เป็นที่ทราบกันดีว่า ห้องครัว มักจะเป็นอีกหนึ่งห้องที่ต้องเผชิญกับปัญหา “รก” ด้วยอุปกรณ์ข้าวของ เครื่องปรุง สารพัดอย่างที่จำเป็นต้องใช้ในการประกอบอาหาร ยิ่งครัวบ้านไหนมีครัวขนาดเล็กแต่ปริมาณของสิ่งของต่างๆ มากมายจนล้นพื้นที่จัดเก็บแล้ว ปัญหาคลาสสิกจะยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเป็นเท่าตัวอย่างแน่นอน วิธีเลือกตู้เก็บของ
ในขณะเดียวกัน การออกแบบ ห้องครัว ให้มีพื้นที่จัดเก็บให้เพียงพอยังคงไม่ใช่ประเด็นที่เจ้าของบ้านส่วนใหญ่ให้ความสำคัญนัก เนื่องด้วยปัญหาครัวรกมักจะเกิดหลังจากที่ลงมือใช้ห้องครัวประกอบอาหารมาสักพักหนึ่ง การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุจึงเป็นทางออกที่ทำได้ง่ายที่สุด อย่างเช่นการเพิ่มชั้นวางของให้สามารถจุบรรดาเครื่องปรุงเครื่องเทศที่ต้องใช้ในครัว แต่จะดีกว่าไหม หากครัวที่บ้านผ่านการออกแบบด้วยการคิดคำนึงถึงการใช้งานจริง ซึ่งจำเป็นต้องมีพื้นที่จัดเก็บที่พอดีกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว โดยมีตู้เก็บของ ลิ้นชัก ตะแกรงชั้นวาง เป็นหน่วยรองรับการใช้งานเหล่านี้ ซึ่งการออกแบบพื้นที่จัดเก็บในครัวแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันคือ
1. ส่วนที่จำเป็นต่อการใช้งานพื้นฐาน
การใช้งานพื้นฐานในครัวเริ่มต้นตั้งแต่การเตรียม การปรุง การเสิร์ฟ ซึ่งเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ช้อน มีด ส้อม ทัพพี จาน ชาม ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะถูกเก็บไว้ในลิ้นชักภายในตู้เก็บของชั้นล่าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นส่วนหนึ่งของเคาน์เตอร์ครัวสามารถหยิบจับได้ง่าย ถนัด สะดวก และอยู่ในตำแหน่งความสูงที่เอื้อมได้ถึงโดยไม่ต้องก้มหรือเขย่ง ลิ้นชักจึงเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับตู้เก็บของด้วยลักษณะการใช้งานที่ต้องสไลด์ออก จึงช่วยในการซ่อนอุปกรณ์เหล่านี้ได้ง่ายตอบโจทย์เรื่องความสะดวก ลิ้นชักมีหลายขนาด ซึ่งความสามารถในการรับน้ำหนักก็แตกต่างกันด้วย ได้แก่
ลิ้นชักขนาดเล็ก จะรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 30-40 กิโลกรัม สำหรับเก็บอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น ช้อน ส้อม มีด ตะหลิว ทัพพี มีแผงช้างเตี้ย ใช้กับหน้าบานสูงไม่เกิน 20 เซนติเมตร(ขนาดของลิ้นชักเปิด 1 สเต็ป) แบบนี้จะมีแผงด้านหน้ามากับชุดลิ้นชัก (Inner drawer)
ลิ้นชักขนาดใหญ่ จะรับน้ำหนักได้มากกว่า 50 กิโลกรัม สำหรับเก็บอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เช่น จาน ชาม หม้อ มีแผงข้างหรือราวกันตกเพื่อป้องกันข้าวของหลุดร่วง ใช้กับหน้าบานสูงมากกว่า 25 เซนติเมตร และมีแผงกั้นด้านหน้ามากับชุดลิ้นชัก (Inner drawer)
หัวใจสำคัญของลิ้นชักคือ รางลิ้นชัก เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การใช้งานเปิดปิดเป็นเรื่องง่าย สะดวก คล่องตัว โดย GIO เลือกใช้อุปกรณ์รางลิ้นชักจาก BLUM แบรนด์ระดับโลกที่มีชื่อเสียงในการผลิต Fitting ซึ่งได้มาตรฐานระดับสากล มีคุณภาพสูงสามารถทนต่อแรงกระแทกเปิดปิดได้ดี ช่วยให้การหยิบขณะประกอบอาหารเป็นเรื่องที่รวดเร็วมากขึ้น
2. ส่วนที่เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน
อีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ครัวเป็นระเบียบยิ่งขึ้นในตู้เก็บของคือ อุปกรณ์ตะแกรง หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ติดตั้งร่วมกับประเภทของตู้ในแต่ละหมวดหมู่นั้นๆ เป็นตัวแบ่ง section ของอุปกรณ์ให้เป็นหมวดหมู่ ง่ายต่อการหยิบจับ เช่นตะแกรงแบ่งช่องเก็บเครื่องปรุง ซอส น้ำจิ้ม ขนมขบเคี้ยว และอุปกรณ์ขนาดเล็กที่อื่นๆ ที่จำเป็นต้องมีในครัว ตะแกรงเป็นตัวช่วยอีกหนึ่งส่วนที่ทำให้ใช้ประโยชน์ในตู้เก็บของได้เยอะขึ้นอย่างในมุมตู้ขนาดเล็กที่ยากต่อการหยิบจับ ในการเลือกใช้ตะแกรงนอกจากจำเป็นที่จะต้องเลือกที่สอดรับกับการใช้งานแล้ว ควรต้องพิจารณาเรื่องคุณภาพของวัสดุเป็นองค์ประกอบด้วย
ชุดเครื่องครัว GIO เลือกใช้ตะแกรงนำเข้าจากประเทศอิตาลี Inoxa ซึ่งทำมาจากวัสดุไททาเนียมโค้ตติ้ง อย่างรุ่น ELITE ที่มีความสวยงามหรูหรา มีราคาที่เหมาะสม ในขณะที่คุณภาพได้มาตรฐานยุโรป เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าที่อยากเพิ่มฟังก์ชันในการจัดเก็บในพื้นที่ครัว หากเลือกใช้ไม่ถูกหรือเป็นกังวลใจว่าจะเลือกได้ไม่ตรงกับการใช้งาน เพราะความหลากหลายของตะแกรงที่มีในท้องตลาด สามารถขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ ดีไซเนอร์ ผู้ออกแบบของ GIO ได้ เพื่อฟังก์ชันจัดเก็บในครัวตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงใจมากที่สุด ลดปัญหาครัวรกไม่เป็นระเบียบ
3. ส่วนที่ออกแบบเพื่อความสวยงามและมีประโยชน์
ต้องยอมรับเลยว่าความสวยงามของครัวคืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ยังคงมีความจำเป็น นอกเหนือจากฟังก์ชันที่ครบครันในการทำครัวแล้ว ซึ่งอุปกรณ์เสริมในเรื่องของความสวยงามนี้ได้แก่
บานสไลด์ อุปกรณ์บานสไลด์ จะช่วยเพิ่มลูกเล่นในการใช้งาน เพิ่มสไตล์การออกแบบบานเปิดให้ครัวมีรูปแบบหลากหลาย ไม่สิ้นเปลืองพื้นที่ ช่วยให้ครัวขนาดเล็กใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า
ไฟแสงสว่าง สำหรับไฟแสงสว่างภายในครัวและเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ จะมีสองส่วนคือ สำหรับการใช้งานหลักคือ ไฟใต้ตู้ เพื่อให้แสงสว่างเวลาทำงานบนเคาน์เตอร์ เพื่อให้ประกอบอาหารได้ปลอดภัย อีกส่วนคือส่วนของงานตกแต่ง และเพิ่มประโยชน์งานภายในตู้ ตัวช่วยที่จะทำให้หยิบจับสิ่งของได้ง่ายขึ้น มองเห็นอุปกรณ์ต่างๆ ได้ชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่จะติดตั้งเฉพาะในจุดที่แสงสว่างส่องไม่ถึง แต่จะเพิ่มเติมให้เกิดความสวยงามก็ย่อมได้
ระบบแสงสว่างที่ GIO เลือกใช้คือ L&S แบรนด์ไฟ LED อันดับหนึ่งของโลกที่ผลิตหลอด LED คุณภาพสูง ช่วยประหยัดไฟฟ้า อายุการใช้งานยาวนาน คุ้มค่าในระยะยาว ให้ระดับแสงสว่างที่สบายตา เหมาะกับงานตกแต่งในส่วนต่างๆ อย่างใต้ชั้นลอยในครัว ในตู้เคาน์เตอร์ครัว walk-in closet รวมถึงตกแต่งฝ้าเพดาน และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ภายในบ้านด้วย
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงหลักการเบื้องต้นของการจัดการพื้นที่ภายในตู้เคาน์เตอร์ครัวเท่านั้น ผู้อ่านสามารถนำไปพิจารณาประกอบการเลือกครัวเข้าบ้านได้ แต่ถ้าไม่มั่นใจแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยตรงจะดีกว่า เพื่อที่จะเลือกใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างถูกต้อง ประหยัดงบประมาณ ประหยัดเวลา และตรงกับการจัดเก็บข้าวของในครัวของเราด้วย ซึ่ง GIO ยินดีให้บริการให้คำปรึกษาทั้งในส่วน walk-in closet,ชุดวางทีวี, ตู้เสื้อผ้า ไม่ได้ขีดจำกัดที่ชุดครัวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น