เปลี่ยนที่ว่างเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนศาสตร์ฮวงจุ้ย - room

เปลี่ยนที่ว่างเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนศาสตร์ฮวงจุ้ย

การตรวจฮวงจุ้ยก่อนสร้างมักจะดีกว่าหลังสร้างเสมอเพราะจะทำให้รู้ว่าอะไรควรอยู่ตรงไหนจึงจะส่งผลดี จึงจะเหมาะสม โดยเฉพาะการทำธุรกิจที่เมื่อลงทุนไปแล้วย่อมต้องการผลกำไร ซึ่งหนึ่งในธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีที่ดินว่างหรืออยากรีโนเวตอาคาร คือการเปลี่ยนที่ว่างให้กลายเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ครั้งนี้บ้านและสวนมีหลักการวางฮวงจุ้ยคอมมูนิตี้มอลล์จากซินแสสมปองมาฝาก พร้อมกับการพาชม EKM6 คอมมูนิตี้สเปซสำหรับคนรักสุขภาพใจกลางเอกมัยที่ออกแบบทุกองค์ประกอบในพื้นที่ให้มีพลังงานดีไหลเวียนทั่วทั้งโครงการ ส่งผลดีกับเจ้าของ ร้านค้าที่มาเช่าพื้นที่ ไปจนถึงลูกค้าได้มาทานอาหารอร่อยๆ ดีต่อสุขภาพและกลับไปด้วยความสุข ให้สมกับชื่อเต็มๆ ของโครงการคือ “Every Kind Moment”

ไม่ต้องมีที่ดินผืนใหญ่ก็สร้างคอมมูนิตี้มอลล์ได้

EKM6 เกิดขึ้นจากความตั้งใจของ คุณแพม-เปรมมิกา ศรีชวาลา ที่อยากให้มีคอมมูนิตี้มอลล์ที่ทำเรื่องแพลนต์เบสโดยเฉพาะ เมื่อได้มาเห็นพื้นที่ในซอยเอกมัย 6 ที่ร่มรื่นไปด้วยพื้นที่สีเขียวก็ชอบมาก ซึ่งพื้นที่เดิมเคยเป็นโรงเรียนนานาชาติซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยไม่เยอะ และเจ้าของที่ดินให้เช่าโดยมีเงื่อนไขว่าไม่อยากให้ขึ้นตึกสูง

 ในสายตาของคนทั่วไปอาจคุ้นเคยกับคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่จึงอาจมองว่าที่ดินขนาด 1 ไร่ในซอยเอกมัยอาจเล็กไปสำหรับการทำธุรกิจนี้ แต่ความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมมากเมื่อมองในศาสตร์ฮวงจุ้ย เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญอย่างซินแสสมปองให้เหตุผลว่า เป็นเพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ทำให้ ‘ชี่’ หรือ ‘พลังงานดี’ กระจายตัวและไหลออกได้ง่าย การทำคอมมูนิตี้มอลล์แบบโล่งโปร่งจะทำให้กระแสกระจายตัว แม้จะมองว่าทุกห้องมีการกระบายอากาศที่ดีแต่เก็บกระแสพลังและความโชคดีเอาไว้ไม่อยู่ ดังนั้น สำหรับในเมืองไทยควรทำคอมมูนิตี้มอลล์บนที่ดินขนาดไม่เกิน 4 ไร่ และการสร้างอาคารขนาดพอเหมาะสามารถเก็บพลัง ‘ชี่’ ได้ดี เราจึงเห็น EKM6 มีรั้วโดยรอบ และดีไซน์อาคารอย่างเป็นสัดส่วนเพื่อให้พลังงานดีไหลเวียนอยู่ภายในโครงการ

ต้องมี ‘หมิงถัง’ กักกระแสพลังงาน

คอมมูนิตี้สเปซแห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 6 ที่คนสามารถสัญจรทะลุผ่านไปยังซอย 4 ซึ่งเมื่อมองจากหน้าโครงการจะเห็นเสน่ห์แรกของ EKM6 นั่นก็คือสวนเล็กๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ฝั่งขวาเป็นสิ่งที่ช่วยดักกระแสที่มาจากปากซอย 6 ให้ไหลเข้ามาที่โครงการ ขณะเดียวกันก็สร้างลานจอดรถเอาไว้เป็น ‘หมิงถัง’ หรือพื้นที่เก็บพลังที่ไหลมาจากถนนเข้ามาเก็บไว้ตรงนี้ก่อนที่จะกระจายเข้าสู่ตัวอาคาร

การที่ด้านหน้าโครงการมีทั้งสวนสวยและที่จอดรถ ในทางฮวงจุ้ยคือการสร้างสมดุลระหว่างหยิน-หยาง เพราะลานจอดรถเป็นคอนกรีต มีความแข็งคือธาตุหยาง ส่วนสวนร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่แสดงถึงความอ่อนนุ่มของธาตุหยิน ทำให้เกิดความสมดุลของพลัง แล้วหลังจากนั้นก็ให้พลัง ‘ชี่’ ที่อยู่ตรง ‘หมิงถัง’ ไหลเข้ามาในอาคาร ตรงกับพฤติกรรมของคนไทยที่เมื่ออากาศร้อนก็อยากจะเข้าที่เย็น เมื่อขับรถผ่าน EKM6 จะรู้สึกว่าที่นี่มีความร่มรื่น มีที่จอดรถสะดวกสบาย เมื่อได้ลองเข้ามาแล้วก็จะเริ่มการจับจ่ายใช้สอยนั่นเอง

มีสายลมไหลเวียนทุกจุดของอาคาร

คอนเซ็ปต์หลักของ EKM6 คือ แพลนต์เบสคอมมูนิตี้ พื้นที่เพื่อคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ มีทั้งคาเฟ่ที่เสิร์ฟเครื่องดื่มและอาหารประเภทแพลนต์เบส อย่าง Kynd Kulture Cafe ร้าน Plenti : The Wholesome Grocery Store ที่วางขายผลิตภัณฑ์แพลนต์เบสต่างๆ ซึ่งเป็นของคุณแพมเอง รวมถึงร้านจากผู้ประกอบการรายเล็กที่มีแนวคิดการทำธุรกิจไปในทิศทางเดียวกัน คือ ส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่ดีสำหรับมนุษย์และโลกในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านทำผม Peach U Hair Room และ BARE NAIL SPAร้านทำเล็บที่ใช้ผลิตภัณฑ์ออแกนิก Nest by Little Treehouse Nursery สถาบันเวิร์กช็อปสำหรับเด็กที่อยากให้เด็กๆ อยู่กับธรรมชาติมากขึ้น และล่าสุดมี Wellness Space อย่าง WOLF Wellness & Training เข้ามาเสริมทัพด้านการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นอีก

โครงการนี้จึงดีไซน์ให้ร้าน Plenti เป็นเมนหลักของที่นี่ ตั้งอยู่ใจกลางโครงการตั้งรับกระแสพลังที่วิ่งตรงเข้ามาผ่านช่องทางเดินกลาง แล้วกระจายพลังงานดีไหลเวียนไปให้ธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพด้วย

 นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งพัดลมเพื่อทำให้กระแสไหลเวียนได้มากกว่าปกติในวันที่รู้สึกว่าลมไม่ไหลเวียน การติดตั้งพัดลมสามารถส่งเสริมธาตุหยางซึ่งก็คือการเคลื่อนไหว เพื่อกระตุ้นให้คนที่อยู่ในพื้นที่นี้ทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้นด้วย หลักสำคัญในการทำธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์คือทำให้ทุกจุดของอาคารมีกระแสลมไหลเวียน เป็นหลักการที่ง่ายที่สุดในการดึงพลังที่ดีมาใช้สร้างสมดุลในพื้นที่

ห้องน้ำเยอะไปก็เป็นปัญหา

ในมุมของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการคอมมูนิตี้มอลล์ การมีห้องน้ำเยอะเป็นเรื่องที่ดีเพราะว่าสะดวกกับคนใช้งาน แต่อาจทำให้เจ้าของโครงการเก็บรายได้ได้น้อยหรือมีรายจ่ายที่ต้องจ่ายเยอะขึ้น รวมถึงจะได้กลุ่มลูกค้าที่ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายและไม่มีกำลังซื้อ การทำคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีความเฉพาะทาง จับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนมีรายได้ระดับหนึ่ง จึงควรมีจำนวนห้องน้ำที่สอดคล้องกับพื้นที่และเพียงพอต่อการใช้งานแต่ไม่ควรมากเกินไป ที่สำคัญอย่าวางห้องน้ำในโซนกลางของพื้นที่หรือตัวอาคาร เพราะห้องน้ำมักมีพลังของความหงุดหงิดแสดงพฤติกรรมของคนที่มาใช้ ซึ่งห้องน้ำเป็นพลังงานธาตุน้ำ การจะทำลายพลังนี้ต้องใช้พลังของธาตุดินหรือธาตุไม้ การแต่งห้องน้ำด้วยโทนสีเขียวจึงช่วยได้ และถ้าหากดูแลห้องน้ำให้สะอาดอยู่เสมอก็จะได้ลูกค้าที่จิตใจค่อนข้างดีด้วยเช่นกัน

ยุคทองของการทำธุรกิจเฉพาะทาง

 นอกจากนี้ ในศาสตร์ของฮวงจุ้ยกำลังเดินทางเปลี่ยนผ่านจากยุค 8 เข้าสู่ยุค 9 ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการหมุนเวียนของดวงดาวทุกๆ 20 ปี ทำให้มีความเปลี่ยนแปลงทิศทางของกระแสพลังงานส่งผลถึงด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ซึ่งแน่นอนว่ากระทบกับการวางฮวงจุ้ยธุรกิจด้วย ซึ่ง EKM6 ที่เริ่มเปิดทำการในปี 2566 ก็วางฮวงจุ้ยโดยคำนึงถึงปัจจัยนี้ด้วยเช่นกัน

ยุค 9 จะเปรียบเสมือนท้องฟ้าที่เปิดกว้าง เหมาะสำหรับการทำเรื่องเฉพาะทาง ถึงขนาดบอกว่าเป็นยุคแห่งปราชญ์เลยทีเดียว EKM6 ซึ่งเป็นธุรกิจที่เน้นไปที่เรื่องแพลนต์เบสและสุขภาพจึงได้รับกำลังที่ดีในยุค 9 เพียงแต่ต้องวางฮวงจุ้ยให้สอดรับการทำธุรกิจในปี 2566 ซึ่งยังเป็นยุค 8 ด้วยเช่นกัน โชคดีที่ที่ดิน EKM6 อยู่ในแนวเหนือ-ใต้ ซึ่งรับพลังงานดีไหลเวียนเป็นอันดับ 1 และ 2 อยู่แล้ว แต่สำหรับที่ดินที่อยู่ในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตกอาจจะมีข้อคำนึงถึงมากกว่า เช่น ยุค 8 อาจจะไม่ต้องวางของมงคลเลย แต่ยุค 9  อาจต้องหาของตกแต่งที่เป็นโลหะมาวางไว้ด้านหน้าโครงการ เป็นต้น

ผู้ที่สนใจสามารถเรียนรู้เคล็ดลับปรับฮวงจุ้ยเพื่อเสริมพลังการค้าเพิ่มเติมได้จากหนังสือ “ฮวงจุ้ยเสริมพลังการค้า” และ “เปลี่ยนบ้านเป็นขุมทรัพย์” โดย ซินแสสมปอง ที่เราสามารถทดลองจัดฮวงจุ้ยได้ด้วยตนเองจากวิธีการคำนวณของซินแสสมปอง จากประสบการณ์ความชำนาญการจัดฮวงจุ้ยให้กับบริษัทร้านค้ากว่า 20 ปี พร้อมทำฮวงจุ้ยให้เป็นเรื่องง่าย โดยสั่งซื้อหนังสือและติดตามซินแสสมปองได้ที่