เปลี่ยนโครงบ้านเก่าให้เป็น บ้านโมเดิร์น จากโครงสร้างเดิมที่เต็มไปด้วยเสา ก่อนปรับให้กลายเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่โปร่งโล่ง เรียบง่าย ใช้งานได้จริง รองรับไลฟ์สไตล์ของครอบครัววัยเกษียณ
DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: OSL Studio และNormal Study
บ้านโมเดิร์น ชั้นเดียวในชนบทอำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย ที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของครอบครัวแห่งนี้ มีผู้อยู่อาศัยทั้งหมด 4 คน ได้แก่ คุณพ่อ คุณแม่ พี่ชาย และน้องสาว ซึ่งเป็นความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ชาวกรุงเทพฯ ที่ตั้งใจจะสร้างบ้านหลังที่สองไว้ใช้ชีวิตหลังเกษียณ
โดยในช่วงเริ่มต้น บ้านได้เริ่มก่อสร้างตามแบบแปลนเดิมพื้นฐานโดยยังไม่มีโจทย์ หรือความต้องการอะไรเป็นพิเศษ จนกระทั่งเกิดเหตุให้หยุดพักงานก่อสร้าง จนเหลือทิ้งไว้เพียงโครงสร้างเสาเปล่าๆ รอการมาเติมเต็ม ลูกสาวของเจ้าของบ้านจึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาแบบบ้านหลังนี้ขึ้นมาใหม่ โดยการแทรกพื้นที่ใช้สอยใหม่ลงไปบนโครงสร้างที่มีอยู่เดิม เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกคนในบ้านมากขึ้น รวมถึงต้องการผสานสไตล์โมเดิร์นและทรอปิคัลให้กับบ้าน โดยยังคงความตั้งใจของครอบครัวที่ต้องการเป็นบ้านพักหลังเกษียณของคุณพ่อคุณแม่ให้ได้มากที่สุดด้วย
บ้านชนบทสไตล์โมเดิร์นทรอปิคัล
“Modern Tropical” คือคอนเซ็ปต์ของบ้านหลังนี้ ตามแนวคิดการออกแบบที่ต้องการให้บ้านทันสมัยแต่สอดรับกับภูมิอากาศของภาคเหนือ จึงเน้นการออกแบบช่องเปิดที่รับลมและแสงธรรมชาติได้ดี เน้นการมีพื้นที่ Transition space หรือพื้นที่เปลี่ยนผ่านระหว่างโรงรถกับตัวบ้าน นอกจากจะเสริมความโปร่งโล่ง ยังทำให้เกิดเป็นกิมมิกใหม่ให้ทางเดินเข้าบ้านมีความรู้สึกที่ค่อย ๆ เชื่อมโยงจากภายนอกเข้าสู่ภายในบ้าน โดยออกแบบให้มีทางเดินและกระถางต้นไม้เรียงเป็นแนวเล็ก ๆ ก่อนเข้าถึงตัวบ้าน เพื่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และสร้างประสบการณ์ของการเดินผ่านสวนเล็ก ๆ ก่อนเข้าถึงภายใน
หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของแนวความคิดนี้ คือการแทรก “คอร์ตยาร์ด” เข้าไปอยู่ใจกลางบ้านที่มีโครงสร้างเดิมอยู่แล้ว ซึ่งเกิดจากเทคนิคคล้ายการคว้านพื้นที่ภายในของบ้านออกเพื่อให้เกิดเสปซภายในตรงกลางที่แสงธรรมชาติสามารถเข้าถึง และลดความรู้สึกทึบ หรือความลึกเกินไปของตัวบ้าน นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบระแนงด้านหน้าบ้านเพื่อช่วยกรองแสงและสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอนสองห้องที่อยู่ติดด้านหน้า เนื่องจากผู้อยู่อาศัยเจ้าของบ้านชอบนั่งจิบกาแฟตอนเช้าที่หน้าบ้านเป็นประจำ จึงต้องการองค์ประกอบเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้รู้สึกปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นสำหรับบ้านที่ตั้งอยู่บนที่ดินที่โล่งและกว้างขวาง โดยระแนงนี้สามารถเปิดปิดได้แบบบานเว้นบานได้ เพื่อให้สามารถเปิดชมสวน หรือดูต้นมะกอกที่อยู่กลางคอร์ตได้ด้วย
แปลงโฉมโครงสร้างเสาเดิมสู่การใช้งานใหม่ที่ลื่นไหล
ความพิเศษของการออกแบบโซนนิ่งใหม่ภายในตัวบ้าน คือการตั้งใจไม่ให้มีเสาโผล่มาให้เห็นเลยแม้แต่ต้นเดียว ด้วยตัวบ้านซึ่งมีโครงสร้างเสา – คานเดิมตกทอดมาในภาพสมบูรณ์ สถาปนิกจึงมีแนวคิดใช้การก่อผนังสองชั้นเพื่อให้เกิดความหนา 20 เซนติเมตร เท่ากับขนาดเสาที่มีอยู่เดิมช่วยให้เสากลืนไปกับผนังอย่างแนบเนียน บ้านดูสะอาดตาและไม่มีรอยปูดของเสาออกมาจากผนังเลย
ในแง่ของฟังก์ชัน นอกจากจะประกอบด้วย 4 ห้องนอน ตามจำนวนสมาชิกในครอบครัว ซึ่งแต่ละห้องได้มีห้องน้ำในตัว พร้อม 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องแพนทรี่ (Pantry) สำหรับใช้พักผ่อน ประกอบกับห้องครัวแบบครัวไทยเพื่อการทำอาหารในมื้อที่จริงจัง ด้านข้างของบ้านที่ฝั่งที่ติดกับทุ่งนาและภูเขา ซึ่งมีวิวธรรมชาติที่สวยงามได้เลือกวางฟังก์ชันที่ต้องการ เช่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องฟิตเนส และห้องนอนไว้ในด้านนี้ รวมไปถึงบริเวณด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนที่เจ้าของบ้านใช้เป็นจุดนั่งดื่มกาแฟยามเช้า ได้ออกแบบมาให้เชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพิ่มเติมด้วยทางด้านขวามือของพื้นที่สวนที่ได้รับการออกแบบให้เป็นฟังก์ชันที่ตรงกับต้องการของคุณแม่ผู้ที่ชื่นชอบการปฏิบัติธรรม ด้วยการออกแบบและจัดสวนให้สามารถเดินจงกรมได้สะดวกอีกด้วย
เสริมองค์ประประกอบเพื่อให้บ้านชนบทอยู่สบาย
เนื่องจากบ้านตั้งอยู่ในพื้นที่โล่ง จึงถูกปะทะด้วยลมและฝนอย่างรุนแรงเกือบตลอดเวลา สถาปนิกจึงมีแนวคิดปลูกต้นไม้และการสร้างกำแพงรอบบ้านให้มีบทบาทสำคัญในการช่วยรับและบังลมที่พัดเข้ามาจากทิศทางหน้าบ้าน รวมถึงยังมีการคำนึงถึงเรื่องลมและฝนที่แรงในช่วงหน้าฝนของจังหวัดเชียงรายมาปรับใช้ในการออกแบบบ้านด้วย เช่น การเลือกใช้เสาที่มีความแข็งแรง การทำหลังคาที่ทนทานต่อแรงลม รวมถึงการวางแผนป้องกันลมแรง พร้อม ๆ กับยังให้ระบายลมในตัวบ้านได้ดี
นอกจากนั้น แนวคิดการออกแบบบ้านด้วยผนังสองชั้น ยังให้ประโยชน์ในเรื่องการป้องกันเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงรบกวนจากถนนหน้าบ้าน หรือเสียงจากลูกเห็บตกที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งในพื้นที่ องค์ประกอบนี้ยังสอดคล้องกับการออกแบบหลังคา โดยเลือกหลังคาทรงปั้นหยาสูงที่มีความลาดเอียงต่ำ ทำให้ได้หลังคาที่สวยงามและยังเหมาะกับสภาพอากาศ พร้อมกันนั้นก็เลือกใช้ประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมคุณภาพสูงที่ทำให้ภายในบ้านเงียบสงบ และมีความเป็นส่วนตัวสูงอีกด้วย
บ้านหลังนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่พื้นที่สำหรับอยู่อาศัย แต่เป็นผลลัพธ์ของการสร้างฟังก์ชันใหม่ที่ยืดหยุุ่นลงในโครงสร้างเดิม พร้อมการออกแบบที่ใส่ใจในทุกเงื่อนไข ทั้งบริบทของพื้นที่ สภาพภูมิอากาศ วิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัย และความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบบ้านชั้นเดียวสไตล์โมเดิร์นทรอปิคัลที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างลงตัว
ออกแบบ: OSL Studio
ออกแบบร่วม: Normal Study
ภาพ: THANAWATCHU
เรื่อง: Lily J.
AXIS OF GROWTH บ้านมินิมัล ที่พร้อมเติบโตไปกับการเวลา สื่อสารผ่านวัสดุและจังหวะของแสงเงา
