็น EasternGlass Cafe สไตล์อินดัสเทรียลสุดเท่ ให้บรรยากาศของการมาเยือนโรงงานแท้ ๆ เชื่อมต่อกับโกดังขนาดใหญ่ เปิดต้อนรับลูกค้าให้เข้ามาพักผ่อนจิบกาแฟอร่อย ๆ พร้อมกับช้อปปิ้งแก้วแฮนด์เมดสวย ๆ เกรดส่งออกสุดประณีต โดยฝีมือจากช่างเป่าแก้วชาวไทย ซึ่งยังคงดำรงวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมมาตลอด ที่นี่จึงถือเป็นโรงงานผลิตแก้วทำมือเพียงแห่งเดียวและเก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพฯ ตลอดการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่การทำโป๊ะแก้วครอบโคมไฟสมัยคุณปู่ เรื่อยมาถึงรุ่นคุณพ่อ คุณแม่ และคุณอา ที่เน้นส่งออกผลิตภัณฑ์แก้วหลากหลายรูปแบบ จนถึงทายาทรุ่นที่สามในยุคปัจจุบัน สินค้าของโรงงานเน้นส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ กระทั่งเกิดวิกฤตโควิด-19 ไปทั่วโลก ทำให้ไม่สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ได้ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นโรงแรม ร้านอาหาร และแบรนด์ของตกแต่งบ้าน ในแถบประเทศยุโรปและสแกนดิเนเวียน โรงงานจึงถึงคราวต้องปรับตัวเร็วกว่าที่ตั้งใจไว้ ด้วยการบริหารของคุณปีเตอร์-พีรัท จงอัศญากุล โดยเขาได้เล่าถึงการกลับมาตีตลาดในไทย และเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าได้เข้ามาสัมผัสคาเฟ่ในโรงงานว่า “ช่วงหลังเราเพิ่งเห็นเทรนด์เมืองไทยว่า ลูกค้าให้ความสนใจกับการตกแต่งบ้านมากขึ้น รวมทั้งเหล่าดีไซเนอร์ที่ต้องการพร็อปส์ที่เป็นงานคราฟต์ […]

IN HARMONY WITH NATURE CAFE ผสานสีเขียวตัวแทนธรรมชาติ ลงในคาเฟ่สไตล์ลอฟต์กลางกรุงนิวยอร์ก

คอนกรีตดิบกระด้างที่ถูกแต่งแต้ม และแทรกด้วยองค์ประกอบสีเขียวดูตัดกันภายใน คาเฟ่นิวยอร์ก แห่งนี้ หากมองให้ลึกลงไปถึงแนวคิด ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงการใช้สีเขียวเพื่อสร้างความสะดุดตาเท่านั้น แต่มีความหมายเชิงสัญญะซ่อนอยู่ เพื่อสื่อถึงเป็นธรรมชาติที่คนในเมืองส่วนใหญ่ต่างโหยหา ท่ามกลางการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบวุ่นวาย จนแทบหามุมสงบ ๆ และผ่อนคลายอย่างแท้จริงไม่ค่อยจะเจอ สตูดิโอ Reutov Design จึงขอจัดเสิร์ฟความต้องการนั้น ให้บรรจุลงใน คาเฟ่นิวยอร์ก แห่งใหม่ อีกหนึ่งโปรเจ็กต์อันโดดเด่นของทีม ด้วยการบูรณะพื้นที่ขนาด 46 ตารางเมตร ที่อยู่บริเวณบนชั้นล่างของอาคารเก่าให้กลายเป็นคาเฟ่สีเขียวโปร่งโล่ง ผสมผสานการตีความสร้างสรรค์ของการออกแบบและองค์ประกอบที่หยิบยกไอเดียมาจากธรรมชาติ ผ่านการใช้งานที่สดใสและมีสีสัน ภายในห้องคอนกรีตเผยผิวเปลือยเปล่า สีเขียวถูกนำมาใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ กระตุ้นให้ทุกคนเกิดความกระปรี้กระเปร่า สิ่งที่เห็นเด่นชัดคือเหล่าท่อตกแต่งที่ชวนให้จินตนาการถึงลำต้นของไผ่ขนาดใหญ่ผาดผ่านอยู่บนฝ้าเพดาน และโชว์ตัวสวยเท่ในแบบสไตล์ลอฟต์ ซึ่งให้ทั้งมุมมองที่แปลกตาและทันสมัย นอกจากนั้นยังมีไอเดียการนำแผ่นกระจกโทนสีเขียวมาติดตั้งให้ตัดกันกับพื้นหลังคอนกรีตผิวขรุขระ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนผนังด้านหลังที่นั่ง และด้านหน้าเคาน์เตอร์ พร้อมกับจัดวางเก้าอี้ PAPYRUS RONAN & ERWAN BOUROULLEC by Kartell ด้วยการผสมผสานกันทั้งวัสดุแก้วและท่อโลหะสีเขียว จึงนับเป็นการถ่ายทอดให้เห็นว่า รูปแบบธรรมชาติและสถาปัตยกรรมสมัยใหม่นั้น สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างไร อีกทั้งสีเขียวยังช่วยให้เกิดความรู้สึกสงบ ผ่อนคลายและมีสมาธิขึ้น ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักของการออกแบบคาเฟ่กลางเมือง เพื่อให้ที่นี่เป็นดังโอเอซิสใช้หลบพักจากความวุ่นวาย แล้วมาเพลิดเพลินไปกับกาแฟรสเลิศ และฟังดนตรีไพเราะ ก่อนก้าวออกไปนอกร้านพร้อมลุยชีวิตกลางมหานครนิวยอร์กอย่างกระปรี้กระเปร่า ออกแบบ […]

FLAT+WHITE CAFE คาเฟ่ขาวนวลมินิมัลในย่านทองหล่อ

ถ้าถามว่าเมนูกาแฟอะไรคือเอกลักษณ์ของออสเตรเลีย ประเทศต้นกำเนิดกระแสกาแฟ Thrid Wave ก็คงบอกได้ทันทีว่าคือ Flat White ประกอบกับที่เจ้าของร้าน(และบ้านที่ชั้นบน) เคยไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลีย เมื่อกลับมาไทยเขาจึงเปิดร้านกาแฟของตัวเองขึ้น โดยใช้ชื่อว่า Flat+White Cafe เพื่อบ่งบอกตัวตนและความผูกพันกับกาแฟที่นั่น “ความนุ่มละมุนจากครีมนม” คือคอนเซ็ปต์ที่ถูกนำมาใช้ สองส่วนหลักที่เห็นได้ชัดคือ “สีสันบรรยากาศ” และ “เส้นสายโค้งรับต่อเนื่อง” ตลอดทั้งโครงการ การเลือกใช้ “สีขาว” เป็นหลักนี้ เพื่อสื่อถึงความนวลเนียนของนมบนกาแฟที่ถูกเจือด้วยสีน้ำตาลอ่อน ๆ ผนวกกับพื้นผิวที่ใช้เทคนิคปูนปั้นสร้างความนูนต่ำเกิดเป็นแสงเงาคล้ายคลื่นบาง ๆ ทำให้รู้สึกถึงความนุ่มละมุนมากยิ่งขึ้น เปรียบได้กับการที่เมื่อเข้าไปใช้บริการร้านแห่งนี้ ก็เหมือนได้เข้าไปอยู่ในครีมนมอันนวลเนียน อีกส่วนคือ “เส้นสายต่อเนื่อง” ที่ถูกใช้ตั้งแต่ฟาซาดภายนอก จนไหลเข้าสู่ภายในนั้นเปรียบเหมือนเทคนิค Latte Art ของการเทแบบ Free Pouring การสร้างลวดลายที่เกิดจากการซ้อนทับของชั้นเลเยอร์จากนม เมื่อถูกเทลงไปแล้วส่ายสะบัดจนเกิดเป็นลวดลาย ภายนอกนั้นใช้สเตนเลสแผ่นทำสีขาวด้านซ้อนเรียงกันและโค้งรับขับเน้นบริเวณทางเข้าไหลเข้าสู่ภายใน ทุกพื้นที่มีการเน้นด้วยเส้นและการซ้อนกันของฝ้าเพดาน สร้างความต่อเนืองโค้งมนช่วยลบความรู้สึกเป็นเหลี่ยมของอาคาร “เมื่อจะออกแบบร้านการแฟร้านนี้ ผมอยากให้มันร้อยเรียงเป็นเรื่องเดียวกันไปตลอดทั้งอาคาร ตั้งแต่แรกเห็นที่จากภายนอกจนเข้าสู่ภายใน ไปจนถึงทุก ๆ องค์ประกอบ เช่น ลวดลาย สีสัน […]

INFINITY WELLBEING สปาสีมินต์โอเอซิสสีเขียวในย่านสุขุมวิท

สปา ในย่านสุขุมวิทแห่งนี้ มาพร้อมกับแนวคิดที่อยากชวนทุกคนไปผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศที่สดชื่น กับการออกแบบพื้นที่สำหรับพักผ่อนและปรนนิบัติร่างกายให้พร้อมกลับมากระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง เรื่องของบรรยากาศถือเป็นสิ่งสำคัญของการออกแบบ สปา  ดังที่ Space Popular สตูดิโอออกแบบชื่อดังได้ออกแบบ Infinity Wellbeing สปาแห่งใหม่ให้มีบรรยากาศราวโอเอซิสกลางซอยสุขุมวิท 20 ภายนอกรายล้อมด้วยต้นไม้และสวนสีเขียว อีกทั้งโปรแกรมการปรนนิบัติร่างกายและผิวพรรณจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกคุณภาพดี ท่ามกลางทำเลที่รายล้อมด้วยตึกสูงระฟ้า การจราจรพลุกพล่าน และร้านรวงข้างทาง ทันทีเมื่อเข้ามาที่นี่จะรู้สึกราวกับหลุดเข้ามายังโลกใหม่ บรรยากาศเรียบง่าย ให้ทั้งความรู้สึกสบายและอบอุ่น เด่นด้วยการเน้นใช้ธีมสีหลักอย่าง “สีเขียวมินต์” เพื่อสื่อสารถึงความเป็นธรรมชาติและความร่วมสมัย โดยสะท้อนผ่านเหล่าเฟอร์นิเจอร์คอลเล็กชันล่าสุดของ Space Popular ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้นั่งเล่น เก้าอี้บาร์ เก้าอี้ปรับเอนได้ พร้อมที่วางขาโต๊ะข้าง และโต๊ะกาแฟ โดดเด่นด้วยโครงที่ทำจากท่อโลหะสีเขียวมินต์ร่วมกับเบาะสีฟ้าอ่อน ดีไซน์น่ารัก นุ่มสบาย นอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้ว ดีไซเนอร์ยังเลือกใช้โลหะทองแดงมาตีเป็นกริดตกแต่งเพดาน ต่อเนื่องลงมาเป็นโคมไฟสำหรับตกแต่งเหนือที่นั่งแต่ละตัวที่วางอยู่ในบริเวณโถงต้อนรับและพักคอย วัสดุและสิ่งของตกแต่งผลิตโดยช่างตัดเย็บฝีมือดีชาวไทย ผสมผสานกันอย่างละเอียดอ่อนกับวัสดุราคาไม่แพงหาได้ทั่วไปอย่าง แผ่นโฟมหุ้มบรรจุภัณฑ์สีขาว ด้วยการนำมาตกแต่งเป็นแพตเทิร์ตประดับบนเพดานของห้องทรีตเมนต์แต่ละห้อง แล้วซ่อนไฟไว้ด้านในให้แสงไฟลอดผ่านลงมาเป็นลำเเสงสีนวลตา เป็นไอเดียง่าย ๆ แต่สวยงามดูหรูหราขึ้นมาทันที พื้นที่ต้อนรับส่วนกลางและพื้นที่นั่งเล่น ออกแบบให้เชื่อมต่อกับห้องทรีตเมนต์ ซึ่งต้องเดินผ่านผนังที่ตกแต่งด้วยครีบไม้ทาสีเขียว 2 เฉดสี เพื่อสร้างมิติคล้ายเงายามถูกแสงตกกระทบ ห้องทรีตเมนต์มีทั้งแบบห้องสวีท ออกแบบให้หันหน้าไปสู่สวนที่ตกแต่งต้นไม้สวย […]

ZORBA SPACE สตูดิโอในตึกแถวเก่าสไตล์โคโลเนียล

รีโนเวตตึกแถวเก่า สไตล์โคโลเนียลสองชั้นบนถนน Nguyen Cong Tru ที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ให้เป็นสตูดิโอทำงานด้านภาพยนตร์และโฆษณาของคนรุ่นใหม่ โดยที่นี่ไม่ได้มีเพียงพื้นที่ของสำนักงานธรรมดา ๆ แต่ยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่ยืดหยุ่น เช่น มุมฉายภาพยนตร์ ร้านกาแฟ และแกลเลอรี่ โดยทีมสถาปนิก sgnhA เป็นผู้รับหน้าที่ รีโนเวตตึกแถวเก่า แห่งนี้ โดยยังคงเก็บรายละเอียดที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ดั้งเดิมของสถานที่ตั้งเอาไว้อย่างดี ผสมผสานไปกับวัสดุสมัยใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น เรียกได้ว่ารื้อถอนวัสดุหรือโครงสร้างดั้งเดิมน้อยมากที่สุด โดยเลือกที่จะเผยเสน่ห์ของพื้นผิวและองค์ประกอบบางอย่างไว้ อันเป็นของขวัญแห่งกาลเวลา เช่น ร่องรอยของสีลอกล่อนบนผนัง กระเบื้องปูพื้นลายตารางขาว-ดำ ตะแกรงลวดตาข่ายทำมือบริเวณเหนือวงกบไม้ ประตู และหน้าต่างไม้ รวมถึงคอร์ตยาร์ดในอาคาร ขณะที่การรีโนเวตพื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้งานใหม่ สถาปนิกได้ใช้โครงสร้างเหล็กเข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มและเป็นเสมือนการค้ำยันโครงสร้าง ร่วมด้วยแผ่นพอลิคาร์บอเนตวัสดุสมัยใหม่ทั้งในส่วนผนังและหลังคาสกายไลท์ เพื่อเรียกแสงธรรมชาติและความปลอดโปร่งเข้ามาสู่พื้นที่ ลดปัญหาความทึบตันของตึกแถวได้อย่างดี พื้นที่เด่น ๆ ที่อยากพูดถึง นั่นคือโถงอเนกประสงค์ซึ่งมีลูกเล่นด้วยการติดตั้งรางโค้งจากโครงเหล็ก ติดแผ่นพอลิคาร์บอเนตที่เลื่อนเปิด-ปิดได้ เมื่อต้องการแบ่งสัดส่วนการใช้งานหรือจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีสันจี๊ดจ๊าดแนวสตรีทที่คุ้นตาในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นม้านั่งพลาสติกสีแดงและสีน้ำเงิน เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่นำกลับมาใช้ใหม่ เคล้าด้วยกลิ่นอายวินเทจจากของตกแต่งแนวอวกาศ อีกโซนที่เป็นไฮไลต์คือบันไดวนสีเหลืองสดตรงพื้นที่คอร์ตกลาง ใช้เชื่อมต่อระหว่างชั้นล่างกับชั้นบนนำขึ้นสู่มุมทำงาน ที่มองเห็นบรรยากาศของท้องฟ้าและชมวิวเรือนยอดของต้นไม้อายุกว่าศตวรรษได้ ช่วยให้ไอเดียการสร้างสรรค์งานเป็นไปอย่างบรรเจิดและลื่นไหล ออกแบบ : sgnhA […]

TEWA CAFE คาเฟ่เปิดใหม่ริมแม่น้ำป่าสัก เล่าวิถีผูกพันกับสายน้ำที่อยุธยา

Tewa Cafe คาเฟ่ริมน้ำบรรยากาศดี โดดเด่นด้วยสไตล์ Thai Contemporary ที่แตกแขนงจากร้านอาหารแพเทวราชที่มีชื่อเสียงเก่าแก่คู่อยุธยามานานกว่า 40 ปี เมื่อรุ่นหลานเข้ามาสานต่อกิจการ จุดเริ่มต้นของการเพิ่มมิติในด้านของอาหารครั้งนี้ของ Tewa Cafe จึงเกิดขึ้น เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันที่มีหลากหลายกลุ่ม โดยได้เพิ่มเมนูอาหาร และเครื่องดื่มให้ตอบโจทย์กับยุคสมัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเมนูเครื่องดื่ม กาแฟ และอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน และเนื่องจากทำเลของร้านอาหารแพเทวราช และ Tewa Cafe ตั้งอยู่ตรงหัวมุมซึ่งเป็นจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำป่าสักกับคลองข้าวเม่า ทำให้สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำและวิถีชีวิตริมน้ำได้อย่างดี จึงเป็นที่มาของการนำปลาตะเพียนสัญลักษณ์ความผูกพันกับสายน้ำมาเป็นไอเดียการออกแบบ โดยสถาปนิกจาก BodinChapa Architects ได้ดึงรูปฟอร์มยามเมื่อนำปลาตะเพียนใบลานมาคลี่ออก แล้วจะเห็นเส้นสายของใบลาน 2 เส้นที่เกาะเกี่ยวกันไปมา ก่อนดึงฟอร์มของเส้นสายนั้น มาใช้เป็นเส้นที่เชื่อมเรื่องราว และทำให้เกิดโครงอาคารที่พิเศษแปลกตาเมื่อมาถึงด้านหน้าของอาคาร ทุกคนจะสะดุดตากับการเลือกใช้อิฐสีเทามาเรียงต่อกันเป็นแนวต้อนรับ โดยมีแพตเทิร์นคล้ายงานจักสานเรียงสลับกันไปมาจนเกิดลวดลาย ก่อนนำเข้าสู่พื้นที่ด้านในร้าน บริเวณชั้น 1 ประกอบด้วยพื้นที่ผลิตอาหารเครื่องดื่ม ส่วนต้อนรับลูกค้า พร้อมที่นั่งรองรับลูกค้า ซึ่งเน้นเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ เพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่นเรียบง่าย มีมุมโดดเด่นอย่างเคาน์เตอร์ที่นั่งที่ก่อฐานจากอิฐสีเทาเช่นเดียวกับด้านหน้า ล้อมต้นองุ่นทะเลไว้ตรงกลาง กลายเป็นจุดเด่นช่วยเติมชีวิตชีวาให้กับร้าน ขณะที่บริเวณผนังด้านหน้าอาคารบางส่วนออกแบบให้เป็นผนังทึบ และเปิดช่องแสงแค่บริเวณด้านล่าง เพราะอยากให้ลูกค้าได้โฟกัสที่มื้ออาหารตรงหน้า แล้วเลือกที่จะเปิดช่องแสงเฉพาะมุมมองที่มองเห็นฝั่งของวัด ชุมชนริมน้ำ […]

THE MOTIFS ECO HOTEL โรงแรมที่เปิดโอกาสให้สัมผัสสายลม และแสงแดดในแบบจันทบุรี

The Motifs Eco Hotel ตั้งอยู่ที่จันทบุรี บนถนนท่าแฉลบ ตัวโรงแรมห่างออกมาจากตัวเมืองไม่ไกล ภายในชุมชนเล็ก ๆ ที่เป็นบ้าน 2-3 ชั้น กับความตั้งใจของเจ้าของที่อยากสร้างโรงแรมในที่ดินตกทอดของครอบครัว ให้เป็นส่วนเดียวกันกับชุมชน เพื่อถ่ายทอดเสน่ห์และอัตลักษณ์ของเมืองจันท์ ทั้งยังส่งเสริมวิถีการใช้ชีวิตแบบ Eco จึงกลายมาเป็น The Motifs Eco Hotel โดยมีสถาปนิกที่โดดเด่นด้านการสร้างอาคารที่สอดรับกับธรรมชาติอย่างคุณแก้ว-คำรน สุทธิ จาก Eco Architect มาเป็นผู้รับหน้าที่ออกแบบให้ โรงแรมในแบบ Chantaburi-Modern-Craft สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งของจันทบุรีคือ หมู่ตึกแถวเก่าที่ชุมชนริมน้ำจันทบูร ซึ่งสิ่งที่ The Motifs Eco Hotel ได้เลือกนำมาใช้ คือเอกลักษณ์ของบานหน้าต่าง ลวดลาย และซุ้มโค้ง ที่ทำให้เมื่อมองผ่านจากห้องสู่ภายนอก หรือจากพื้นที่หนึ่งสู่อีกพื้นที่หนึ่งจะได้บรรยากาศที่โรแมนติกในแบบเมืองจันท์ มีความคล้ายบ้านเก่า แต่ในการปรับใช้นั้นก็ได้มีการคลี่คลายรายละเอียดเพื่อให้องค์ประกอบดั้งเดิมนั้น สามารถเข้ากันได้กับสถาปัตยกรรมโมเดิร์นได้ดียิ่งขึ้น ลดหลั่นความใหญ่โต เลือกใช้วัสดุ ให้ดูเป็นมิตรมากขึ้น เพราะอยู่ในชุมชนเล็ก ๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นบ้าน 2-3 ชั้น จึงทำให้โรงแรมนั้นต้องไม่ดูเป็น […]

เรือนกล้วยไม้ดีไซน์ล้ำ สั่งงานด้วยระบบอัจฉริยะ เอาใจเหล่านักปลูกโดยเฉพาะ

Greenhouse Orchid Punta del Este เรือนกล้วยไม้ ดีไซน์น่ารักในประเทศอุรุกวัย เอาใจนักปลูกโดยเฉพาะผู้คลั่งไคล้กล้วยไม้ นอกจากจะเป็นงานอดิเรกแล้ว กล้วยไม้สวย ๆ ที่ปลูกยังสามารถสร้างรายได้กลับคืนให้แก่เจ้าของได้ด้วย เพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้หลายคนเลือกที่จะใช้เวลาอยู่กับบ้าน งดออกไปเดินทางท่องเที่ยวเหมือนเช่นเคย แต่ด้วยความหลงใหลในพฤกษศาสตร์โดยเฉพาะกล้วยไม้ ทำให้ Ana เลือกที่จะใช้ความชอบและงานอดิเรกของเธอมาต่อยอดเป็นธุรกิจร้านกล้วยไม้ตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน โดยยกหน้าที่ให้ Mateo Nunes Da Rosa ช่วยออกแบบ Greenhouse Orchid Punta del Este ขนาด 20 ตารางเมตร หลังนี้ ให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ ในสภาพอากาศของประเทศอุรุกวัย พร้อมโจทย์ที่ว่า ตัวอาคารจะต้องดูโปร่ง ปรับเปลี่ยนได้ และสามารถสร้างสภาพอากาศที่เหมาะสมต่อการอยู่รอดของกล้วยไม้สุดที่รักของเธอ เพราะกล้วยไม้ต้องการสภาพอากาศที่เฉพาะเจาะจง การออกแบบกรีนเฮ้าส์ให้มีพร้อมทั้งฟังก์ชันและความสวยงามควบคู่กัน จึงเป็นเรื่องที่ผู้ออกแบบต้องคำนึงถึงมากเป็นพิเศษ โดยเรือนกล้วยไม้จะต้องควบคุมได้ทั้งอุณหภูมิแสง ความชื้น และการระบายอากาศ รูปร่างของอาคารถูกออกแบบมาในลักษณะหลังคาทรงจั่วอย่างเรือนปลูกอื่น ๆ ขณะที่ผนังโดยรอบเน้นความปลอดโปร่งเพื่อให้ชื่นชมกับสีสันของเหล่ากล้วยไม้ และรับแสงได้อย่างทั่วถึง ภายใต้ระบบที่ช่วยป้องกันลม ความเย็น และแสงแดดให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ต่อการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ ระหว่างอาคารทั้งสองหลังจะมีบานประตูเปิด-ปิดช่วยระบายอากาศ […]

MY MONTESSORI GARDEN เรียนรู้อย่างอิสระในโรงเรียนสีเขียว

โรงเรียนทางเลือก แนวมอนเตสซอรี่ (Montessori) ในประเทศเวียดนาม ที่ปลูกฝังให้เด็ก ๆ เจริญเติบโตไปตามธรรมชาติอย่างอิสระ โรงเรียนทางเลือก แห่งนี้มีชื่อว่า  My Montessori Garden ตั้งอยู่ในเมืองฮาลอง จังหวัดกวางนินห์ ประเทศเวียดนาม สร้างขึ้นโดยเน้นการเรียนการสอนแบบมอนเตสซอรี่ (Montessori) ซึ่งเป็นวิธีการศึกษาที่มีต้นกำเนิดในยุโรปช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และได้รับการพัฒนาในเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเน้นการเรียนการสอนที่เคารพความเป็นอิสระของเด็ก พร้อม ๆ กับสร้างสภาพแวดล้อมให้พวกเขาได้สำรวจและสัมผัสโลกผ่านประสาทสัมผัสของตนเอง เหมาะเป็นหลักสูตรสำหรับเด็กวัยอนุบาล ที่ควรได้รับการปลูกฝังให้เจริญเติบโตไปตามธรรมชาติ ไม่ใช่การยัดเยียดสิ่งที่ผู้ใหญ่อยากให้เป็นลงไปในตัวเด็ก ๆ ฉะนั้นการออกแบบที่นี่ของทีมสถาปนิกจาก HGAA จึงมีแนวทางที่สอดคล้องกับปรัชญาการเรียนการสอนดังกล่าว ด้วยการนำพฤติกรรมและธรรมชาติของเด็ก ๆ มาตั้งเป็นโจทย์ แล้วจึงออกแบบโรงเรียนให้ตอบสนองกับความต้องการของเด็ก ๆ โดยเน้นสร้างอาคารที่มีความเรียบง่ายจากโครงสร้างเหล็ก ซึ่งใช้เวลาการติดตั้งแล้วเสร็จอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อที่ดินที่เป็นแบบเช่าระยะยาวนี้ให้น้อยที่สุด และหากครบกำหนดตามสัญญาเช่าแล้ว ก็สามารถรื้อถอนเคลื่อนย้ายไปติดตั้งที่อื่นได้ทั้งหลัง ห้องเรียนจากโครงสร้างเหล็กมีจำนวน 2 ยูนิต ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายและขวาโดยเว้นพื้นที่ตรงกลางไว้เป็นทางสัญจร ด้านบนมีทางเดินเหนือศีรษะเชื่อมต่อถึงกัน เพื่อให้เด็ก ๆ ได้มีพื้นที่เดินเล่นมากขึ้น ภายในอาณาเขตของโรงเรียนที่มีเพียง 600 ตารางเมตร เพื่อความปลอดภัยได้ทำราวกันตกจากตะแกรงลวดตาข่าย สร้างความร่มรื่นด้วยพื้นที่สวน 2 […]

BLU395 อาคารที่ตั้งใจสร้างพลังงานดีๆคืนสู่ย่านและผู้คน

อาคารสีขาวที่ถูกคว้านเป็นทรงกรวยแปลกตาทั้งยังห่อหุ้มไว้ด้วยเหล็กตะแกรงนี้ตั้งอยู่ในย่านสะพานควาย ย่านที่พลุกพล่านที่สุดย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ เพื่อสร้างให้เกิดภาพจำเชิงสัญญะแก่ผู้สัญจร และเพื่อให้อาคารแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่จะสร้างพลังงานที่ดีคืนแก่บริบทของย่านและเหล่าผู้คนที่ผ่านไปมาริมถนน การออกแบบความเชื่อมโยงระหว่างภายนอกและภายในจึงเป็นส่วนสำคัญ และผู้ที่เข้ามารับหน้าที่นี้ก็คือ PHTAA สตูดิโอออกแบบที่โดดเด่นในการตีความสร้างนิยามใหม่ๆให้กับงานทุกชิ้นที่ได้ผ่านมือพวกเขา BLU395 เป็นอาคารแบบ Mixed Used ที่มีห้องพัก 84 ห้อง และร้านค้า 3 ร้านผสมเข้าด้วยกัน อาจกล่าวได้ว่าอาคารหลังนี้มีจริตแบบ Modernism อยู่ในตัว ด้วยการแสดงออกอย่างชัดเจนจากภายนอกถึงลักษณะของโครงสร้างและพื้นที่การใช้งาน จากภายนอก ผู้สัญจรจะสามารถมองเห็นตะแกรงเหล็กที่นำมาใช้เป็น Facade ได้อย่างเด่นชัด ทั้งเป็นองค์ประกอบที่สร้างขึ้นเพื่อกำหนดขอบเขต แต่ก็โปร่งพอที่จะเห็นลักษณะของอาคารได้อย่างชัดเจน พื้นที่พิเศษเพื่อพักสายตาแล้วเดินต่อ ส่วนที่โดดเด่นที่สุดของอาคาร BLU395หลังนี้คงหนีไม่พ้น ต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของโถงบันไดซึ่งวางตัวเป็นทรงกรวยตั้ง ค่อยๆบานออกที่ชั้นบน โถงบันไดนี้มีการขึงผ้าใบสีขาวเรียบเกลี้ยงเอาไว้กั้นระหว่างความเป็นภายนอกและภายใน ทั้งทำหน้ากรองแสง กั้นความเป็นส่วนตัว และทำหน้าที่รับเงาของแสงที่ส่องผ่านโครงสร้างเปลือกอาคารลงมาเกิดเป็นเส้นโค้งที่ล้อไปกับรูปฟอร์มและตำแหน่งของไม้ใหญ่ ขับเน้นให้มุมมองสายตาที่ไล่เรียงจากชั้นพื้นที่ไม้ใหญ่นั้นเหมือนเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับบาทวิถี ค่อยๆไล่เรียงขึ้นไปยังอาคาร และแหงนมองสู่ฟ้าในที่สุด พื้นที่นี้เป็นทั้งพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกพิเศษ ทั้งสำหรับตัวผู้ใช้อาคารเอง และผู้ที่สัญจรผ่านไปมา ได้พักสายตาจากหมู่ตึกและการจราจรที่คับคั่งอีกด้วย แฝงกลิ่นอาย “ตึกแถวไทย” ด้วยรูปแบบการใช้อาคารหลังนี้อาจพาให้นึกไปถึง “ตึกแถวไทย” ได้แต่ทั้งหมดนั้นก็ได้ถูกตีความและสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ในแบบ PHTAA โดยที่จากชั้นล่างซึ่งเปรียบได้กับพื้นที่หน้าตึกแถวที่มักมีสวนเล็กๆและพื้นที่หย่อนใจ ซึ่งมักเป็นพื้นที่แบบ Semi-Public ก่อนที่จะขึ้นสู่ชั้นบนด้วยโถงบันไดนำพาไปยังพื้นที่ส่วนตัวซึ่งเป็นห้องพักในที่สุด ประกอบกับพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ชั้นล่าง […]