บ้าน + อู่รถยนต์ พื้นที่ซึ่งสะท้อนความชื่นชอบในเรื่องรถยนต์อย่างแจ่มแจ้งของผู้เป็นเจ้าของ ที่ได้รับการออกแบบโดยแบ่งแยกส่วนพักอาศัย กับพื้นที่ซึ่งตอบโจทย์ความฝันในวัยเด็กอย่างเป็นสัดส่วนลงบนที่ดินผืนเดียวกันอย่างลงตัว ดั่งการอยู่ร่วมแบบตัดขาดซึ่งกันและกันทั้งเรื่องเสียงรบกวนและมุมมองที่เป็นส่วนตัว ประหนึ่งว่าสองพื้นที่ต่างก็มีอิสระจากกันชัดเจน
ออกแบบ: I Like Design Studio
ทีมออกแบบ: Narucha Kuwattanapasiri , Warakorn Chareonrat , Siriprapa Prasompan
วิศวกรรมโครงสร้างและงานระบบ: Kor-It Structural Design and Construction Co.,Ltd
เจ้าของ: Visitpong Chada
Garage House ส่วนผสมของความฝัน กับการอยู่อาศัย
ความฝันของผู้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ต้องย้อนกลับไปเริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก ความคลั่งไคล้ในเรื่องรถยนต์ซึ่งเอ่อล้นจนนำไปสู่ความใฝ่ฝันที่จะประกอบเป็นอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการได้เปิด อู่รถยนต์ ของตนเอง เรื่อยไปจนถึงการได้เป็นนักแข่งรถระดับมืออาชีพ
ความฝันข้อแรกได้ถูกเติมเต็มบนที่ดินขนาด 1 งาน กับ 5 ตารางวา ที่ซึ่งเจ้าของบ้านตั้งใจจะสร้างบ้านพักอาศัยของตัวเองควบคู่ไปกับการเปิดอู่รถยนต์ โดยมีโจทย์ที่ท้าทายสำหรับผู้ออกแบบอย่างยิ่ง คือ พื้นที่ทั้งสองส่วนต้องอยู่ร่วมกันแบบกลมกลืน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถแยกสัดส่วนออกจากกันได้อย่างลงตัว
อยู่ร่วมอย่างตัดขาด
ภายในอาคารโทนสีเทาขรึมเข้มหลังนี้ ผู้ออกแบบได้ทำการแบ่งพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 790 ตารางเมตร ให้ออกมาตามความต้องการของเจ้าของบ้านโดยแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก หนึ่ง ส่วนด้านกว้างของที่ดินถูกใช้เป็นส่วนอู่รถยนต์ เพื่อรองรับการเข้าถึงของรถยนต์จำนวนหนึ่งได้ครบถ้วน ส่วนด้านแคบของที่ดินนั้นผู้ออกแบบตั้งใจสร้างให้เป็นส่วนพักอาศัย โดยทำการออกแบบทั้งสองส่วนนี้ให้มีทางเข้าแยกออกจากกันอย่างชัดเจน
พื้นที่ใช้สอยทั้งสองส่วนถูกตัดขาดออกจากกันด้วยผนังทึบ เพื่อปิดกั้นเสียงและมุมมอง ทว่าข้อดีของการแยกอาคารออกเป็นสองก้อนช่วยเพิ่มการไหลเวียนอากาศเข้ามาสร้างความเย็นได้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังเป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวของส่วนพักอาศัยไปโดยปริยาย
ส่วนพักอาศัยแยกทางเข้าออกมาทางด้านข้างของที่ดิน โดยทิ้งพื้นที่เป็นสวนขนาดเล็กเชื่อมต่อโถงเข้าบ้านที่ชั้น 1 มีห้องนั่งเล่น มุมรับประทานอาหาร และห้องครัว เป็นผังแบบเปิดโปร่ง เปิดมุมมองไปสู่สวน
ที่ชั้น 2 บริเวณโถงบันไดออกแบบให้สามารถมองเห็นระเบียงที่ถูกซ่อนจากภายนอกอาคารได้ มุมนี้เองเป็นจุดเพิ่มแสงสว่างจากธรรมชาติเข้าสู่ภายในอาคาร ทั้งยังเป็นระเบียงพักผ่อนสำหรับห้องนอนที่ชั้น 2 อีกด้วย
ส่วนอู่รถยนต์นั้นรองรับการบริการรถยนต์ได้เต็มพื้นที่เป็นจำนวน 7 คัน ภายในพื้นที่ดังกล่าวยังมีส่วนสำนักงานของเจ้าของบ้านที่ชั้น 1 สำหรับคอยดูแลตรวจตราความเรียบร้อยของการบริการ มีบันไดด้านข้างที่เชื่อมต่อกับพื้นที่เก็บอะไหล่ที่ชั้น 2 พร้อมกับลิฟท์ขนาดเล็กที่เอื้อสำหรับการขนย้ายอะไหล่อย่างสะดวก
อู่รถยนต์สู้แดด
ภายนอกอาคาร ผังของ อู่รถยนต์ นั้นถูกวางให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ผู้ออกแบบใช้วิธีการกดชายคาของหลังคาให้ราดต่ำลงกว่าปกติ เพื่อช่วยลดปริมาณของแสงแดดในช่วงบ่ายเข้ามาปะทะตัวอาคารโดยตรง โดยมีประตู Shutter Door เป็นตัวช่วยกรองแสงในช่วงเย็นอีกหนึ่งด่านเมื่อดวงอาทิตย์เอียงมาในองศาที่ต่ำลง
นอกจากนี้หลังคาในส่วนอู่รถยนต์ ผู้ออกแบบได้เลือกใช้หลังคาโปร่งแสง รุ่นกันความร้อน มาช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร และเพื่อเพิ่มแสงธรรมชาติส่องสว่างให้กับพื้นที่ ซึ่งรูปทรงของอาคารที่ดูทึบหนา นั้นเกิดจากการเลือกใช้วัสดุเป็นคอนกรีตเผยผิวเปลือย คู่กับเหล็กทำสีดำ และการเดินท่อเผยงานระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ออกแบบพยายามสะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของเจ้าของบ้านให้ได้มากที่สุด
เรียบเรียง: ND24
ภาพ: ศุภกร
