จาก “กาก” สู่ “แก้ว” ใช้ซ้ำดี รีไซเคิลได้ เกิดขึ้นจากสิ่งที่รู้กันว่าในทุก ๆ เช้า ชาวโลกไม่ว่าจะชาติใดต่างก็ต้องการ “กาแฟ” แก้วแรกกันอยู่เสมอ ซึ่งนั่นก็ทำให้เกิดผลสืบเนื่องอันเป็นขยะปริมาณมหาศาลในทุกเช้าด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะจากแก้วกาแฟใช้แล้วทิ้ง หรือสิ่งอื่น ๆ เช่น หลอด และไม้คนกาแฟ




KAFFEEFORM บริษัทจากประเทศเยอรมนี จึงเกิดความคิดที่จะสร้างแก้วกาแฟที่ย่อยสลายได้ง่ายขึ้น และผลิตจากเศษเหลือในอุตสาหกรรมร้านกาแฟ เพื่อให้เกิด Close Loop หรือการหมุนเวียนทรัพยากรอย่างสมบูรณ์ใน Circular Economy และสิ่งที่ถูกเลือกมาใช้เป็นวัสดุนั่นก็คือ “กากกาแฟ” นั่นเอง


กว่า 3 ปี ที่ KAFFEEFORM ได้ทดลองสูตรลับเฉพาะในการขึ้นรูปแก้วกาแฟจากกากกาแฟให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีพอ น่าใช้ และดูดีเป็นมิตรต่อนักดื่ม ผลลัพธ์ที่ได้จึงกลายมาเป็นแก้วที่มีผิวสัมผัสเรียบเนียนแต่ผสมไปด้วยเส้นใยจากกากกาแฟ สามารถฉีดขึ้นรูปได้หลากหลาย ตั้งแต่แก้วที่ล้อเลียนมาจากแก้วใช้แล้วทิ้ง แก้ว Espresso แก้ว Cappucino และ แก้ว Latte มีความทนทาน ทั้งสามารถใส่ของร้อนได้ และตกไม่แตกอีกด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้ใช้สูตรลับที่เป็น Plant Based จึงทำให้สามารถนำไปย่อยสลายได้ง่ายในที่สุดอีกด้วย





มากกว่านั้น KAFFEEFORM ยังเลือกที่จะสร้างความตระหนักรู้ให้เกิดขึ้นในสังคมคอกาแฟอีกด้วย โดยการสร้างเครือข่ายของคาเฟ่ในกรุงเบอร์ลินที่จะเก็บกากกาแฟเอาไว้ให้ KAFFEEFORM ก่อนที่พวกเขาจะปั่นจักรยานไปรับกากกาแฟเหล่านั้น และร่วมกันตากเตรียมเพื่อนำไปผลิตต่อไป พูดง่าย ๆ คือจริง ๆ KAFFEEFORM ก็ถือว่าเป็นโปรดักต์แบบ OTOP ก็ว่าได้ (ทำไมในไทยไม่มีโปรดักต์ OTOP ระดับนี้บ้างนะ)


วันนี้ KAFFEEFORM ยังผลิตแต่แก้วกาแฟ(ในหลายขนาด) แต่ในอนาคตด้วยวัสดุนี้เราอาจได้เห็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากพวกเขาในเร็ว ๆ นี้ อย่างแน่นอน ซึ่งหากสนใจในผลิตภัณฑ์และแนวทางของพวกเขาสามารถติดตามได้ที่ Kaffeeform หรือ kaffeeform.com

พอพูดมาถึงตรงนี้ก็เริ่มหิวกาแฟอีกรอบ และคงต้องขอไปเติมคาเฟอีนรอบบ่ายก่อนนะครับ
ภาพ: kaffeeform.com
เรียบเรียง: Wuthikorn Sut