/ การ “ดึงแสงธรรมชาติเข้าบ้าน” ม่ใช่เรื่องใหม่แต่หลาย ๆ คนอาจยังติดภาพว่าแสงจะต้องเข้ามาทางประตู หน้าต่างเท่านั้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก วันนี้เราจึงมี 10 ไอเดียการนำวัสดุสมัยใหม่และงานดีไซน์มาใช้กับบ้าน เพื่อเพิ่มแสงสว่างให้พื้นที่ภายในโดยไม่จำเป็นต้องเจาะช่องประตู หน้าต่างให้ยุ่งยาก นอกจากดึงแสงธรรมชาติเข้ามาแล้ว ยังช่วยคุณประหยัดไฟฟ้าได้อีกด้วย /
LIGHT FOR LIFE – 10 ไอเดีย “ดึงแสงธรรมชาติเข้าบ้าน”
01 – GLASS TYMPANUM
เปลี่ยนลุคจั่วหน้าบ้านแบบทึบ ๆ ด้วยการกรุกระจกใส เดินกรอบไม้หรือเหล็ก ช่วยให้ ดึงแสงธรรมชาติ เข้ามาได้มากขึ้นแถมดีไซน์ของบ้านยังดูทันสมัยขึ้นด้วย
02 – MOVEABLE PARTITION
ลองปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานให้ยืดหยุ่นขึ้น อย่างการใช้แผ่นเหล็กฉลุลายมาทำเป็นบานเฟี้ยมแทนการติดกระจกทั้งผนังวิธีนี้คุณสามารถควบคุมปริมาณแสงที่จะเข้ามาในบ้านได้ตลอดทั้งวัน และนอกจากจะเป็นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยกรองแสงแล้วยังเป็นการพรางสายตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้อย่างดีเยี่ยมด้วย
03 – GLASS BLOCK
อีกหนึ่งวิธีที่ทำให้แสงเข้ามาในบ้าน นั่นคือการใช้บล็อกแก้วซึ่งเป็นวัสดุที่เราคุ้นตากันดี โดยสามารถเลือกความโปร่งแสงได้ตามใจชอบ รวมถึงจากเดิมที่มีขนาด 190 × 190 × 80มิลลิเมตร ปัจจุบันมีขนาด 90 × 190 × 80 มิลลิเมตร แบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ให้คุณเลือกนำไปตกแต่งได้อย่างหลากหลายแทบไม่ต้องกังวล เพราะช่างก่อสร้างบ้านเรามีความชำนาญในการใช้บล็อกแก้วนี้เป็นอย่างดี
04 – THROUGH THE WALL
สามารถเลือกใช้บล็อกช่องลมมาก่อเป็นผนังบริเวณโถงบันไดหรือทางเดินแบบเปิดโล่ง นอกจากเป็นช่องเปิดให้ลมพัดผ่านและระบายอากาศได้แล้ว แสงจากภายนอกที่ส่องเข้ามายังช่วยให้โถงทางเดินและพื้นที่บริเวณรอบ ๆดูสว่างจนแทบไม่ต้องเปิดไฟ
05 – OUTSIDE IN
ออกแบบผนังห้องนั่งเล่นเป็นผนังกระจกใสยาวทั้งผืน เพื่อดึงแสงธรรมชาติและทิวทัศน์ภายนอกเข้ามา แล้วทำชั้นวางบิลท์อินสำหรับวางของตกแต่งและโทรทัศน์ไว้ตรงกลางผนังแต่หากบ้านอยู่ทางทิศที่มีแดดจัด ควรปลูกต้นไม้ช่วยกรองแสงอีกที เพื่อให้สามารถดูทีวีได้สบายตาขึ้น
06 – NEW GRID
ช่องแสงหรือบานหน้าต่างแบบเดิม ๆ อาจดูน่าเบื่อลองออกแบบบานหน้าต่างใหม่ด้วยแพตเทิร์นลายตารางหรือวัสดุที่แตกต่างไปจากเดิม ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศบ้านได้ทันที และถ้าบ้านไม่มีชายคา หน้าต่างแบบบานกระทุ้งก็เป็นไอเดียน่าสนนอกจากนำพาแสงและลมให้เข้ามาในบ้านแล้วยังช่วยป้องกันฝนสาดได้อีกทาง
07 -DOUBLE LAYER
พาแสงธรรมชาติให้เข้าไปถึงพื้นที่ในสุดของบ้านด้วยการเจาะช่องแสงสองเลเยอร์ ทั้งผนังบริเวณโถงบันไดและผนังห้องด้านใน โดยเจาะให้ตำแหน่งช่องแสงสับหว่างกันเพื่อช่วยให้เราได้รับแสงธรรมชาติไปพร้อม ๆ กับความเป็นส่วนตัว
08 -WOODEN FIN FACADE
เพิ่มลูกเล่นให้ตัวบ้านด้วยแผงระแนงไม้ สามารถปรับองศาของซี่ระแนงให้เหมาะสมกับองศาของแสงแดดที่จะสาดเข้าสู่ตัวบ้าน เพื่อช่วยกรองแสงไม่ให้จ้าจนเกินไป อีกทั้งยังช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวได้อีกวิธีหนึ่ง ส่วนพื้นที่ระยะถอยร่นระหว่างช่องเปิดและแผงระแนง เหมาะออกแบบเป็นคอร์ตโล่ง ๆ เพื่อให้บ้านดูโปร่งสบาย
09 – THE SKYLIGHT
มีหลายมุมในบ้านที่แสงธรรมชาติจากหน้าต่างหรือประตูส่องเข้าไปไม่ถึง เนื่องจากความลึกของบ้านอย่างห้องในตึกแถวหรือทาวน์เฮ้าส์ ทำให้พื้นที่เหล่านั้นต้องเปิดไฟเกือบตลอดเวลา เรามีวิธีแก้ไขง่าย ๆ ได้ด้วยการเปลี่ยนหลังคาธรรมดามาเป็นกระจกหรือสกายไลท์ให้แสงส่องผ่านได้มีวัสดุให้เลือกใช้หลากหลาย เช่น กระจกเทมเปอร์หรือแผ่นพอลิคาร์บอเนตก็ได้ ทั้งนี้ควรออกแบบให้มีความลาดเอียงเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำขัง และคำนึงถึงการทำความสะอาดในระยะยาวด้วย
10 – ADDING LIGHT TO ADDITIONAL SPACE
ในกรณีที่ต่อเติมตัวบ้านจนเกือบชิดพื้นที่รั้วจนไม่สามารถสร้างช่องเปิดด้านข้างได้ตามเทศบัญญัติ แก้ปัญหาได้ด้วยการเพิ่มช่องแสงด้านบนแทนเพื่อให้บ้านไม่ทึบจนเกินไป หากไม่จำเป็นไม่ควรทำ บานแบบเปิด – ปิดได้ เพราะนอกจากจะเสี่ยงกับรอยรั่วแล้ว ถ้าช่องแสงมีความสูงจากพื้น ไม่มากนักหรือมีส่วนเชื่อมต่อกับอาคารด้านข้าง บ้านคุณอาจเสี่ยงต่อการโจรกรรมได้