ชมวิถีชีวิตและความสวยงามของบึงหนองหาร พร้อมชิมเมนูพื้นถิ่นของกินจากกลางบึง ณ จ.สกลนคร - room

ชมวิถีชีวิตและความสวยงามของบึงหนองหาร พร้อมชิมเมนูพื้นถิ่นของกินจากกลางบึง ณ จ.สกลนคร

1

หนึ่งจังหวัดที่ใครได้มีโอกาสแวะเวียนมาเป็นอันต้องตกหลุมรักในวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และดื่มด่ำกับความสวยงามของบึงหนองหารที่จะให้คุณได้ร่องเรือสูดอากาศบริสุทธิ์แบบเต็มปอด อีกทั้งยังมีเมนูพื้นถิ่นที่ได้วัตถุดิบมาจากบึงหนองหารให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย หรือถ้าใครชอบช๊อปปิ้งขอบอกเลยค่ะว่าชุมชนนี้มีของดีให้ได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านแถมยังมีเรื่องราวดีๆ ให้คุณได้ชื่นใจอย่างแน่นอน

2

พิกัดสถานที่ชื่นใจที่แรก การเดินทางไม่ยากเลยค่ะ จากตัวเมืองสกลนครเลี้ยวซ้ายบริเวณสามแยกบบ้านโพนยางคำเข้าสู่ถนนโพนยางคำ จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ ผ่านบ้านหนองแวง บ้านหนองปลาน้อยและบ้านเหล่าปอแดง ระยะทางอยู่ที่ประมาณ 10 กิโลเมตรก็จะเริ่มเข้าสู่ชุมชนแรกนั่นก็คือชุมชนบ้านท่าวัดค่ะ

3 4

เมื่อมาถึงชุมชนเราจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มีการร้องรำทำเพลง และการผูกผ้าขาวม้าที่ทอกันในชุมชน นอกจากนี้ยังมีกระเป๋า ตะกร้า ผ้าซิ่น เสื่อ และของดีอื่นๆ ให้ได้ช๊อปปิ้งกันอีกเพียบ

5 6

เปิดฉากด้วยการล่องเรือรอบบึงหนองหาร เราจะพบเห็นชาวบ้านที่หาสายบัว และหอยเชอร์รี่ไปขายซึ่งการจับหอยเชอรี่ก็ถือเป็นอาชีพเสริมที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับคนชุมชนไม่น้อย

7 8 9

ที่แรกที่จะไปเที่ยวกันคือเกาะดอนสวรรค์ เกาะแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 105 ไร่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาเกาะที่มีอยู่ในหนองหาร เมื่อถึงแล้วเราจะเจอต้นไม้สูงใหญ่ที่มีอายุหลายร้อยปี และจะเห็นได้ว่ามีองค์พระธาตุดินเดิม และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งชาวหนองหารและชาวสกลนครเชื่อกันว่าดอนสวรรค์แห่งนี้เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ชาวบ้านจึงให้การเคารพนับถือมาอย่างยาวนาน ใครก็ตามที่มาเที่ยวหนองหารไม่ควรพลาด

10 11

หลังจากที่ซึมซับความสวยงามของธรรมชาติที่เกาะดอนสวรรค์กันอย่างอิ่มเอมแล้วก็ไปเยี่ยมชมอีกหนึ่งเกาะที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน สิ่งแรกที่ได้เห็นเมื่อขึ้นมาบนเกาะคือเจ้าบรรดาหมูดำตัวเล็ก ตัวใหญ่ ซึ่งหมูที่เราเห็นตัวดำๆ นี้เป็นหมูที่ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่ว่าชาวบ้านในชุมชนนำมาเลี้ยงไว้ นอกจากหมูจะได้หากินเองตามธรรมชาติแล้วยังถือเป็นการลดมลภาวะทางกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ไม่ให้รบกวนเพื่อนบ้านอีกด้วย โดยเจ้าของหมูนั้นจะนำอาหารมาให้วันละ 1 ครั้ง และเจ้าหมูน้อยเหล่านี้จะจดจำเจ้าของของตัวเองได้ด้วยลักษณะของการส่งเสียงหรือวจังหวะการเคาะเรียกเวลานำอาหารมาให้ อาชีพเลี้ยงหมูดำถือว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่แปลกไม่เหมือนใครอีกด้วย

12 13

อีกหนึ่งอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนก็คือการทำขนมซึ่งสาวๆ ที่ชุมชนบ้านท่าวัดเหนือมีการรวมกลุ่มกันทำขนมดอกจอก เรียกว่าทอดกันสดๆ ใหม่ๆ เห็นขนมดอกจอกที่นี่แล้วท้องร้องจ๊อก จ๊อก น่ากินมากๆ เลยค่ะ แถมราคาก็ไม่แพงอยู่ที่ถุงละ 20 บาทเท่านั้นเอง

14 15

หลังจากที่ชิมขนมดอกจอกรองท้องไปแล้ว ก็ได้เวลาไปกินกันแบบจริงจังแล้วค่ะ งานนี้ศรีภรรยาของลุงผู้ใหญ่ก็ได้เตรียมอาหารเย็นที่ทำจากวัตถุดิบที่หาได้ในชุมชนอย่างปลาหมอย่างเกลือ หมูหัน ผัดกระเพราหอยเชอรี่ แต่ละเมนูก็น่ากินมากๆ อย่ารอช้าไปลุยกันเลย

16

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวและ อาหารอร่อยๆแล้ว รอบๆ ชุมชนหนองหารยังมีศูนย์เรียนรู้ด้วยอีกด้วย อย่างที่ชุมชนบ้านน้ำพุ ที่นี่จะมีศูนย์การเรียนรู้ที่นำวัชพืชจากบึงหนองหารมาใช้ให้เกิดประโยชน์อีกด้วย

17

วัชพืชเหล่านี้นอกจากจะสร้างปัญหาในเรื่องของการสัญจรทางน้ำแล้ว ยังทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย ผู้ใหญ่บ้านของชุนบ้านน้ำพุจึงได้นำความรู้ในเรื่องการปลูกผักลอยน้ำมาปรับใช้กับพื้นที่โดยรอบบึงหนองหาร ซึ่งแปรงผักที่เห็นอยู่นี้ไม่ใช่พื้นดินที่ทำยกร่อง แต่เป็นวัชพืชต่างๆ ที่รวมตัวกันจนอัดแน่นชาวบ้านจะเรียกว่าสนม หรือว่าสนุนค่ะ ซึ่งวิธีการนำเจ้าสนุนเหล่านี้มาใช้จะต้องเลือกที่มีขนาดค่อนข้างหนาส่วนวิธีทดสอบว่าหนาขนาดไหนก็ต้องทดสอบโดยการให้คนขึ้นไปเดินเลยค่ะ

18

หลังจากที่ทดสอบเสร็จแล้ว ชาวบ้านก็จะทำการเลื่อยออกมาให้มีลักษณะ ขนาด และรูปร่างคล้ายแปรงผักค่ะ ซึ่งวิธีการทำแปรงผักลอยน้ำจากวัชพืชนี้นะคะไม่ได้มีอยู่แค่ในชุมชนบ้านน้ำพุเท่านั้นแต่ว่ายังมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างชุมชนใกล้เคียงอีกด้วย

19

ซึ่งที่ชุมชนบ้านแป้นเป็นอีกหนึ่งแห่งที่มีการทำแปรงผักลอยน้ำ โดยชาวบ้านจะนำไม่ไผ่มาปักยึดกับแปลงหญ้าที่ตัดมาเพื่อเป็นการยึดแปลงผักไว้ไม่ให้ลอยน้ำ จากนั้นก็จะนำดินที่อยู่ด้านล่างของบึงขึ้นมาโปะและนำต้นกล้าขึ้นไปปลูก ผักที่นำมาปลูกส่วนใหญ่จะเน้นเป็นผักสวนครัว การทำแปลงผักลอยน้ำนอกจากจะเป็นการนำวัชพืชที่เคยสร้างปัญหามาทำให้เกิดประโยชน์แล้วชาวบ้านจะยังได้มีผักสดๆ เอาไว้บริโภคในครัวเรือนอีกด้วย แถมในอนาคตแปลงผักเหล่านี้จะกลายเป็นจุดชมวิวที่งดงาม นอกจากจะได้เห็นวิวหนองหารแล้วยังจะได้เห็นแปลงผักลอยน้ำที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจกันของชาวบ้านอีกด้วยค่ะ

20 21

จากชุมชนบ้านแป้นเราจะกลับไปที่ชุมชนบ้านท่าวัดเหนืออีกครั้ง เพราะที่นี่ยังมีร้านเจ๊มิตร ตำระเบิด ที่นอกจากจะเปิดขายส้มตำแล้วขอบอกว่าความไม่ธรรมดาคือเจ๊มิตรเป็นถึงดีกรีระดับแชมป์ประจำหนองหารเลยค่ะ นอกจากส้มตำรสแซบแล้ว ลีลาการตำของเจ๊มิตรนี่ต้องบอกว่าเด็ดมากค่ะ

22

ชุมชนต่อไปห่างจากชุมชนบ้านท่าวัดเหนือประมาณ 6 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ก็จะถึงชุมชนบ้านท่าแร่การเดินทางมาที่ชุมชนบ้านท่าแร่นี้ หากเดินทางโดยรถยนต์สามารถใช้เส้นทางทางหลวงถนนหมายเลข 22 สกลนครนครพนม ซึ่งตำบลท่าแร่จะห่างจังตัวเมืองสกลนครประมาณ 21 กิโลเมตรค่ะ

23 24

อีกหนึ่งสถานที่ที่ตั้งอยู่ในชุมชนโดยรอบบ้านหนองหารคือ อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล โบสถ์คริสต์ที่มีความสวยงามและใหญ่ที่สุดในภาคอิสาน และด้วยรูปทรงของโบสถ์มีลักษณ์คล้ายเรือก็เพื่อที่จะให้ระลึกถึงบรรพบุรุษที่อพรพมาทางเรือ และในเวลาเดียวกันก็เพื่อเตือนใจว่าเรือนี้ก็คือเรือโนอาห์ในพระคัมภีร์ คล้ายๆ กับว่าหมู่บ้านนี้จะต้องเจริญก้าวหน้าและฟันฝ่าอุปสรรคต่อไป

25

ตำบลท่าแร่แห่งนี้ประกอบด้วยชุมชนย่อยถึง 15 ชุมชนซึ่งตั้งรายล้อมอยู่รอบๆ โบสถ์ และประชากรที่นี่ร้อยละ 99 นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันทาคอลิกโดยมีอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนค่ะ

26

ชุมชนท่าแร่แห่งนี้หากมองเผินๆ อาจจะเหมือนชุมชนทั่วไป แต่จริงๆ แล้วชุมชนท่าแร่แห่งนี้มีลักษณะการวางผังเมืองจำลองมาจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งตรอกซอกซอยจะถูกตัดตรงยาวถึงกันและเป็นระเบียบเรียบร้อย ถนนทุกสายจะมุ่งตรงสู่หนองหาร และบ้านเรือนหลายๆ หลังยังมีสถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานกันระหว่างฝั่งเวียดนามและฝรั่งเศสให้เราได้เห็นกันอีกด้วย

27 28

สำหรับใครที่มีโอกาสได้เข้ามาเยี่ยมชุมชนท่าแร่ ก็อย่าลืมแวะเข้ามาชมความสวยงามของโบสถ์และบ้านเรือนเก่าแก่สไตล์ฝรั่งเศสกันนะคะ ขอบอกเลยว่าถ่ายรูปออกมาสวยมากๆ ซึ่งชุมชนท่าแร่แห่งนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวให้ได้ซื้อไปเป็นของฝากติดไม้ติดมือกันด้วยค่ะ

29 30

อีกหนึ่งชุมชนรอบหนองหารที่นับถือศาสนาคริสต์เช่นเดียวกันก็คือบ้านจอมแจ้ง และสถานที่แห่งนี้ก็คือวัดพระแม่ราชินีสายประคำศักดิ์สิทธิ์ นอกจากสีสันของวัดที่โดดเด่นสะดุดตาแล้วความสวยงามของวัดอีกมุมหนึ่งที่ไม่เหมือนใครก็คือความงามที่เกิดจากเงาของวัดซึ่งสะท้อนกับผิวน้ำ และตัดกับสีของท้องฟ้าสวยงามมากๆ เลยค่ะ

31

บรรยากาศยามเย็นของบ้านจอมแจ้งแห่งนี้ชวนให้เราอยากหยุดพัก และนั่งมองความสุขของผู้คนที่หาได้ใกล้ๆ ตัว นั่งมองวิถีชีวิตของคนกับน้ำ ได้เห็นความผูกพันธ์กับวัฒนธรรมที่เคยมีมา และได้เห็นตะวันรอเดือนหนองหารที่เค้าว่ากันว่าสวยงามไม่แพ้ใคร

32 33

วันนี้ทางทีมงานชื่นใจไทยแลนด์จึงร่วมมือกับอาจารย์ น้องๆ จากมหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร และ Art Director ของ Amarin TV มาร่วมกันส่งเสริมการท่องท่องให้กับชุมชนบ้านหนองหาร โดยการสร้าง Facebook ภายใต้ชื่อ “หนองหารบ้านเฮาละเบ๋อ” พร้อมทั้งช่วยกันออกแบบโลโก้ของชุมชนที่ได้ไอเดียร์มาจากของดีในชุมชน นอกจากนี้ชาวบ้านยังจับมือกับกลุ่มนักศึกษาที่คอยทำหน้าที่เป็นแอดมินเพจ พร้อมทั้งดูแลจัดการท่องเที่ยวในแต่ละเดือนอีกด้วย งานนี้ชาวบ้านแต่ละคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเพราะอยากให้ทุกคนได้เห็นถึงความสวยงามของหนองหาร อยากให้หนองหารเป็นที่รู้จัก และยังอยากให้หนองหารได้เขาไปอยู่ในใจของนักท่องเที่ยวอีกหลายๆ คน เพราะนี่คือหนองหารบ้านเฮาละเบ๋อค่ะ

34

1

จากการที่ได้เที่ยวไปหลายๆ ชุมชนรอบหนองหารทำให้ได้เห็นว่าหนองหารมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ได้ชิมอาหารอร่อยๆ จากท้องถิ่น ได้เห็นความร่วมมือร่วมใจกันของชาวบ้าน เห็นการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ระหว่างชุน และที่สำคัญที่สุดก็คือได้เห็นความน่ารักของคนในชุมชนที่ทั้งเป็นมิตรและใจดีมากๆ แบบนี้สิคะถึงจะเรียกว่าชื่นใจของแท้

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากอมรินทร์ทีวี ร่วมกับโครงการพลังประชารัฐและไทยเบฟเวอเรจ
ขอบคุณภาพสวยๆ จากรายการชื่นใจไทยแลนด์ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา  21:30 น. ช่อง 34 อมรินทร์ทีวี

ติดต่อเยี่ยมชมชุมชน
กลุ่มขนมดอกจอกสมุนไพร บ้านท่าวัด โทร. 091-689-2415
ชุมชนบ้านท่าแร่ โทร. 061-364-5545