รู้ไหม ? อากาศที่เราหายใจ มีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง

ในทุก ๆ ลมหายใจที่สูดเข้าไป แน่ใจได้อย่างไรว่าร่างกายได้รับอากาศที่บริสุทธิ์เพียงพอแล้ว อากาศที่หมุนเวียนอยู่ภายในบ้าน สถานที่ที่ควรจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่สุดนั้น ปลอดภัยเพียงพอต่อการดำรงชีวิตหรือไม่ จากสถาณการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM. 2.5 ที่มีค่าเกินมาตรฐานในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบทางสุขภาพอย่างชัดเจน ยิ่งทำให้เราไม่ไว้ใจภัยเงียบที่มองไม่เห็น มาพร้อมกับอากาศที่หายใจ หลาย ๆ คนจึงเริ่มหันมาดูแลใส่ใจ เรื่องสุขอนามัยความสะอาดของอากาศภายในบ้านกันมากขึ้นด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไป เช็คให้ชัวร์

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความไม่บริสุทธิ์ของอากาศ

ตามสภาวะอากาศที่เป็นปกติปริมาณของก๊าซต่าง ๆ ในอากาศนั้นจะมีอยู่ค่อนข้างคงที่ตามสัดส่วนดังนี้คือ ก๊าซไนโตรเจนมีอยู่ประมาณ 78.09% ก๊าซออกซิเจนมีประมาณ 20.94% ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเฉื่อยจะมีอยู่เพียง 0.97% แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่สัดส่วนของก๊าชดังกล่าวนั้นเปลี่ยนแปลง หรือมีปริมาณของฝุ่นละอองในอากาศ ไอน้ำ เขม่า และกัมมันตภาพรังสี ปะปนอยู่ในอากาศมากเกินไปจะเปลี่ยนเป็นอากาศเสียได้

โดยแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศ ที่สำคัญของบ้านเรา แบ่งเป็นได้เป็นแหล่งกำเนิดจากยานพาหนะ ลองสังเกตเมื่ออยู่ท่ามกลางการจราจร ที่ติดขัด เครื่องยนต์บนท้องถนนต่างพ่นไอเสียออกมามากมาย พื้นที่ตรงนั้นจะเต็มไปด้วย ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน สารประกอบไฮโดรคาร์บอน และฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนที่เกิดจากการเผาไหม้เครื่องยนต์ รวมไปถึงสารตะกั่วและก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอันตรายกับร่างกายทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งแหล่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ มลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิดอุตสาหกรรม ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงและกระบวนการผลิต ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งอุตสาหกรรม ก็ได้รับผลกระทบได้จากลมที่พัดเอาของฝากที่ไม่อยากได้มากระจายให้ถึงหน้าบ้าน

ซึ่งนอกจากก๊าชชนิดต่าง ๆ ที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้วยังมีอีกปัจจัยที่มีผลทำให้เกิดมลพิษทางอากาศนั่นก็คือ “ฝุ่นละออง” ที่มีตั้งแต่ขนาด 0.002 ไมครอน ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จนถึงขนาดใหญ่กว่า 500 ไมครอน ทั้งเกิดจากธรรมชาติอย่างฝุ่นจากดิน ทราย หรือเกิดจากการจราจร30% ของฝุ่นละอองที่พบ ล้วนมีต้นกำเนิดจากการกิจกรรมประจำวันของเราเองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะขยับไปทางไหน มนุษย์ก็เป็นหนึ่งในทางของการผลิตฝุ่นละอองทั้งสิ้น

ผลกระทบทางร่างกายและจิตใจจากการได้รับอากาศที่ไม่บริสุทธิ์

คงเคยได้ยินมาว่า “ คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์จะอายุยืน ” นั่นเป็นเพราะอากาศที่มีคุณภาพดีจะเต็มไปด้วยส่วนประกอบที่ดีต่อระบบทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นก๊าซไนโตรเจนซึ่งเป็นองค์ประกอบของโปรตีนมนุษย์ และการที่อากาศมีก๊าซไนโตรเจนมาก เป็นผลให้ปริมาณของออกซิเจนในอากาศจางลง จนใช้อากาศสำหรับหายใจได้โดยปลอดภัย ส่วนก๊าซออกซิเจนนั้น เป็นก๊าชที่จำเป็นต่อร่างกายของมนุษย์มาก ๆ เราต้องหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปเพื่อใช้ในขบวนการเผาผลาญสารอาหารให้เป็นพลังงาน และเพื่อให้เซลส์ต่างๆ ของร่างกายใช้หายใจ ลองคิดดูว่าหากอากาศที่เราหายใจ ดังนั้นถ้าเซลส์อวัยวะในร่างกายได้รับปริมาณออกซิเจนที่ลดลงจะทำให้อวัยวะนั้น ๆ ตายได้ และเราเองก็จะเสียชีวิตด้วย

หากเราสูดดมอากาศที่ปนเปื้อนด้วยฝุ่นละอองเข้าไปเป็นปริมาณมาก แม้ฝุ่นเหล่านี้จะไม่ทำให้เราเสียชีวิตในทันที่ แต่การสะสมฝุ่นละอองในปอดของเราก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน ฝุ่นละอองในอากาศมีทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่ แม้ว่าฝุ่นอองขนาดใหญ่นี้ จะไม่มีผลต่อสุขภาพมากนัก เพียงแต่จะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจส่วนต้น เช่นอาการคัดจมูก หายใจไม่สะดวก มีอาการคันตามผิวหนังสำหรับกลุ่มคนที่มีอาการภูมิแพ้ก็อาจจะเกิดความเจ็บป่วยตามมาได้ ส่วนฝุ่นละอองขนาดเล็ก แม้จะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่เมื่อเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่างและถุงลมปอด ส่งผลให้เกิดโรคทางเดินหายใจหรือโรคปอดต่าง ๆ สามารถทำลายเยื่อหุ้มปอด หากได้รับในปริมาณมากเป็นเวลานาน ๆ จะเกิดการสะสม ทำให้เกิดพังผืด ส่งการทำงานของปอดลดลงได้

ควบคุมคุณภาพของอากาศในบ้านได้อย่างไรบ้าง

รู้ไหมคะว่าอากาศในบ้านมีมลพิษมากกว่าอากาศด้านนอกถึง 5 เท่า ! เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าเมื่อเราไม่อยู่บ้านอากาศภายในบ้านเราจะไม่ถูกหมุนเวียน และถ่ายเท ช่องเล็ก ๆ ตามหน้าต่างและประตูต่างก็เชื้อเชิญให้อากาศจากด้านนอกเข้ามาสะสมอยู่ในห้องตลอดทั้งวั้น เมื่อกลับเข้าบ้านในเวลาเย็นหากไม่มีการเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศเก่าออกไปเลย คุณก็จะสูดดมอากาศเสียเหล่านั้นวนไปเรื่อย ๆ วิธีที่จะควบคุมคุณภาพอากาศภายในบ้านให้สะอาดอยู่ในเกณฑ์ปกติได้นั้นทำได้หลายวิธีด้วยกันค่ะไม่ว่าจะเป็นการเปิดช่องเพื่อระบายเอาอากาศที่ปนเปื้อนมาตลอดทั้งวันให้ไหลเวียนออกไปสู่ภานนอก สามารถใช้พัดลมช่วยเร่งให้อากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวกมากขึ้น ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศในห้องที่ถูกปิดไว้ทั้งวัน เพราะเครื่องปรับอากาศทำได้เพียงลดอุณภูมิให้เย็นลง ไม่ได้ช่วยเรื่องการทำให้อากาศสะอาดขึ้น ปลูกต้นไม้ที่มีคุณสมบัติฟอกอากาศได้อย่าง ต้นลิ้นมังกร ไทรใบสัก เดหลี หรือต้นเศรษฐีเรือนใน เพื่อให้ได้อากาศที่สะอาดบริสุทธิ์เหมาะกับการพักผ่อนควรใช้เครื่องฟอกอากาศร่วมด้วย

เครื่องฟอกอากาศ Beko Air Purifier เครื่องฟอกอากาศที่มากับดีไซน์ที่เรียบหรู เหมาะกับการตกแต่งบ้านหลากหลายสไตล์ตัวเครื่องทำจากโลหะเคลือบกันสนิม (AntiOxi) ทนทาน แถมยังช่วยยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียและไวรัสได้ดีกว่า มีชั้นฟิลเตอร์กรองอากาศ ถึง 3 ชั้น ชั้นแรก : Pre-Filter เป็นชั้นกรองแบบผ้าที่สามารถกรองฝุ่นหยาบ อย่างเช่น ขนของสัตว์เลี้ยง หรือฝุ่นละอองขนาดใหญ่ได้ สามารถถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย ชั้นสอง : HEPA Filter H13 ช่วยขจัดฝุ่นได้ขนาดเล็กถึง PM 0.3 สามารถกำจัดกำจัดฝุ่น PM 2.5 , เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 , กำจัดละอองเกสรดอกไม้ และสารก่อภูมิแพ้ 99.97% ผ่านการทดสอบจากสถาบัน airmid healthgroup จากประเทศไอร์แลนด์เพื่อความมั่นใจในความบริสุทธิ์ของอากาศภายในบ้านอีกชั้นด้วย Activated Carbon Filter ชั้นกรองที่ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ให้คุณได้ใช้เวลาพักผ่อนในบ้านอย่างสบายใจไร้กลิ่นรบกวน

นอกจากนี้เครื่องฟอกอากาศ Beko Air Purifier ยังสามารถฟอกอากาศได้อย่างเร็วทันใจ ทั่วถึงทุกพื้นที่ภายในไม่กี่นาที ด้วยช่องลมเข้า-ออก 360 องศา (Air Flow) กระจายลมได้ไกลถึง 4 – 6 เมตร ปรับระดับความแรงลมได้ตามใจชอบ พร้อมมีเซนเซอร์ตรวจวัดแสดงค่าฝุ่นละอองแบบเรียลไทม์ (Real-Time Tracker) 3 สถานะ เข้าใจง่าย สีแดงคืออากาศที่ไม่ดี , สีชมพูคืออากาศที่อยู่ในเกณฑ์ดี และสีฟ้าคืออากาศที่อยู่ในเกณฑ์ดีมาก สามารถตั้งเวลาการทำงาน อัตโนมัติได้ 3 ช่วงเวลา (2 4 และ 8 ชั่วโมง) คุณสมบัติที่มาพร้อมกับความใส่ใจไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของคุณ กับระดับเสียงขณะเครื่องทำงานเบาจนแทบไม่รบกวนความสุขของคุณ เพียง 25 – 55 เดซิเบล ด้วยระดับเสียงการทำงานของเครื่องที่เบา เพียง 25-55 เดซิเบล ทำให้ไม่ไปรบกวนความสุขในการนอนของคุณ เพราะเราอยากให้คุณ ได้มีอากาศดี ๆ ที่บริสุทธิ์ ให้การใช้ชีวิตของคุณเดินทางไปพร้อมกับสุขภาพที่ดีแบบมือโปร Beko Live Like A pro มอบคุณค่าทางโภชนาการที่ดี และสุขอนามัยที่ดี ให้คุณถึงบ้านในราคาที่คุ้มค่าด้วยมาตราฐานจากยุโรป

เครื่องฟอกอากาศรุ่น ATP6100I ปรับความเร็วลมได้ 4 ระดับ เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่ 16 – 29 ตารางเมตร ขนาดเครื่อง 48.0 x 23.0 x 23.0 ซม. ราคา 5,290.- บาท และรุ่น ATP5100I เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาด 10 – 18 ตารางเมตร ขนาดเครื่อง 38.0 x 20.0 x 20.0 ซม. ราคา 2,990.- บาท

สามารถดูรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับ Beko ได้ที่ https://www.beko.com/th-th
หรือสั่งซื้อเครื่องฟอกอากาศ Beko Air Purifier ได้ทางออนไลน์ที่

Lazada : https://bit.ly/2ZLgCkm

Shopee : https://bit.ly/3uoAd86