‘เครื่องใช้ไฟฟ้า’ เปรียบเสมือนเฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นของบ้าน ซึ่งนอกจากดีไซน์ที่ลงตัวกับสไตล์บ้านแล้ว ยังต้องมาพร้อมฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีที่ทันสมัยด้วย โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่ๆ อย่างตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และเครื่องซักผ้า ฯลฯ ที่จำต้องคำนึงเรื่อง “การประหยัดพลังงาน” เป็นสำคัญ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่เหล่านี้มักจะทำให้เราสูญเสียเงินในกระเป๋าในแต่ละเดือนเป็นจำนวนมากเกินจำเป็น
“ระบบ Inverter” คือเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานที่เราพูดถึงในวันนี้ โดยระบบ Inverter เปรียบเสมือนสมองกลของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่สั่งการให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานอย่างชาญฉลาด ซึ่งส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลากหลายกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็ช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่ๆ เมื่อใส่ระบบ Inverter เข้าไปจะยิ่งประหยัดพลังงานได้สูงสุดถึง 40% โดยที่ประสิทธิภาพการทำงานไม่ได้ลดลงไปด้วย
- เครื่องปรับอากาศ : ข้อดีสำคัญเครื่องปรับอากาศระบบ Inverter คือการประหยัดไฟได้มากถึง 30% เพราะระบบ Inverter จะทำให้เครื่องปรับอากาศทำความเย็นได้เร็วกว่าเครื่องปรับอากาศระบบทั่วไป (Non-Inverter) โดยเมื่อเครื่องปรับอากาศระบบ Inverter ทำความเย็นถึงจุดที่เราตั้งไว้แล้ว ระบบ Inverter จะสั่งการให้ความเร็วรอบมอเตอร์ลดลง แทนการรีสตาร์ทเครื่องใหม่ ซึ่งการลดรอบหรือความถี่ลงเท่ากับการประหยัดพลังงานนั่นเอง
นอกจากนี้การที่มอเตอร์ไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่องใหม่ ทำให้เครื่องปรับอากาศระบบ Inverter ทำงานอยู่ตลอดเวลา จึงช่วยรักษาอุณหภูมิห้องได้คงที่ โดยเครื่องปรับอากาศระบบ Inverter จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากถึง 20-30% เมื่อเทียบกับเครื่องปรับอากาศ Non-Inverter ที่มีขนาดเท่ากัน
a. เครื่องปรับอากาศ Inverter รุ่น ATKC18 RV2S จาก DAIKIN
b. เครื่องปรับอากาศ Inverter รุ่น MSZ-LN13VF R จาก Mitsubishi Electric
- ตู้เย็น : สิ่งสำคัญของตู้เย็นคือการรักษาความเย็นตลอดเวลา โดยตู้เย็นระบบทั่วไป (Non-Inverter) มอเตอร์จะทำงานหนักด้วยอัตราสูงสุดตลอดเวลา และเมื่อทำความเย็นได้ตามระดับที่ตั้งไว้ มอเตอร์ก็จะหยุดทำงาน แต่ทันทีที่เราเปิดตู้เย็นจะทำให้อุณหภูมิในตู้เย็นลดลง แม้เพียงเล็กน้อย แต่ก็ส่งผลให้มอเตอร์ที่หยุดทำงานต้องรีสตาร์ทพร้อมทำงานด้วยอัตราสูงสุดอีกครั้ง เพื่อเร่งทำอุณหภูมิในตู้เย็นให้เย็นใหม่ ดังนั้นยิ่งเราเปิดตู้เย็น Non-Inverter บ่อยก็ยิ่งเปลืองไฟ
ตรงกันข้ามตู้เย็นระบบ Inverter ที่ถูกออกแบบให้รักษาระดับอุณหภูมิคงที่ตลอดเวลา โดยมอเตอร์ไม่หยุดทำงาน ดังนั้นเมื่อเราเปิดตู้เย็นระบบ Inverter มอเตอร์จึงเพียงแค่เร่งการทำงานในระดับที่พอเหมาะกับปริมาณความเย็นที่สูญเสียไปเท่านั้น ทำให้ตู้เย็นระบบ Inverter ประหยัดกว่ามากถึง 30% – 40% เมื่อเทียบกับตู้เย็น Non-Inverter ขนาดเดียวกัน
a. ตู้เย็น Inverter รุ่น RT62K7350BS/ST จาก Samsung
b. ตู้เย็น Inverter รุ่น NR-CY558G-W จาก Panasonic
- เครื่องซักผ้า : หากเป็นเครื่องซักผ้าระบบทั่วไป (Non-Inverter) จะมีระบบการหมุนซักทิศทางเดียว แต่หากเป็นเครื่องซักผ้าระบบ Inverter จะช่วยให้เครื่องซักผ้าสามารถหมุนซักได้หลายทิศทางทั้งการซักแบบ 3 และ 6 ทิศทางแล้วแต่รุ่น ส่งผลให้ผ้าที่ซักสะอาดกว่าเดิม อีกทั้งระบบ Inverter ยังสามารถลดการสั่นสะเทือน จึงช่วยลดเสียงรบกวนระหว่างซัก นอกจากนี้เครื่องซักผ้าระบบ Inverter บางยี่ห้อยังมาพร้อมฟีเจอร์การประหยัดน้ำอีกด้วย
แน่นอนว่าหัวใจสำคัญของเครื่องซักผ้าระบบ Inverter คือการประหยัดไฟด้วยการสั่งการให้มอเตอร์ทำงานต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้การซักและปั่นหมาด มอเตอร์ไม่ต้องเริ่มรอบใหม่ ทำให้ซักเร็ว ส่งผลให้ประหยัดได้มากขึ้น โดยสามารถประหยัดไฟได้สูงถึง 30% – 40% เมื่อเทียบกับเครื่องซักผ้า Non-Inverter ขนาดเดียวกัน
a. เครื่องซักผ้า Inverter รุ่น WA21M8700GV/ST จาก Samsung
b. เครื่องซักผ้า – อบผ้า Inverter รุ่น F1409DPRW1 จาก LG
หากคุณกำลังมองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าระบบ Inverter ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น หรือเครื่องซักผ้า สามารถแวะชมสินค้าได้ที่ https://www.homepro.co.th/category/11051หรือดูสินค้าจริงได้ที่ HomePro ทุกสาขา