ผลผลิตจากสวนตาลลุงถนอมมีตั้งแต่น้ำตาลสด จาวตาลเชื่อม ขนมตาล น้ำตาลข้น (น้ำตาลปี๊บ) ส่วนเส้นใยจากเปลือกตาลส่งไปสุโขทัย เพื่อนำไปผลิตเสื้อผ้าจากใยตาล เมล็ดตาลก็นำไปแช่น้ำ แล้วทิ้งไว้ให้งอกยาว 25-30 เซนติเมตร จากนั้นตัดส่วนที่งอกออกทำเป็นจาวตาลเชื่อม ยามว่างลุงถนอมยังนำใยจากกาบหุ้มต้นตาลมาสานเป็นหมวก ขายใบละ 700 บาท
ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องตาลโตนดให้แก่ประชาชนทั่วไปที่สนใจ ลุงถนอมยังบอกอีกว่าใครอยากลองปลูกตาลโตนดเองบ้าง ไม่แนะนำให้ปลูกต้นกล้าเป็น จำนวนมากๆ เพราะใช้ต้นทุนสูง ต้นกล้าต้นหนึ่งก็ราคาร้อยบาทแล้ว แต่ถ้าใช้เมล็ด ต้นทุนจะถูกกว่า เพียงเมล็ดละ 5 บาทเท่านั้น
ก่อนออกจากสวนตาลแห่งนี้ จำที่ผมบอกว่าลุงถนอมมีความจำดีเลิศได้หรือไม่ ลุงได้กรุณาเล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพให้ฟัง หากนึกเรื่องราวไม่ออกให้นึกถึง ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เป็นรูปหนุมานแปลงกายให้ตัวใหญ่ แล้วอมพลับพลาของพระราม ไว้ในปากนั่นแหละครับ พอลุงเล่ามาถึงตอนที่ไมยราพบอกหนุมานว่าให้ถอนต้นตาลมาตีกัน คนละที ผมก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า หรือที่มาของกระบองยักษ์ตามวัดต่างๆน่าจะมาจากเรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพนี่เอง เพราะไมยราพก็จับพระรามไปขังไว้ในดงตาล ด้วยอาจคิดว่าอาวุธใกล้ตัวที่สุดก็คือต้นตาลนี่ล่ะ ถือเป็นอีกตอนหนึ่งที่มีเนื้อหาสนุกๆ ลองหามาอ่านกันนะครับ
สำหรับท่านใดที่ต้องการมาเที่ยวชมสวนแห่งนี้ สามารถสอบทางเส้นทางกับคุณอำนาจ ภู่เงิน (ลูกชายลุงถนอม) ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-7800 – 7716 ครับ
ข้อมูล
ขอขอบคุณ
คุณถนอม – คุณอำนาจ ภู่เงิน
เรื่องและภาพ : “ลุงตู่”
ภาพ: สมศักดิ์ แสงพลบ
