“Le Plan Libre” บ้านโมเดิร์น เเบบ Free Plan บนเนินสูงท่ามกลางความสงบของหุบเขา และแมกไม้กลางอุทยานแห่งชาติ ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน ผลงานการรีโนเวตโดย Nic Lee ดีไซน์ไดเร็กเตอร์แห่ง Waterfrom Design กับการสร้างภาพเสมือนของงานสถาปัตยกรรมโมเดิร์นยุคดั้งเดิมให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งภายใต้เส้นสายสมัยใหม่
ด้วยข้อจำกัดของที่ตั้งซึ่งอยู่เหนือเนินเขาในเขตอนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติ การจะสร้างบ้านหลังใหม่ต้องเป็นการรีโนเวตจากโครงสร้างเดิมที่มีอยู่แล้วเท่านั้น ผู้ออกแบบจึงยังคงเก็บสเปซและโครงสร้างแบบโมเดิร์นของบ้านขนาด 2 ชั้น ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยรวม 726 ตารางเมตรไว้ ซึ่งเป็นเสมือนมรดกจากสถาปนิกยุคดั้งเดิมจากคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยออกแบบพื้นที่ใช้สอยของ บ้านโมเดิร์น หลังนี้ ให้แผ่ออกไปในแนวราบให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ตัวบ้านราบเรียบไปกับลักษณะของเนินเขา แล้วเลือกใช้กระจกใสกรุลงบนผนังที่ยืดยาว ช่วยให้มองเห็นความโปร่งเบาของบ้าน
เมื่อมองจากแนวรั้วจะเห็นเส้นสายเรขาคณิตของโครงสร้างอาคารทั้งเส้นตั้งและเส้นนอนที่ดูแข็งแรงชัดเจน เป็นไอเดียที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลักษณะสถาปัตยกรรมแบบ “Skin and Bones” ของลุดวิกมีส ฟาน เดอ โรห์ มาสเตอร์ด้านสถาปัตยกรรมโมเดิร์นชาวเยอรมนี เมื่อนำมาประยุกต์ใช้กับบ้านดีไซน์โมเดิร์นหลังนี้ จึงยิ่งเสริมให้มีอัตลักษณ์สุดโดดเด่นท่ามกลางขุนเขาที่อยู่รายล้อม
ทันทีที่ก้าวเข้าสู่บริเวณหน้าบ้านชั้น 1 จะได้พบกับสระน้ำเล็ก ๆ และทางเดินที่ทอดขนานไปกับขอบสระมุ่งสู่ประตูทางเข้าบ้าน พื้นที่ภายในต้อนรับผู้มาเยือนด้วยส่วนนั่งเล่นที่ตั้งอยู่กลางบ้าน ทำหน้าที่เป็นเหมือนส่วนกระจายการใช้งานออกไปยังพื้นที่รอบ ๆ ซึ่งมีทั้งยิมเล็ก ๆ ส่วนรับประทานอาหารพร้อมห้องครัว สปา รวมถึงห้องนอนหลักของเจ้าของบ้าน
บริเวณเหนือส่วนนั่งเล่น สถาปนิกได้ทำช่องเปิดขนาด 4 x 4 เมตร ทะลุถึงชั้น 2 ทำให้พื้นที่ส่วนนี้กลายเป็นห้องโถงสูงโปร่ง มีบรรยากาศสบายน่าพักผ่อน และยังสร้างความรู้สึกต่อเนื่องกับพื้นที่ชั้นบนด้วย โดยพื้นที่ชั้นล่างนี้ถูกออกแบบให้เปิดโล่งถึงกันหมด แล้วใช้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์เพื่อกำหนดสัดส่วนการใช้งานแทนการกั้นผนัง สอดคล้องกับความหมายที่แฝงอยู่ในชื่อของบ้าน “Le Plan Libre” ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า “Free Plan”
ส่วนผนังด้านนอกออกแบบให้เป็นกระจกใสผืนยาว ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติให้ส่องผ่านเข้ามาด้านในได้เต็มที่ นอกจากจะช่วยสร้างความโปร่งโล่งแล้ว ยังสร้างความต่อเนื่องของพื้นที่ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ในชั้นนี้เท่านั้น แต่หมายถึงพื้นที่ทั้งหมดในบ้าน รวมถึงการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในกับภายนอกอีกด้วย
