9 รถยนต์ไฟฟ้า แห่งอนาคตกับนวัตกรรมรักโลก - room life

The Cars of Future : 9 รถยนต์ไฟฟ้า แห่งอนาคต กับนวัตกรรมรักโลก

น้ำมันคือแหล่งพลังงานที่มีแต่จะหมดลงทุกวัน แต่ถ้าจะให้เลิกใช้รถยนต์ไปเลยก็อาจเป็นไปไม่ได้หากต้องเดินทางไปที่ไหนไกลๆ แต่นักประดิษฐ์และนวัตกรก็ยังไม่หยุดที่จะค้นหานวัตกรรม และวิธีการที่ชาญฉลาดเพื่อให้โลกที่สวยงาม สิ่งแวดล้อมที่ดี อยู่ร่วมกันได้กับความสะดวกสบายของมนุษย์ อนาคตของรถจึงไม่ได้หยุดแค่นวัตกรรมอย่าง hybrid แบบที่เราคุ้นชินกันทุกวันนี้ แต่ยังก้าวหน้าไปสู่การเป็นรถไร้การปลดปล่อยของเสีย และเป็นไปได้อีกหลายทางตามขีดจำกัดของสมองมนุษย์ที่ยังคงคิดและค้นคว้าไม่มีที่สิ้นสุด อย่าง รถยนต์ไฟฟ้า

 

  1. MINI กับคอนเซ็ปต์การปลดปล่อยมลพิษเป็นศูนย์

รถยนต์ไฟฟ้า คันจิ๋วแต่ดีไซน์สุดคูลจาก BMW Group (Mini คือแบรนด์รถยนต์ในเครือการผลิตของ BMW Group) กับรถไฟฟ้าสามประตูขับสบาย ตามคอนเซ็ปต์รถในเมืองแบบมินิสไตล์ ด้านดีไซน์ตัวรถภายนอก หลังคาไล่เฉดสีเหลืองกราเดียนท์ และเพราะเป็นรถไฟฟ้า จึงไม่จำเป็นต้องมีตะแกรงช่วยระบายอากาศ ทำให้การออกแบบรูปลักษณ์ของรถสามารถช่วยในเรื่องอากาศพลศาสตร์ด้วยฝากระโปรงลู่ลมมากขึ้น จึงขับขี่คล่องตัว ใครที่อยากจับจองคันนี้ต้องรีบหน่อย เพราะเขาผลิตเพียง 600 คันเท่านั้น และรถรุ่นนี้จะผลิตที่ Oxford ประเทศอังกฤษ อันเนื่องมาจากแนวความคิดที่อังกฤษจะหยุดการขายน้ำมันดีเซลและปิโตรเลียมตั้งแต่ปี 2040 เป็นต้นไป

 

  1. AUDI กับหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์

โซลาร์เซลล์จากหลังคาบ้านประยุกต์กลายมาเป็นหลังคารถ โดยทาง Audi แบรนด์รถยนต์จากเยอรมัน ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานแสงอาทิตย์จากเมืองจีน Hanergy ในการพัฒนาฟิล์มโซลาร์เซลล์แผ่นบางๆ ติดอยู่กับหลังคากระจกที่เปิดกว้างวิวแบบพานอรามา เพื่อเปลี่ยนแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานสำหรับรองรับระบบอำนวยความสะดวกในรถยนต์ อย่างเครื่องปรับอากาศ หรือเบาะอุ่น โดยแพลนต่อไปในอนาคตคือการติดตั้งทั่วทั้งพื้นผิวหลังคา และสเตจสุดท้ายคือพลังงานแสงอาทิตย์ที่นำมาขับเคลื่อนรถได้อย่างสมบูรณ์

 

รถยนต์ไฟฟ้า

  1. Renault กับรถที่เปิดวิสัยทัศน์เชื่อมต่อไปกับบ้าน

รถยนต์ไฟฟ้า คันนี้ของ Renault โดดเด่นที่ดีไซน์ในคอนเซ็ปต์ห้องนั่งเล่นอเนกประสงค์เคลื่อนที่ได้ ซึ่งรับแรงบันดาลใจมาจากงานสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ทั้งตัวโครงสร้างรถที่เป็นเหล็ก หน้าต่างกระจกกว้างกว่าที่เคย และดีเทลเล็กๆ น้อยๆ แบบงานข้อต่อไม้ ส่วนภายในรถสะท้อนงานดีเทลและวัสดุปิดผิวเสมือนกับเป็นห้องนั่งเล่นในบ้าน ด้วยวัสดุทองแดง หินอ่อน ไม้ และกระเบื้องพอร์ซเลน ส่วนเบาะที่นั่ง ก็เปรียบเทียบเหมือนกับเป็นอาร์มแชร์ 4 ตัวที่หมุนให้หันเข้าหากันได้ ไม่ว่าจะออกไปทำกิจกรรมเอ๊าต์ดอร์นอกบ้านก็รู้สึกผ่อนคลาย หรือจอดทิ้งไว้ในบ้านก็เชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว

 

  1. Jaguar กับรถสปอร์ตคลาสสิกปลอดมลพิษ

Jaguar เลือกใช้โมเดล E-type โมเดลรถสปอร์ตคลาสสิกไอคอนของยุค ‘60 มาโมดิฟายด้วยการใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้า โดยเริ่มจากความมุ่งมั่นที่จะเลิกผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันให้ได้ภายในปี 2020 โดยรุ่นนี้การันตีการปลดปล่อยมลพิษเป็นศูนย์โดยที่สมรรถนะการใช้งานยังคงครบครัน เพราะน้ำหนักเครื่องยนต์เท่าเดิม รูปลักษณ์ของรถ รวมทั้งการใช้งานจึงไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย และสามารถเร่งเครื่องไปถึง 62 ไมล์ต่อชั่วโมง (หรือ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ภายในเวลาเพียง 5.5 วินาที

 

  1. Mercedes-Benz กับรถสปอร์ตไฟฟ้าสไตล์อาร์ตเดโค

รถสปอร์ตสองที่นั่งสไตล์อาร์ตเดโคจาก Mercedes-Benz มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวสำหรับขับเคลื่อนได้ถึง 500 กิโลเมตร เช่นเดียวกับที่เยอรมนีก็กำลังจะก้าวเข้าสู่ประเทศปลอดน้ำมันภายในปี 2030 ภายในตัวรถมากับคอนเซ็ปต์ Haute Couture กรุวัสดุคุณภาพสูงติดตั้งด้วยมือทั้งหมดตามแบบฉบับเบนซ์ ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกเพรียวลมแบบเรือยอชต์ ต่อเนื่องกับพื้นภายในที่เป็นพื้นไม้ ตัวรถพ่นสีน้ำเงินเข้มที่มีชื่อเฉพาะว่า Nautical Blue Metallic ส่วนตะแกรงด้านหน้าก็เป็นโลหะทำสีโรสโกลด์พ้องไปกับเบาะภายในที่เบาะเย็บเก็บขอบด้วยสีโรสโกลด์เช่นกัน

ชมต่อหน้า2 อีก 4 คัน คลิก
(Tesla , Volkswagen , Honda , Waymo )