นอกจากรายนาม 32 ชาติ ที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 ทั้งหน้าเก่าและน้องใหม่ สนามที่จะใช้จัดการแข่งขันทั้ง 64 แมทช์ ชุดแข่งและรองเท้าสตั๊ดที่นักฟุตบอลใช้สวมใส่ลงสนาม ตลอดจนรายชื่อผู้เล่นหรือซุปเปอร์สตาร์ที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้ชมในทัวร์นาเมนต์ที่กินระยะเวลาราว 1 เดือนแล้ว อีกหนึ่งในไฮไลท์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือลูกฟุตบอลที่ผู้คนทั่วโลกพากันจับจ้องไปที่มันอย่างคลั่งไคล้ หลังจากผู้ตัดสินให้สัญญาณเป่านกหวีดเริ่มเกม ลูกหนังลูกกลม ๆ ลูกเดียวนี้เองที่ผู้เล่นฝั่งละ 11 คน ต่างพยายามวิ่งไล่ล่าเพื่อนำมันมาอยู่ในการครอบครองและพังประตูไปสู่จุดหมาย
ในฟุตบอลโลกปี 1966 ที่ประเทศอังกฤษเป็นเจ้าภาพ Geoff Hurst (ปัจจุบันได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวินเป็น Sir Geoff Hurst) ยิงแฮตทริกใส่เยอรมันตะวันตก ในเกมนัดชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ (เก่า) พร้อมพาอังกฤษคว้าแชมป์โลกเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวจนถึงปัจจุบัน
Sir Geoff Hurst คือนักฟุตบอลคนสุดท้ายที่ทำประตูได้ด้วยลูกฟุตบอลหนังสุดคลาสิก (ซึ่งใช้แข่งขันในฟุตบอลโลกปี 1930 เป็นครั้งแรกเป็นต้นมา) ก่อนที่ในอีก 4 ปีต่อมา ฟุตบอลโลกปี 1970 ที่เม็กซิโก ได้เปลี่ยนมาใช้ลูกฟุตบอลขาวดำที่ผลิตโดย adidas เป็นครั้งแรกในชื่อรุ่นว่า “Telstar” แล้ววิวัฒนาการของลูกฟุตบอลทั้งในด้านดีไซน์และเทคโนโลยีการผลิตก็ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่อีกเลยนับจากนั้นเป็นต้นมา
จาก Adidas Telstar – 1970 Mexico สู่ Adidas Telstar 18 – 2018 Russia วิวัฒนาการของลูกหนังที่ใช้แข่งขันในฟุตบอลโลก จาก Adidas Telstar ฟุตบอลโลกปี 1970 ที่เม็กซิโก
ฟุตบอลโลกปี 1970 ที่เม็กซิโก นับเป็นครั้งแรกของ adidas ในการผลิตลูกฟุตบอลที่ใช้ทำการแข่งขันในฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการ โดยเปิดตัวลูกฟุตบอลที่มีชื่อรุ่นว่า “Telstar” ที่เป็นการเย็บชิ้นส่วนของหนังรูปทรงหกเหลี่ยมสีขาว จำนวน 20 ชิ้น ให้ติดกับหนังรูปทรงห้าเหลี่ยมสีดำ จำนวน 12 ชิ้น โดยยึดเอาแม่แบบ Buckminster ของสถาปนิกชาวอเมริกัน Buckminster Fuller ผู้คิดค้น Geodesic Dome มาดีไซน์ลูกฟุตบอล Telstar จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของลูกบอลขาวดำสุดคลาสสิก แต่ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้มีผลต่อการรับชมฟุตบอลโลกผ่านการถ่ายทอดสดทางหน้าจอโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในปีเดียวกันนั้น โดยลูกฟุตบอลสีขาวดำทำให้ผู้ชมสามารถมองเห็นลูกฟุตบอลได้ชัดเจนขึ้นนั่นเอง
Did you know?
Wilfried Van Moer กองกลางทีมชาติเบลเยียม เป็นผู้ทำประตูแรกด้วยลูกฟุตบอลขาวดำ Telstar ในเกมนัดที่ 2 ของฟุตบอลโลก ปี 1970 ซึ่งสุดท้าย เบลเยียม เอาชนะ เอล ซัลวาดอร์ ไปได้ 3–0
อ่านต่อ: Buckminster Fuller – ผู้อุทิศประสบการณ์ทั้งหมดเพื่อเพื่อนมนุษย์
Telstar Durlast ฟุตบอลโลกปี 1974 ที่เยอรมันตะวันตก
“Telstar Durlast” เป็นลูกฟุตบอลขาวดำเวอร์ชั่นอัพเดตจาก Telstar ในปี 1970 ที่ปรับปรุงในส่วนของข้อความที่พิมพ์ลงบนลูกฟุตบอลมาใช้สีดำแทนที่สีทอง ซึ่งนอกจากนี้ยังมีลูกฟุตบอลสีขาวล้วนอีกหนึ่งใบ สำหรับใช้ทำการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า “Adidas Chile” ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงลูกฟุตบอลที่เคยใช้ทำการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 1962 ที่ประเทศชิลี
Did you know?
วันที่ 14 มิถุนายน ปี 1974 เยอรมันตะวันตก ชาติเจ้าภาพ ลงเล่นนัดเปิดสนาม พบกับ ชิลี ที่สนาม Olympiastadion ใน West Berlin และบดเอาชนะไปได้ 1-0 จากประตูชัยของ Paul Breitner ตำนานลูกหนังของบาเยิร์น มิวนิค และเยอรมนี ซึ่งลูกฟุตบอลที่เข้าไปซุกก้นตาข่ายคือ “Adidas Chile” นั่นเอง และในสนามเดียวกันนี้ในนัดชิงชนะเลิศปีเดียวกัน Paul Breitner ยังแผลงฤทธิ์ใส่เนเธอร์แลนด์ที่นำทัพโดย Johan Cruijff ด้วยการยิงจุดโทษเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ก่อนที่ Gerd Müller จะทำประตูชัย พาเยอรมันตะวันตกคว้าแชมป์โลกมาครองได้เป็นสมัยที่ 2
Tango Durlast ฟุตบอลโลกปี 1978 ที่อาร์เจนตินา
จากความคลาสสิกของลูกหนังลายห้าเหลี่ยมและหกเหลี่ยมสีขาวดำถูกปรับปรุงให้หรูหรา ดูสนุกสนานขึ้น และเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณที่สะท้อนความเป็นละตินอเมริกาในชื่อรุ่น “Tango Durlast” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากท่าเต้นพื้นเมืองของชาวอาเจนไตน์อันเลื่องชื่อ แล้วเปลี่ยนจากลวดลายขาวดำเป็นการดีไซน์ลวดลายวงกลมสีดำ 12 ดวงบนพื้นหนังเย็บลายห้าและหกเหลี่ยมสีขาวล้วนTango Espana ฟุตบอลโลกปี 1982 ที่สเปน
แม้ลวดลายจะดูไม่แตกต่างไปจาก Tango Durlast แต่ความพิเศษของลูกฟุตบอล “Tango Espana” ก็คือเป็นครั้งแรกที่ adidas มีการใช้เทคโนโลยีการผลิตลูกฟุตบอลโดยที่หนังไม่มีการดูดซึมน้ำ ซึ่งจะทำให้มีผลต่อลูกฟุตบอลที่ใช้แข่งขันมีน้ำหนักเบา แม้ต้องเล่นในสภาพสนามที่เปียกชื้นก็ตาม
Azteca ฟุตบอลโลกปี 1986 ที่เม็กซิโก
ในปีที่เม็กซิโกได้กลับมาเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกอีกครั้ง และการดีไซน์ลวดลายลูกฟุตบอลรุ่น Azteca ยังคงเป็นวงกลมสีดำ 12 ดวงบนพื้นสีขาว แต่คราวนี้มีการเปลี่ยนมาใช้หนังสังเคราะห์ในฟุตบอลเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังเคลือบด้วย polyurethane เพื่อป้องกันความชื้นอีกหนึ่งชั้น ในขณะที่ลวดลายที่ปรากฏในวงกลมนั้น เป็นการพิมพ์รายละเอียดที่ได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมแบบ Aztec และภาพจิตรกรรมฝาผนังของเม็กซิโก Azteca จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งลูกฟุตบอลที่ช่วยสร้างสีสันให้กับฟุตบอลโลกได้ไม่แพ้ปีไหนๆ
อ่านต่อ ฟุตบอลโลก ปี 1990-2018 หน้าถัดไป