การเดินทางในสิงคโปร์ของเราและทีมงานครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นได้ทุกวัน ทุกเวลา ทุกวินาที เพราะเมื่อ พวกเราอยู่ต่างแดนไม่มีใครรู้หรอกว่าจะต้องเจออะไรกันบ้าง วันนี้เป็นวันหนึ่งที่พวกเราโชคดีได้รู้จักกับ เจ้าของบ้านที่น่าสนใจอีกคนโดยบังเอิญ เขาคือ Mr. Michael Ong ทันตแพทย์หนุ่มผู้หลงใหลการ แต่งคอนโด และชื่นชอบงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ โดยนํามาผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์ต่างๆที่ชื่นชอบได้อย่างลงตัว บนพื้นที่สุดพิเศษที่หลายคนต้องอิจฉากับชั้นเพ้นต์เฮ้าส์ขนาด 3,200 ตารางฟุต มีระเบียง ทอดยาวกว่า 35 เมตร สามารถมองเห็นวิวเมืองสิงคโปร์โดยรอบได้อย่างชัดเจน
“การ แต่งคอนโด ของผมไม่มีอะไรตายตัวเลยครับ ผมชื่นชอบการสะสมงานศิลปะและเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Mid-century Modern มันเลยเหมือนการผสมผสานให้ทุกอย่างออกมาลงตัว ในแบบของผม ครั้งแรกที่เห็นที่นี่ผมรู้สึกประทับใจกับวิวมาก จึงตั้งใจออกแบบบ้านให้โอบล้อมด้วยวิว ทิวทัศน์ บรรยากาศภายนอกและภายในเป็นหนึ่งเดียวกัน อย่างการออกแบบประตูกระจกบานสไลด์ตรง ระเบียงที่เปิดออกได้ตลอดแนว ยิ่งเวลามีเพื่อนมาปาร์ตี้กันที่บ้าน ผมก็จะเปิดรับวิวยามค่ำคืน มองเห็นแสงไฟจากตัวเมืองไปจนถึง Marina Bay ซึ่งมันเจ๋งมาก”
/ ผมแค่ออกแบบพื้นที่ให้ตัวเองอยู่สบาย และเติมแต่งพื้นที่นั้นด้วยสิ่งที่ผมรัก
ซึ่งก็คืองานศิลปะและเฟอร์นิเจอร์ที่สะสมไว้ /
ระหว่างที่ฟังคุณไมเคิลเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบ้านของเขา เราเองก็ยังไม่เห็นภาพนั้นสักเท่าไร จนกระทั่ง เปิดประตูเข้าไปภายในซึ่งเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เก๋และงานศิลปะที่โดดเด่นหลากหลายชิ้น โดยเฉพาะ ภาพวาดที่แขวนไว้บนผนังหลังโซฟาที่ใครไปใครมาก็ต้องเห็นเป็นอันดับแรก เขาเล่าว่าภาพนี้เป็นฝีมือ ของศิลปินชาวจีนที่ได้มาตอนไปฮ่องกง เพราะชอบเนื้อหาของภาพและความโดดเด่นของพื้นหลังสีแดง ที่ดูเข้ากับคอลเล็คชั่นพรมเปอร์เซียได้เป็นอย่างดี จึงเลือกนํามาประดับไว้ในโถงนั่งเล่น ดูแล้วเหมาะเจาะ ลงตัวจริงๆ นอกจากภาพวาดแล้วยังมีงานศิลปะอีกหลายชิ้นที่สวยงามและมีที่มาที่ไปน่าสนใจ เช่น ประติมากรรมสีแดง ผลงานของ Huang Gang ศิลปินชาวจีน ให้มุมมองที่ดูสอดคล้องกลมกลืนกันทั้ง แบบตะวันออกและการตกแต่งสมัยใหม่
ถัดจากโถงนั่งเล่นมีทางเดินเล็ก ๆ กรุผนังด้วยกระจกเงาเชื่อมต่อไปยังห้องต่างๆ ที่อยู่ตลอดแนวทางเดิน วิธีนี้ช่วยให้ทางเดินดูไม่แคบจนเกินไป แถมยังให้อารมณ์ลึกลับ ตามแบบฉบับที่เจ้าของบ้านชอบ ห้องแรกคือห้องครัวที่อยู่เยื้องกับโต๊ะอาหาร กั้นพื้นที่ด้วยประตูบานเฟี้ยมจีนโบราณช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้มีกลิ่นอายแบบเอเชีย โทนสีภายในเลือก ใช้สีขาวสะอาดสะอ้านเล่นกับแสงสว่างที่ส่องผ่านช่องหน้าต่างให้ห้องดูโปร่ง เพราะคุณไมเคิลไม่ชอบให้ห้องนี้มีอะไรที่รกตา เขาจึงออกแบบให้มีตู้เก็บของซ่อนไว้หลังผนัง และมีลิ้นชักใต้เคาน์เตอร์สําหรับเก็บเครื่องครัว รวมถึงของใช้จิปาถะให้เป็นระเบียบๆต่อมาเป็นห้องหนังสือขนาดย่อมที่อยู่ข้างห้องทํางาน มีตู้ไม้หนึ่งใบไว้เก็บหนังสือต่าง รวมไปถึงถ้วยรางวัลของสุนัขที่เขาเลี้ยงไว้ด้วย
ด้วยลูกเล่นของบานประตูที่กรุกระจกเงาโดยไร้ราวจับและลูกบิดใด คาดเดาไม่ได้เลยว่าผนังฝั่งไหนจะเป็นประตูห้องให้ผลักเข้าไปได้ แม้แต่ห้องนอนเอง ถ้าคุณไมเคิลไม่พาเข้าไปก็อาจจะคิดไปเองว่าบ้านหลังนี้คงสิ้นสุดที่ห้องทํางานและห้องน้ำ เท่านั้น ภายในห้องนอนขนาดกะทัดรัด เจ้าของเลือกบุผนังทุกด้านด้วยผ้าสีเทาเข้ม แบบเรียบหรูสุขุม แล้วเลือกเติมสีสันด้วยผลงานศิลปะเหมือนเช่นเคย กับภาพวาด ขนาดใหญ่โทนสีเหลืองบนผนังข้างเตียง ผลงานของ Shen Jingdong ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าในทุกเช้า หากวันไหนอากาศดีๆ ระเบียงด้านนอกก็เป็นอีกหนึ่ง พื้นที่พักผ่อนที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะแวดล้อมไปด้วยสวนหย่อมอันร่มรื่นและต้นไม้ นานาพรรณบนระเบียงที่เชื่อมยาวถึงกันได้ทั้งหมด ตั้งแต่โถงนั่งเล่นห้องแรกมาจนถึง ห้องนอน เหมือนเป็นไฮไลท์ของบ้านและเป็นผลงานศิลปะอีกหนึ่งชิ้นที่ไม่ว่าจะอยู่มุมๆ ไหนก็สามารถสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ได้ในทุกวันและทุกๆเวลา
TIP : สําหรับบ้านที่มีระเบียงดาดฟ้าหรือสวนที่โดนแดดค่อนข้างจัดขอแนะนําให้ปลูกพรรณไม้ที่ชอบแดดเต็มวัน เช่น ลีลาวดีหรือชวนชม ที่มีลักษณะลําต้นสวยงามพร้อมให้ดอก สีสันสดใสไม่ต้องดูแลอะไรมาก ไปจนถึงต้นไม้ทนแล้งอย่างลิ้นมังกร กระบองเพชร นอกจากนั้นหากยังต้องการความร่มรื่นจากต้นไม้ที่มีใบสวยงามเพิ่มเติม ลองหาต้นไม้วงศ์เฟินที่สามารถทนแดดได้ ทั้งเฟินชายผ้าสีดา ทรีเฟิน ด้วยรูปทรงของใบที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถอยู่ได้ในพื้นที่ที่มีแดดรําไรจนถึงแดดจัด ปลูกลงในกระถาง หลากหลายขนาดและรูปทรง จัดเรียงให้มีความสูงลดหลั่นกันไป สุดท้ายถ้ากลัวว่า ดินในกระถางจะกักเก็บความชื้นได้ไม่นาน แนะนําให้หาป็อปเปอร์เม็ดดินเผามาโรย ปิดหน้าดินเอาไว้ ซึ่งให้ประโยชน์ทั้งการเก็บความชื้นได้นานขึ้น แถมยังได้ความสวยงามในเวลาเดียวกัน
เจ้าของ-ออกแบบ : Mr. Michael Ong