วันนี้เราอาสาที่จะพาทุกคนมาชื่นใจกันที่ จังหวัดระยอง ที่ที่คนนิยมมาท่องเที่ยว เพราะมีท้องทะเลที่สวยงาม มีสวนผลไม้ที่เลื่องชื่อ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย
โดยเราเริ่มสตาร์ทกันที่ทุ่งโปรงทอง ชุมชนบ้านแสมภู่ ปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ต้องบอกว่าที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งศึกษาธรรมชาติ และเป็นแหล่งเรียนรู้ ตลอดทางที่เราเดินเข้ามาจะเห็นจุดที่ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ ได้ชมบรรยากาศดีๆ ที่เห็นแล้วก็อดหยุดแวะถ่ายภาพไม่ได้เช่นกัน
สำหรับการเดินทางมาที่ทุ่งโปรงทองเราจะใช้เส้นทางถนนตัวเมืองระยอง มุ่งหน้าสู่ อำเภอแกลง โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ขับตรงมาตามทางประมาณ 60 กม. จากนั้นเลี้ยวขวาที่แยกเทศบาลทุ่งควายกิน เพื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 3126 จากนั้นตรงไปอีก 9 กม.จนถึงวัดตะเคียนงาม ให้สังเกตขวามือจะมีป้ายบอกทางเข้าสู่ทุ่งโปรงทองค่ะ
จากทางเข้ามาสักพักจะเห็นต้นโกงกางสูงๆ เต็มไปหมด มีสะพานไม้ให้เดินศึกษาความอุดมสมบูรณ์ของพืชและสัตว์ชายเลนที่มีตลอดสองข้างทาง ต้องบอกว่าป่าชายเลนแห่งนี้เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำสำคัญของปากน้ำประแส และยังทำหน้าที่เป็นแนวกำแพงธรรมชาติที่ช่วยป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งจากกระแสคลื่นอีกด้วยค่ะ ซึ่งพื้นที่แห่งนี้นอกจากจะมีพื้นที่ป่าชายเลนดั้งเดิมที่ขึ้นอยู่เองตามธรรมชาติแล้ว ยังมีการปลูกป่าเพิ่มเติมทำให้ปัจจุบันป่านี้มีพื้นที่รวมกันกว่า 6 พันไร่ค่ะ
ทุ่งโปรงทองแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ชาวบ้านในชุมชนมีส่วนช่วยกันดูแลด้วยค่ะ โดยเฉพาะการจัดตารางเวรกันทำความสะอาดและเก็บขยะเพื่อเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและช่วยกันดูแลสถานที่ท่องเที่ยวให้สวยงามอยู่เสมอนั่นเองค่ะ และนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศของป่าชายเลน ได้เดินสะพานไม้ศึกษาธรรมชาติ ที่นี่ยังมีกิจกรรมอีกหลายอย่างให้ได้ทำกันด้วยค่ะ
กิจกรรมแรกที่เราจะไปกันนั้นคือ กิจกรรมล่องเรือเที่ยวชมธรรมชาติ โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาขึ้นเรือได้ที่บริเวณประชาสัมพันธ์ด้านหน้า ซึ่งเรือที่มาให้บริการรับนักท่องเที่ยวนั้นก็คือกลุ่มพี่ๆ ชาวประมงในพื้นที่นั่นเอง
เราล่องเรือมาเรื่อยๆ จะพบกับแนวไม้ไผ่จำนวนมาก ที่ทำเอาไว้กั้นไม่ให้คลื่นซัดเข้าไปทำลายต้นกล้าที่ปลูกไว้ แถมยังให้ปลามาอาศัยแนวไม้ไผ่ในการวางไข่ได้อีกด้วย นักท่องเที่ยวที่ออกมาล่องเรือถ้าช่วงเวลาน้ำลงสามารถลงไปถ่ายภาพที่แนวไม้ไผ่ได้แบบใกล้ชิด และน้ำที่แห้งจนเห็นเนินทรายยังทำรายได้ให้ชาวบ้านในการหาหอยอีกด้วย หากใครอยากลองหาหอยแบบชาวบ้านปากน้ำประแส ทางกลุ่มก็มีการจัดเตรียมอุปกรณ์เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวด้วยค่ะ
การหาหอยของชาวบ้านก็จะมีหลายวิธี นอกจากการขุดหาหอยปากเป็ดแล้ว ก็ยังมีการใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่าเหล็กคาดที่ใช้ในการหาหอยกระปุกอีกด้วย เห็นแล้วน่าสนุกจนอดที่จะลองหาหอยดูบ้างไม่ได้จริงๆ ค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวในชุมชนปากน้ำประแสนั้นต้องบอกว่ามีด้วยกันหลายจุด และหากใครอยากจะเที่ยวครบ เที่ยวเพลิน คล่องตัว และไม่ต้องกลัวหลง ก็ต้องไม่พลาดที่จะใช้บริการพาหนะนำเที่ยวสุดคลาสสิคที่มีให้บริการนักท่องเที่ยวนั่นก็คือมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง หรือว่ารถซาเล้งที่ชาวบ้านในชุมชนเค้ามีให้บริการค่ะ
และก็มาถึงอีกหนึ่งสถานที่ที่เราพามาเที่ยวกันก็คือ แหลมสน ที่มีลักษณะเป็นชายหาดยาวๆ และมีต้นสนเต็มไปหมด ที่นี่มีแหลมที่เป็นทางหินยื่นออกไปในทะเลให้เราได้เดินไปชมวิวกันได้ มีนักท่องเที่ยวมากมายที่มาเล่นกีฬาทางน้ำกัน ถัดจากแหลมสนไปหน่อยก็จะถึงศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่เราได้มีโอกาสแวะมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยค่ะ
ที่นี่จะมีร้านของฝากร้านอยู่ร้านนึงค่ะ ซึ่งเป็นร้านของป้าแต๋ว ประธานกลุ่มท่องเที่ยวประแสโฮมสเตย์ ร้านนี้จะมีบริการจำหน่ายอาหารแห้งมากมาย และมีอีกหนึ่งอย่างที่เรียกได้ว่าเป็นของดีของกลุ่มฯ ก็คือ “ชาใบขลู่” โดยชาวบ้านได้มีการรวมตัวกันผลิตชาใบขลู่ขึ้นเพราะเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์และมีมากตามป่าชายเลน และต้องขอบอกว่าชาใบขลู่ที่นี่ใช้วิธีการอบด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยนะคะ ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยได้มาตรฐาน และช่วยยืดอายุของใบชาได้นานอีกด้วยค่ะ
ใบขลู่นี้นอกจากนำมาทำเป็นชาแล้ว ยังสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้หลากหลายอีกด้วย โดยเฉพาะที่ขึ้นชื่อมากๆ นั้นก้คือ ทอดมันค่ะ ถ้าใครอยากกินทอดมันใบขลู่ รวมถึงอาหารทะเลสดๆ อร่อยๆ นั้น ทางกลุ่มก็มีบริการทำอาหารให้ด้วยค่ะ แต่ถ้าใครจะมาแนะนำให้โทรมาจองล่วงหน้าไว้ก่อนนะคะ ทางกลุ่มฯ จะได้จัดเตรียมเมนูอาหารเอาไว้ให้ตรงกับความต้องการค่ะ
เช้าวันต่อมาเราก็ได้ไปเที่ยวกันที่ตลาดเช้าที่ตลาดเก่าชุมชนปากน้ำประแส ที่นี่เช้าๆ บรรยากาศจะคึกคักมากๆ เพราะผู้คนมาจับจ่ายซื้อของกันตั้งแต่เช้ามืด ของที่เอามาจำหน่ายก็มีทั้งอาหารทะเลสดๆ อาหารแห้ง และผลไม้ โดยตลาดแห่งนี้จะเปิดให้บริการทุกวัน โดยจะเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงตี 4 ตี 5 และตลาดจะเริ่มวายช่วงประมาณ 8 โมงค่ะ หากนักท่องเที่ยวคนไหนอยากเที่ยวชมวิถีชุมชน และอยากมาเดินหาของกินอร่อนๆ และของท้องถิ่นดีๆ แถมราคาไม่แพง ก็ต้องมาที่นี่ค่ะแลกกับการตื่นเช้าสักหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าสุดๆ ค่ะ
การเดินทางมายังตลาดเก่าชุมชนปากน้ำประแส หากเราเริ่มต้นจากสะพานประแสสิน ให้ใช้เส้นทางมุ่งหน้าสู่ถนนทุ่งโปรงทอง โดยใช้ถนนหมายเลข 4036 ตรงมาประมาณ 2 กม.จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเทศบาล 1 ตรงเข้ามาอีกประมาณ 350 เมตร ก็จะถึงตลาดเก่าชุมชนปากน้ำประแสแล้วล่ะค่ะ
นอกจากนี้ไม่ไกลจากตลาดเรายังสามารถเดินชมความสวยงามและความคลาสสิคของบ้านไม้เก่าแก่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของชุมชนปากน้ำประแสค่ะ
หลังจากที่เราได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของตลาดเช้ากันไปแล้ว สถานที่ชื่นใจต่อมาที่เราจะพาไปเที่ยวกันอยู่ที่ ตำบลตะพง จังหวัดระยอง ต้องบอกว่าที่นี่เป็นแหล่งรวมสวนผลไม้บุฟเฟ่ต์เอาไว้มากมายหลายสวนเลยค่ะ แต่สวนที่เราจะแนะนำให้รู้จักกันมีชื่อว่า “สวนแสงแดด” ค่ะ
สวนแห่งนี้นะคะจะคิดค่าเข้าคนละ 350 บาทต่อ 1 อิ่ม เรียกว่าจะกินเท่าไรก็ได้ไม่อิ่มไม่ต้องออกมาค่ะ ส่วนราคาเด็กก็แค่ 200 บาท ไม่จำกัดเวลาตั้งแต่ 8 โมงเช้า – 5 โมงเย็น ที่นี่นอกจากมีผลไม้หลากหลายชนิดแล้ว ยังมีบรรยากาศของบ้าน และยุ้งข้าวโบราณ รวมถึงต้นเงาะสีชมพูที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวเมื่อยามมาเยือนสวนแสงแดดแห่งนี้ด้วยค่ะ
ที่นี่นอกจากจะมีผลไม้ให้ทานกันแบบไม่อั้นแล้วนะคะ ยังมีของฝากที่เป็นผลไม้สด และผลไม้แปรรูปให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อติดไม่ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้านได้อีกด้วยค่ะ ถ้าใครที่มาเที่ยวระยองแล้วอยากกินผลไม้อร่อยๆ แบบไม่อั้นแนะนำให้มาสวนแสงแดดค่ะ ได้กินของดีแถมเจ้าของสวนก็น่ารักอีกด้วย จะคอยให้บริการนักท่องเที่ยวทุกคนอย่างดีค่ะ
สถานที่ต่อมาคือสวนประสมทรัพย์ของคุณลุงประจวบ ที่นี่นอกจากจะเป็นศูนย์เรียนรู้แล้วยังมีผลไม้แปลกๆ ให้เราได้ชมได้ชิมกันด้วยค่ะ อย่างมังคุดอินโด และเงาะอินโดค่ะ เมือ่ได้ลองชิมแล้วขอบอกว่ารสชาติอร่อยดีนะคะ หวานกว่ามังคุดไทยนิดหน่อย ใครอยากลองก็มาชิมกันได้ที่สวนประสมทรัพย์ค่ะ
ที่หน้าสวนประสมทรัพย์จะมีผลไม้จำหน่ายมากมายให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งก็เป็นผลไม้จากสวนต่างๆ ของสมาชิกภายในกลุ่ม โดยจะมีจุดจำหน่ายที่สวนของลุงประจวบนี่ล่ะค่ะ และถึงแม้จะมีการเปิดให้รับประทานผลไม้แบบบุฟเฟ่ต์ มีการใช้ผลไม้จำนวนมาก รวมถึงมีการจำหน่ายผลไม้สดด้านหน้าสวน ซึ่งปัญหาหลักของแต่ละสวนมที่เจอนั้นก็คือทุเรียน และมังคุดที่สุกงอมจัดค่ะ
และโจทย์ชื่นใจวันนี้ก็คือการแปรรูปผลไม้ที่สุกงอมให้กลับมาหอมน่ารับประทาน และช่วยลดความสูญเสียให้แก่เกษตรกรค่ะ โดยวันนี้ป้ายูง คุณผกา เส็งพานิช คอลัมน์นิสต์และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารชีวจิต กูรูด้านอาหารเจ้าประจำของเราจะเอาทุเรียนมาทำเป็นไอศกรีม และเอามังคุดมาทำเป็นมังคุดลอยแก้วค่ะ
เริ่มต้นจจากการเลือกมังคุดที่แก่จัดมาปลอกเปลือก คัดเอาแต่เนื้อด้านในค่ะ ซึ่งขั้นตอนการทำได้ชาวบ้านมาช่วยกันอย่างแข็งขันจนเสร็จลง แต่ละขั้นตอนการทำจะเน้นเรื่องของสุขภาพเป็นหลักชาวบ้านบางคนจะตั้งอกตั้งใจกันมาก มีบางคนจดสูตรเอาไว้เพื่อนำไปบอกต่อชาวบ้านที่ไม่ได้มาด้วยนะคะ แหม น่ารักจริงๆ เลยค่ะ
และจากเมนูมังคุดลอยแก้ว เราก็มาถึงอีกเมนู นั่นก็คือไอศกรีมข้าวเหนียวทุเรียนค่ะ โดยเราจะเริ่มจากการนำทุเรียนที่งอมจัดมาปอกเปลือกและเลือกเอาแต่เนื้อค่ะ พอได้เนื้อทุเรียนแล้วก็มาถึงขั้นตอนการทำโดยจะใช้น้ำเต้าหู้เป็นส่วนผสมแทนกะทิสดค่ะ เพื่อสุขภาพนั่นเอง และเราก็ได้ไอศกรีมทุเรียนน่าตาน่ารับประกินที่มีเนื้อทุเรียนแบบเข้มข้นถูกใจคอทุเรียนมากๆ ค่ะ
ภาระกิจแปรรูปผลไม้สุกงอมที่อาจจะต้องทิ้งให้เสียหาย มาเป็นการเพิ่มมูลค่าเป็นของกินอร่อยๆ ในครั้งนี้ถูกอกถูกใจชาวบ้านในชุมชนมากๆ ค่ะ ต่อไปชาวบ้านก็จะได้มีรายได้มากขึ้นถือเป็นความชื่นใจของเรามากๆ ค่ะ และอีกอย่างทำให้เรารู้ว่าประเทศไทยมีผลไม้อร่อยๆ ที่กินได้ทั้งดิน ทั้งสุก ทั้งแปรรูป อย่าลืมนะคะ ใครที่อยากชิมผลไม้แบบอิ่มไม่อั้น กินได้ทั้งวัน สดใหม่ตลอดปี ก็เชิญมาที่ระยองฮได้เลยค่ะ ชาวบ้านเค้ารอต้อนรับอยู่เสมอค่ะ
ติดต่อเยี่ยมชุมชน
- เทศบาลตำบลปากน้ำประแส โทร.038-661-720
- กลุ่มท่องเที่ยวประแสโฮมสเตย์ โทร.085-329-7384
- สวนแสงแดด โทร.061-645-5962
- สวนประสมทรัพย์ โทร.081-377-3056