รีโนเวตบ้านทาวน์เฮ้าส์ ขนาด 3 ชั้นให้โปร่งโล่งและอยู่สบาย - room life

CHANTAVILASVONG HOUSE บ้านทาวน์เฮ้าส์โปร่งสบาย ใกล้ชิดธรรมชาติจากภายใน

ไอเดียแต่งบ้าน และการ รีโนเวตบ้านทาวน์เฮ้าส์: บ้านของคุณฉันท์ฉาย ฉันทวิลาสวงศ์

ใครจะรู้ว่าในย่านบางนาที่ห่างจากตัวเมืองไม่ไกลนัก ยังมีหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบและอบอุ่นอย่างน่าประหลาดใจเพราะบ้านแต่ละหลังต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี จนอดนึกถึงสมัยยังเด็กไม่ได้ ที่เรามักวิ่งซนเข้าออกบ้านโน้นบ้านนี้ได้อย่างสนิทชิดเชื้อ เรากำลังพูดถึงบ้านของ คุณว่าน - ฉันท์ฉาย ฉันทวิลาสวงศ์ เจ้าของบ้านผู้ใจดี เธอเติบโตมากับหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นแห่งนี้ และพร้อมเปิดบ้านต้อนรับเรา
ให้เข้าไปสัมผัสกับความเรียบง่ายและไลฟ์สไตล์ที่ลงตัว

“หมู่บ้านนี้ว่านย้ายเข้ามาอยู่ตั้งแต่เด็ก ๆ ค่ะ แต่บ้านจริง ๆ ที่อยู่กับครอบครัวจะอยู่ถัดไปอีกหลังหนึ่ง และข้าง ๆ ก็เป็นบ้านของคุณน้า พอว่านเริ่มเรียนสถาปัตย์ที่บ้านก็มีแผนจะซื้อบ้านอีกหลังไว้ให้ เพราะงานของว่านค่อนข้างใช้พื้นที่ในการทำงานมาก ซึ่งก็ตรงกับที่คุณน้าต้องการประกาศขายบ้านหลังนี้พอดีจริง ๆ แล้วว่านเคยเข้ามาดูกับคุณพ่อบ่อย ๆ ตั้งแต่ตอนก่อสร้างเพราะคุณพ่อเป็นสถาปนิก ท่านจะคอยสอนว่าอันนี้คืออะไรเรียกว่าว่านเริ่มชอบบ้านหลังนี้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วละค่ะ ถือเป็นสไตล์ที่ว่านชอบ โล่ง ๆ เป็นปูนและไม้ ไม่ต้องมีอะไรมากค่ะ”

แบบห้องนั่งเล่น ฉันท์ฉาย ฉันทวิลาสวงศ์
คุณว่าน - ฉันท์ฉาย ฉันทวิลาสวงศ์  กับมุมทำงานที่มองเห็นพื้นที่สีเขียวได้ทั้งหน้าบ้าน และหลังบ้านอย่างสบายตา

มุมนั่งเล่นเอาต์ดอร์

บ้านทาวน์เฮ้าส์ขนาด 3 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 150 ตารางเมตรดูเรียบง่ายหลังนี้ มีสิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากบ้านหลังอื่น ๆ คือการนำธรรมชาติมาแต่งเติมตามมุมต่าง ๆ อย่างบ่อน้ำและสวนบริเวณหน้าบ้านให้ร่มรื่นและผ่อนคลายตั้งแต่ก้าวเข้ามาเยือน ซึ่งมุมนี้ก็สามารถเปิดเชื่อมพื้นที่และบรรยากาศชิล ๆ กับห้องนั่งเล่น มุมโปรดของคุณว่านที่อยู่ติดกัน ภายในบ้านชั้นหนึ่งออกแบบให้เป็นแบบโอเพ่นสเปซ มีทั้งมุมนั่งเล่น มุม
รับประทานอาหารที่ใช้โต๊ะกลางเป็นพื้นที่ทำงานได้ในตัว และห้องครัวที่อยู่ด้านหลัง มุมนี้มีการจัดสวนแขวนบนผนังอิฐทรายกับบ่อน้ำเล็ก ๆ ไว้นอกบ้านด้วย ไอเดียการออกแบบพื้นที่แบบโอเพ่นสเปซมีข้อดีคือ สามารถเปิดรับลมให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกจากหน้าต่างที่มีทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน จึงแทบไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศในวันที่อากาศดี ๆ เลย

แบบห้องนั่งเล่น แบบห้องทำงาน
สำหรับบ้านที่เป็นโฮมออฟฟิศโต๊ะทำงานอาจกลายเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ แนะนำให้ลองมองหาโต๊ะที่มีหน้าท็อปกว้างเป็นพิเศษประมาณ 75 - 80 เซนติเมตรขึ้นไป จะช่วยให้คุณใช้งานได้หลากหลายขึ้น / หน้าต่างบานเกล็ดนอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่เปิด - ปิดแล้ว ยังสามารถวางเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างตู้เย็นเพื่อช่วยระบายความร้อนได้อีกทาง

TIP: โต๊ะคอนโซลขนาดมาตรฐานทั่วไปมักมีความกว้างอยู่ที่ 30 - 45 ซม. และยาว 30 - 200 ซม. ส่วนความสูง อยู่ที่ประมาณ 50 - 85 ซม. โต๊ะแบบนี้สามารถดัดแปลงใช้เป็นโต๊ะเขียนหนังสือหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วย รวมถึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกท็อปโต๊ะไม้หรือลามิเนตเป็นพิเศษเลือกชนิดที่มีการลงน้ำยาป้องกันน้ำและความชื้น จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น หากเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ทาสีย้อมไม้สำหรับใช้ภายนอก หากนำมาวางนอกบ้าน คุณต้องทาสีย้อมไม้ซ้ำทุก ๆ 3 ปี แต่ถ้าเคลือบด้วยแล็กเกอร์ต้องทาแล็กเกอร์ซ้ำทุก ๆ 1 - 2 ปี 

ชั้นวางหนังสือ
นอกจากจะเป็นพื้นที่ทำงานแล้ว ยังมีมุมอ่านหนังสือเล็ก ๆ ที่ทำชั้นไม้แบบไม่สูงมากนักให้สามารถนั่งอ่านหนังสือได้ และเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำและโถงบันไดที่ดูโปร่งหากเปิดหน้าต่างก็สามารถรับลมได้ทั่วถึงหมดทั้งชั้น

TIP: หากมีพื้นที่แคบในการวางโต๊ะ แต่มีของใช้และอุปกรณ์เสริมเยอะ  แนะนำให้หาโต๊ะข้างหรือตู้แบบมีล้อเลื่อนมาเป็นผู้ช่วยจัดเก็บสิ่งของหรือเลือกใช้ขาโต๊ะที่ออกแบบให้เป็นตู้เก็บของในตัวก็ได้

ขยับขึ้นมาที่ชั้นสอง ได้รับการแบ่งสัดส่วนให้เป็นห้องทำงานแบบสตูดิโอ เห็นได้จากโมเดลสมัยเรียนและรูปภาพบางส่วนที่วางให้เห็นอยู่ในบริเวณนี้ พื้นและผนังเป็นปูนเปลือยทำความสะอาดง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องความเลอะเทอะที่อาจเกิดขึ้น ทั้งยังดูโปร่งโล่ง มีเฟอร์นิเจอร์เพียงน้อยชิ้นอย่างโต๊ะทำงาน ชั้นวางหนังสือติดผนัง และทำมุมนั่งอ่านหนังสือเล็ก ๆ รวบรวมหนังสือในแนวต่าง ๆ ที่คุณว่านชื่นชอบและสนใจเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำที่ทำช่องสกายไลท์ให้ความรู้สึกกึ่งเอ๊าต์ดอร์ สามารถมองเห็นท้องฟ้าและได้รับแสงแดดอ่อน ๆ ช่วยฆ่าเชื้อโรคและขจัดความชื้น

รีโนเวตบ้านเก่า
ชั้นสองออกแบบพื้นที่ให้เปิดโล่งเชื่อมถึงกันทั้งชั้นตั้งแต่โถงบันไดไปจนถึงห้องด้านใน ใช้ม่านกั้นพื้นที่แทนการทำประตูแบบถาวรมีการโชว์สีปูนเปลือยทั้งพื้นและผนังให้ดูเหมือนสตูดิโอทำงานย่อม ๆ
แบบห้องนั่งเล่น
ผ้าม่านกรองแสงที่ดีนั้น ควรมีน้ำหนักเบา สามารถยอมให้แสงผ่านได้มากพอสมควร เลือกสีเรียบ ๆ สบายตา ไม่ฉูดฉาดเกินไปเพราะแสงที่ส่องมาจะรบกวนสายตาเราได้
แบบห้องนั่งเล่น ฉันท์ฉาย ฉันทวิลาสวงศ์
ก่อปูนทำเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ใช้วางของและนั่งเล่นได้ โดยไม่ต้องมีเฟอร์นิเจอร์อื่นใดให้มากชิ้น

ถัดมาที่ชั้นบนสุดเป็นส่วนของห้องนอน ทำประตูไม้แบบบานคู่เล็ก ๆ กั้นพื้นที่ระหว่างโถงบันไดให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว เมื่อเข้ามาถึงจะเห็นห้องนอนโปร่งโล่งสีขาว ให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายตา มีเตียงอยู่กลางห้อง ตกแต่งฝ้าเพดานด้านบนแบบโค้งรับกันได้ดี ยิ่งมีแสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องผ่านม่านสีขาวบางเบา ยิ่งสร้างบรรยากาศให้ห้องนอนแห่งนี้มีอารมณ์ชวนฝันได้อย่างบอกไม่ถูก ถึงบ้านหลังนี้เจ้าของบ้านจะไม่ได้สร้างเองตั้งแต่แรก แต่ก็เหมือนบ้านที่ออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ ซึ่งมีที่มาจากความเข้าใจในตัวบ้านและความเข้าใจในความต้องการของตัวเองอย่างชัดเจนด้วยเช่นกัน

แบบห้องนอน ไอเดียแต่งห้องนอน
ตกแต่งห้องนอนโทนสีขาวให้ดูสว่างสบายตาเข้ากับม่านสีขาวบางเบาที่ดึงแสงธรรมชาติจากหน้าต่างและระเบียงให้เข้ามาได้อย่างเต็มที่ ภายในบรรยากาศสุดเรียบง่ายนี้  มีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์เพียงน้อยชิ้น จุดเด่นอยู่ที่การก่อปูนทำผนังหัวเตียง และทำแท่นปูนไว้ข้างหน้าต่างเข้ากับพื้นปูนเปลือยสามารถใช้วางของและนั่งชมวิวชิล ๆ ได้ในตัว

TIP: คนที่ซื้อเพียงฟูกที่นอนแล้วนำไปปูกับพื้นเลย ควรเลือกฟูกที่หนา 6 นิ้วขึ้นไป เพื่อให้ลุกนั่งได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าปูบนเตียงความหนาของฟูกควรอยู่ที่ประมาณ 40 - 50 เซนติเมตรเพื่อใช้งานได้สะดวก

แบบห้องน้ำ ไอเดียแต่งห้องน้ำ ห้องน้ำปูนเปลือย
หากห้องน้ำมีช่องหน้าต่างด้านข้างที่ไม่สามารถรับแสงได้  การทำสกายไลท์ก็เป็นตัวช่วยที่ดี เพราะดึงแสงแดดเข้ามาช่วยฆ่าเชื้อโรค และลดความอับชื้นในห้องน้ำได้

TIP: การเลือกซื้อฝักบัว ควรเลือกหัวสเปรย์แบบที่สามารถปรับสายน้ำให้ละเอียดหรือหยาบได้และทำจากวัสดุที่ไม่เป็นสนิม เช่น ทองเหลืองชุบโครเมียม


เจ้าของ คุณฉันท์ฉาย ฉันทวิลาสวงศ์
เรื่อง Gobbi Chirawat
ภาพ นันทิยา, ธนาวุฒิ
ผู้ช่วยช่างภาพ ลิขสิทธิ์
สไตล์ ประไพวดี โภคสวัสดิ์
อ่านต่อบทความแนะนำ


บ้านรีโนเวตกลิ่นอายอบอุ่นที่ชวนกดปุ่ม SNAP!