PAYAA HOTEL พักผ่อนในบรรยากาศ "พักทัพค้างแรม" - room

PAYAA HOTEL โรงแรมพัทยา กับคอนเซ็ปต์ “ทัพพระยา” หรูหราในคืนพักแรม

Payaa hotel โรงแรมเล็ก ๆ แต่เล่นใหญ่ ในเรื่องคอนเซ็ปต์และงานดีไซน์ ด้วยการนำเกร็ดประวัติศาสตร์เมืองพัทยา สิ่งที่หลายคนไม่เคยรู้ และค่อนข้างเป็นนามธรรมมาคลี่คลาย แล้วสื่อสารผ่านงานออกแบบตกแต่งอย่างสวยงาม

พร้อมจัดเสิร์ฟประสบการณ์การพักผ่อนในรูปแบบและบรรยากาศไม่เหมือนใคร เพื่อให้ทุกคนที่มาที่ Payaa hotel ได้รับความประทับใจกลับไปแบบเต็มเปี่ยม

พื้นที่ล็อบบี้ของโรงแรม เป็นเสมือนที่รวมพลตามคอนเซ็ปต์ ตกแต่งโดยใช้งานไม้ และโทนสีที่เคร่งขรึม

ที่นี่ได้แรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์ของเมืองพัทยา ซึ่งมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า สมัยกรุงศรีอยุธยาแตก พระยาตาก(สิน)ได้ถอยทัพมาทางตะวันออก ระหว่างทางไปเมืองจันทบุรีได้มีการพักทัพ ณ สถานที่เมืองชายทะเลเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เพื่อค้างแรมและพักทัพ รวบรวมไพร่พล จนในที่สุดก็สามารถกู้เอกราชกลับคืนมาได้ โดยบริเวณที่กองทัพได้พักค้างแรมนี้ ชาวบ้านพากันเรียกขานว่า “ทัพพระยา” แล้วต่อมาเพี้ยนเสียงเป็น “พัทยา” จากที่มาดังกล่าว นั่นจึงเป็นไอเดียให้เจ้าของและสถาปนิกนำมาใช้เป็นคอนเซ็ปต์หลัก ทุกพื้นที่แทรกรายละเอียดที่บอกเล่าถึงการเดินทาง และการพักแรม มีกลิ่นอายสื่อถึงความเป็นเอเชียนที่เข้าใจง่าย

จากพื้นที่ด้านหน้าที่เรียบง่าย เมื่อเข้ามาด้านในกลับพบบรรยากาศชวนตื่นเต้น ต้อนรับด้วยพื้นที่ล็อบบี้โรงแรมซึ่งเป็นเสมือนที่รวมพล โดดเด่นด้วยภาพกราฟิกหลังเคาน์เตอร์ต้อนรับ ถือเป็น Key Visual สำคัญที่ช่วยสื่อเรื่องราวการพักทัพ-พักแรมตามคอนเซ็ปต์ โดยภาพวาดนี้มีทั้งภาพคน ช้าง เต็นท์ที่พัก และภาพวิวทิวทัศน์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงภูมิประเทศในแผนที่ นับเป็นสิ่งสำคัญมากของการศึกในสมัยก่อน ใช้เทคนิคเดียวกันกับที่ใช้วาดธนบัตร ผสมเทคนิคภาพพิมพ์หินกับสีฝุ่น และศิลปะแบบคอนราจ โดยเอกลักษณ์ของรูปภาพมีทั้งความเป็นตะวันตกและตะวันออก ดูเป็นไทยแบบร่วมสมัย เคาน์เตอร์ต้อนรับใช้หีบไม้สักจากพม่าขนาดใหญ่ 2 ใบ ซึ่งเป็นสิ่งเชื่อมโยงกับการเดินทาง เพราะคนโบราณนิยมใช้หีบสำหรับใส่ของมีค่า แล้วขนย้ายไปพร้อมกับกองคาราวาน ส่วนเพดานไม้ด้านบนได้แรงบันดาลใจมาจากเสาเต็นท์ที่ใช้ไม้ขัดกันเป็นโครงสร้าง

Chan ร้านอาหารบรรยากาศท้องพระโรง ตกแต่งในบรรยากาศที่หรูหรา ประดับผ้าม่านสีแดงและแชนเดอร์เลียร์ และเน้นใช้โทนสีแดง ดำ ทอง

สำหรับพื้นที่พับลิกชั้นล่าง นอกจากโซนล็อบบี้ ยังมีโซนร้านอาหารที่ให้ชื่อว่า “ชาญ” ร้านอาหารไทยที่นำเสนอเมนูพื้นบ้าน เปรียบความรู้สึกของทหารยามออกทัพนาน ๆ ที่อาจรู้สึกคิดถึงฝีมือภรรยาและแม่ ซึ่งเคยทำให้กินที่บ้าน ตกแต่งในบรรยากาศหรูหราสื่อถึงท้องพระโรง หรือเต็นท์ที่พำนักของเจ้านายนำทัพ ใส่รายละเอียดทั้งแชนเดอเลียร์และผ้าม่านสีแดง คุมธีมสีแดง ดำ และทอง กั้นแบ่งพื้นที่ระหว่างที่นั่งล็อบบี้กับห้องอาหารด้วยผนังสีดำ ทำจากกระเบื้องหลังคาทำสีดำเรียงต่อกันอยู่ภายในแผงกำแพงเหล็ก ชวนให้จินตนาการถึงลายเสื้อเกราะทหารโบราณ ผ้าม่านสามารถเปิด-ปิดได้เพื่อความเป็นส่วนตัว ในกรณีจัดงานอีเว้นต์สำคัญเฉพาะกลุ่ม

ห้องพักของที่นี่มีคอนเซ็ปต์การออกแบบเหมือนการพักเต็นท์ ซึ่งจะอยู่ที่ห้องประเภท Grand Delux

ห้องพักของที่นี่มีคอนเซ็ปต์การออกแบบเหมือนการพักเต็นท์ ซึ่งจะอยู่ที่ห้องประเภท Grand Delux มีการตกแต่งที่ให้ประสบการณ์การพักแรมแบบเต็นท์ มีผ้าม่านให้แหวกออกคล้ายด้านหน้าเต็นท์ เปิดออกสู่พื้นที่อ่างอาบน้ำที่อยู่ตรงกลาง โดยม่านนี้ยังทำหน้าที่เป็นตัวกั้นพื้นที่ระหว่างห้องนอนกับส่วนอาบน้ำ พื้นห้องเป็นพื้นปูนธรรมดาที่มองเห็นส่วนผสมอย่างทรายและกรวด เปรียบเสมือนการตั้งเต็นท์บนพื้นดิน ส่วนลายที่เห็นเป็นร่องบนเพดานห้องพัก เปรียบเสมือนริ้วหลังคาเต็นท์ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องเน้นใช้งานแบบพับเก็บและเคลื่อนย้ายได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีห้องแบบ Deluxe ซึ่งจะไม่มีอ่างอาบน้ำ และDeluxe Triple สำหรับลูกค้าที่มาเป็นครอบครัวให้เลือกด้วย

BarDrunkenPiti บาร์ติดสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า
เจ้านาง Jao Nang (ซ้าย) และ Moon Night (ขวา) เครื่องดื่มสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของสุราไทย และสมุนไพรไทย

ชั้นบนสุดของโรงแรมนอกจากมีสระว่ายน้ำดีไซน์สวย เด่นด้วยลวดลายของกระเบื้องปูพื้นสระที่ถอดแบบมาจากลายผ้าทอของไทยแล้ว ยามค่ำคืนตั้งแต่เวลา 17.00 – 21.00 น. ลูกค้ายังสามารถมานั่งชิล จิบเครื่องดื่มชมวิวได้ที่ “Bar Drunken Piti” มีพร้อมคอนเซ็ปต์น่าสนใจ โดยสื่อถึงบรรยากาศความรื่นรมย์ การแตกแถวหนีเที่ยวของทหาร เพื่อมาดื่มสังสรรค์ระหว่างออกทัพกับเพื่อน ๆ ทหารด้วยกัน ตกแต่งพื้นที่ทางขึ้นชั้นดาดฟ้าติดทางเดินด้วยกระบะปลูกต้นไม้ จำลองบรรยากาศเหมือนกำลังเดินขึ้นมาผ่านป่าเขา มีมุมสะท้อนความเชื่อแบบไทย ๆ ด้วยรูปปั้นม้า สื่อถึงการบนบานเพื่อขวัญและกำลังใจ เครื่องดื่มมีส่วนผสมและชื่อไม่ซ้ำใครเพื่อสื่อถึงความเป็นไทย


เนื่องจากไซต์ที่ตั้งของโรงแรมเคยเป็นที่ดินว่างเปล่า มีไม้ใหญ่ดั้งเดิมอยู่ในพื้นที่อย่าง “ต้นมะขาม” อายุเก่าแก่กว่า 60 ปี เจ้าของและสถาปนิกจึงเลือกเก็บไว้ แล้วใช้เป็นจุดศูนย์กลางของสวน เป็นเสมือนโอเอซิสสำหรับให้ลูกค้าโรงแรมได้ออกมานั่งเล่นใช้เวลาพักผ่อน โดยตั้งชื่อโซนนี้ว่า “บาร์หมากขาม” ตามชื่อต้นไม้ ในสวนปลูกประดับด้วยไม้ไทยดั้งเดิมหายาก และสมุนไพรหลากหลายชนิดที่สามารถตัดมาใช้ทำอาหารได้ โดยลูกค้าสามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มมารับประทานใต้ร่มไม้ที่โซนนี้ได้อย่างชิล ๆ ทั้งยังใช้สำหรับจัดมินิปาร์ตี้ได้ด้วย

เสิร์ฟประสบการณ์การเข้าพักที่ไม่เหมือนใคร ด้วยกฎการเช็คอินเวลาไหน-เช็คเอ๊าต์เวลานั้นของวันถัดไป อาหารเช้าเป็นแบบ Lazy Breakfast เสิร์ฟตั้งแต่ 7 โมงเช้า – 4 โมงเย็น โดยลูกค้าสามารถพักผ่อนยาวๆ แล้วค่อยตื่นมารับประทานอาหารตอนสาย ๆ ก็ยังได้ เรียกว่าเอาใจและตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้ากันแบบสุด ๆ สำหรับใครที่กำลังเตรียมทริปท่องเที่ยว แล้วมีพัทยาเป็นช้อยส์ละก็ ลองมาพักที่โรงแรม พาญา รับรองที่นี่จะช่วยให้วันพักผ่อนของคุณเป็นวันพิเศษแน่นอน

ที่ตั้ง
ถนนเลียบชายหาด ซอยพัทยา3 (พัทยาเหนือ) ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรีพิกัด https://goo.gl/maps/r9ucjNxRhJwtx5tv6
โทร.06-5056-6464,0-3300-2481, 0-3300-2482
https://www.facebook.com/payaahotel

เจ้าของ : คุณชมพูนุท อิ่มอุดม
ออกแบบ : คุณพงศกร กิจขจรพงษ์ โทร. 08-1867-6848

เรื่อง : Phattaraphon
ภาพ : นันทิยา
ผู้ช่วยช่างภาพ : ปณิตา ตันกระโทก