“พื้นที่จำกัดฟังก์ชั่นแน่น / พื้นที่สีเขียวคือจุดขาย / สเปซส่วนกลางไซส์บิ๊ก”
ฟัง แนวโน้มการออกแบบคอนโดฯ และบ้านจัดสรร จากปาก “คนออกแบบ” คุณศุภชัย เขียวงาม สถาปนิกจาก Somdoon Architects (SdA) สตูดิโอออกแบบเจ้าของผลงานระดับรางวัลมากมาย ทั้งยังคร่ำหวอดในวงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมมาตลอด
พื้นที่จำกัด ฟังก์ชั่นต้องแน่น สไตล์ต้องโดน
“ห้องคอนโดแต่ก่อนจะค่อนข้างใหญ่ มีสองถึงสามห้องนอน แต่ทุกวันนี้ ห้องแต่ละยูนิตจะเล็กลงเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 22 – 35 ตรม. เพื่อให้เหมาะกับตลาด โดยหลายๆ โครงการจะเน้นการใช้งานแบบมัลติฟังก์ชั่นเป็นพิเศษ คือ มีพื้นที่เก็บของใต้โต๊ะใต้เตียงหรือตู้เก็บของขนาดใหญ่ เก็บกระเป๋าเดินทางได้ เหมือนเป็นจุดขายของดีเวลลอปเปอร์ หลายๆ แบรนด์
แต่ถ้าเป็นโครงการต่างจังหวัด ตัวอย่างโครงการที่เราเคยทำเช่น The deck ป่าตอง ซึ่งเป็นคอนโดตากอากาศ ก็อาจจะเป็นคอนโดที่ไม่ต้องการพื้นที่เก็บของมากนัก เพราะคนกรุงเทพฯ หรือชาวต่างชาติ ก็จะมาอยู่ระยะสั้น หรือบางทีแค่เสาร์อาทิตย์ แต่ต้องพยายามทำห้องให้ดูโปร่งสบายขึ้นสำหรับครอบครัว สามารถเปิดห้องเชื่อมต่อกันได้ มีระเบียงที่กว้างกว่า สามารถใช้ชีวิตภายนอกได้มากกว่า อย่างคอนโดในเมืองเราจะทำแค่ระเบียงขนาดเล็ก”
และด้วยพื้นที่ต่อตารางเมตรของบ้านใจกลางเมืองที่แพงขึ้น โดยเฉพาะคอนโดระดับพรีเมียม คนจะสนใจโครงการที่มีสไตล์การตกแต่งในธีมพิเศษเฉพาะตัว เหมือนว่าสไตล์เรียบง่ายโมเดิร์นอาจจะถึงจุดอิ่มตัว บ้านกล่อง หรือคอนโดเรียบๆ ทาสีขาว –เทา-ดำ อาจจะมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ สำหรับตลาดกลางและล่าง ด้วยการแข่งขันที่สูง ดังนั้น งานดีไซน์จึงช่วยสร้างมูลค่า ด้วยวัสดุที่แปลกตา บรรยากาศที่แตกต่าง“
มาตรฐานใหม่ของพื้นที่ส่วนกลาง
“ด้วยพื้นที่จำกัด ลูกบ้านก็คงไม่อยากอยู่ในห้องตัวเองตลอดเวลา อยากใช้พื้นที่ส่วนกลางพบปะผู้คน ดังนั้น ดีเวลลอปเปอร์จะพยายามสร้างพื้นที่ส่วนกลางหรือคอมมูนิตี้สเปซให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางจะสะท้อนออกมาในรูปแบบของงานสถาปัตยกรรมด้วย ทำให้อาคารดูน่าสนใจขึ้น เช่น สกายเลาจน์สำหรับชมวิวได้ในตอนกลางคืน ยิ่งระดับพรีเมียม พื้นที่ส่วนกลางก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะคอนโดก็ราคาสูงขึ้น ผู้บริโภคก็คาดหวังมากขึ้น กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของยุคนี้ไปแล้ว”
พื้นที่สีเขียวคือคุณภาพชีวิต
“จริงๆ เรามองถึงการเพิ่มมูลค่าของแต่ละโครงการด้วยพื้นที่สีเขียว ผมเชื่อว่าคุณภาพชีวิตที่ดีคือการที่ผู้อยู่อาศัยได้อยู่กับธรรมชาติ แสงแดด สายลม เราจึงพยายามออกแบบให้ทุกพื้นที่ของบ้านสามารถรับลม สัมผัสธรรมชาติได้ แม้จะอยู่บนตึกสูง ก็ตาม ยกตัวอย่างโครงการ Siamese Exclusive ซึ่งเราออกแบบให้มีระเบียงที่ใหญ่กว่าปกติ เป็นเหมือนสวนส่วนตัว ปลูกต้นไม้ยืนต้น เชื่อมโยงกับห้องนั่งเล่น หรือห้องนอน
พื้นที่สีเขียวเป็นจุดขายของหลายๆ โครงการ โดยใช้ข้อได้เปรียบของที่ตั้ง เพื่อออกแบบพื้นที่ที่เอื้อประโยชน์กับทั้งผู้อยู่อาศัยจริง และเจ้าของโครงการ อย่างโครงการ Ashton เราก็พยายามเสนอพื้นที่สีเขียวกับเมือง รูปแบบตึกจึงออกมาในรูปแบบของอาคารสีเขียว เรานำเสนอแนวคิดนี้มานาน และคิดว่ามันยังสำคัญมาก โดยเฉพาะในสภาพสังคมเมืองปัจจุบัน ผมว่าพื้นที่สีเขียวสำหรับคนเมืองยังไม่พอ ยิ่งถ้าเมืองขยายตัวออกไป นอกจากสวนที่บ้าน เราควรจะต้องสร้าง Node ในหลายๆ จุดของเมือง ทุกคนควรเดินออกจากบ้านแล้วเข้าถึงพื้นที่สีเขียวได้โดยง่าย ไม่เหมือนทุกวันนี้ที่เราต้องเดินทางไกลเพื่อไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะสักชั่วโมง”
Prefab –เทคโนโลยีใหม่ ข้อจำกัดใหม่
“ตอนนี้ดีเวลอปเปอร์หลายๆ แบรนด์ทั้งบ้านจัดสรรและทั้งคอนโด นิยมใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูป Prefab หรือ Precast ซึ่งอาจจะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และการควบคุมคุณภาพได้ แต่ก็เกิดข้อจำกัดในด้านการออกแบบ คือมีวัสดุให้เลือกใช้จำกัด ช่องเปิดมีขนาดตายตัว ไม่สามารถเปิดกว้างให้บ้านโปร่งได้มากนัก บางโครงการที่ใช้ระบบ Prefab ทั้งห้อง ก็จะมีลักษณะเป็นระบบโมดูลมากขึ้น เฟอร์นิเจอร์มีขนาดให้เลือกจำกัด กลายเป็นโจทย์บังคับที่ทำให้ทางเลือกของผู้อยู่อาศัยน้อยลง บางทีอาจจะต้องสร้างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีกับดีไซน์ การเลือกใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้การก่อสร้างยังคงรวดเร็วขึ้น แต่ยังคงมีทางเลือกให้ผู้บริโภคเหมือนเดิม ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันทุกฝ่าย”
อ่านจับตาแนวโน้ม “บ้านจัดสรร” ของคนเมือง – EP 1 และ EP2 ได้ที่นี่
http://www.baanlaesuan.com/58382/design/property-trends-2017-2/
และดูโครงการบ้านจัดสรรที่น่าสนใจได้ที่ ROOM : PROPERTY REVIEW