/ ผมสนุกตั้งแต่ตอนสเก็ตซ์แล้วครับ เหมือนเรากำลังทำการทดลอง
เรื่อง golden section ว่าจะซ่อนจะแซมเข้าไปยังไง
กับอีกช่วงที่สนุกไม่แพ้กันคือเวลาเลือกวัสดุ /
รหัสลับในคน สัตว์ สิ่งของที่มีรูปร่างสวยสะกดสายตานั้น ล้วนมีสัดส่วนอยู่ที่ 1 : 1.618 โดยประมาณ หลายคนเรียกขานรหัสลับนี้ว่า golden section บ้างเรียก divine proportion ตามความเชื่อของชาวกรีก ซึ่งหากลองเชื่อมโยงดูเราสามารถค้นพบสัดส่วนนี้ได้ทั้งจากใบหน้าของสาวยิ้มปริศนานามโมนาลิซา หรือจากสถาปัตยกรรมชื่อก้องอย่างมหาพีระมิแห่งกีซา อียิปต์ ไปจนถึงสิ่งเล็ก ๆ อย่างเปลือกหอยบนชายหาด หรือแม้กระทั่งเพ้นต์เฮ้าส์สุดหรูใจกลางเมืองตรงหน้าเราขณะนี้
ถามไถ่ใจความจาก คุณโจ้ – สราวุธ ฉัตรเดชา Design Director แห่ง studioSPUTINIK เจ้าของโปรเจ็กต์ ได้ความว่า เพ้นต์เฮ้าส์เรียบหรูดูโมเดิร์นแห่งนี้เป็นผลผลิตคั้นสดจากความคิดของ คุณเต๊า – อาณัติ รุ่งรัศมีวัฒนกุล อินทีเรียร์ดีไซเนอร์อิสระที่เขาชักชวนให้มาออกแบบ เนื่องจากเป็นคนช่างคิด คุณเต๊าจึงนึกสนุกนำ golden section เข้ามาทดลองใช้กับงานอินทีเรียร์ดูสักตั้ง
“จริง ๆ สัดส่วนพวกนี้ซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวันของเราอยู่แล้ว เราเพียงอยากทดลองหยิบสิ่งนี้มาใส่ในงานอินทีเรียร์ดีไซน์ดู เพราะปกติคนก็จะเคยเห็นตามงานจิตรกรรมประติมากรรมมากกว่า ถ้าสังเกตดูดี ๆ จะพบว่าแทบทุกอย่างในเพ้นต์เฮ้าส์แห่งนี้มีสัดส่วนแบบ golden section หรือสัดส่วนทองคำที่เราใช้เป็นหลักในการทำงาน แต่มันอาจไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเราต้องดีไซน์บนพื้นฐานของการใช้งานจริงด้วย” คุณเต๊าเล่าถึงที่มาของแรงบันดาลใจ
“เราเปรียบผนังทุกด้านเป็นกระดาษเปล่า แล้วค่อย ๆ หาสัดส่วนบนผนัง ใส่เส้นเข้าไปทีละเส้น และซอยสัดส่วนทองคำเข้าไปเรื่อย ๆ จนเกิดผนังที่มีลักษณะหลายเลเยอร์ อย่างผนังบริเวณห้องนั่งเล่น ชั้นวางของในส่วนรับประทานอาหาร เราก็ใส่ฟังก์ชันและขยับนิดหน่อยให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง” เขาเสริม
โจทย์ตั้งต้นของโปรเจ็กต์นี้คือ จำนวนผู้อาศัยซึ่งเป็นครอบครัวขนาดกลาง ประกอบด้วยคุณพ่อ คุณแม่ และลูก ๆ อีก 3 คน รวมกับความต้องการอยากมีครัวเปิดขนาดใหญ่ เพื่อความสะดวกสบายพร้อมสำหรับให้เชฟที่เชิญมาทำอาหารในวันพิเศษได้แสดงฝีมือเต็มที่ ส่วนเรื่อง mood & tone ของห้องคุณอาณัติได้จับคาแร็คเตอร์เจ้าของห้องออกมาเป็นสไตล์ Modern & Luxury
“เราต้องถามเจ้าของบ้านว่าชอบงานแบบไหน คำตอบ คือเขาชอบบรรยากาศแบบในโรงแรมเป็นส่วนใหญ่ เราก็เลยจับทางว่าห้องนี้จะต้องดูลักชัวรี่ สังเกตได้จากวัสดุมันวาวและมีราคาอย่างกระจก ทองแดง และหินอ่อน เรื่อยไปจนเรื่องความสะดวกสบายแบบครบวงจรของ home automation system”
เพ้นต์เฮ้าส์แห่งนี้สามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างง่าย ๆ ได้ 2 ส่วน หนึ่งคือ พื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งกินอาณาบริเวณ ตั้งแต่โถงทางเข้าหินอ่อนที่นำเรามาสู่ครัวเปิดขนาดใหญ่โดดเด่นด้วยการนำแผ่นทองแดงมาเล่นเลเยอร์บริเวณฝ้าเพดาน คุณเต๊าตัดสินใจทุบผนังห้องครัวเดิมทิ้งทั้งหมด แล้วเชื่อมพื้นที่เข้ากับส่วนรับประทานอาหารเพื่อการใช้งานที่อิสระเข้าถึงง่าย ไปจนถึงส่วนนั่งเล่นซึ่งมีไฮไลต์อยู่ที่ผนังทองแดงบิดพับคล้ายลักษณะของพัดจีนหลังโซฟานั่งเล่น และแน่นอนว่าเป็นดีไซน์ที่ได้มาจากการซ่อนสัดส่วนทองคำเข้าไปทีละจุด
สอง คือ พื้นที่ส่วนตัว เริ่มตั้งแต่โถงทางเดินแคบ ๆ ที่มีประตูไม้ตีเว้นช่องแบบโปร่งทอดยาวไปยังห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก
“ผมค่อนข้างชอบผนังนี้ครับ เพราะว่าตอนทำเราต้องการเอฟเฟ็กต์สะท้อนไปมา และผลที่ได้ก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ปกติคนจะคุ้นเคยกับดาวน์ไลท์ แต่มุมนี้เราซ่อนไฟแบบอัพไลท์แทน เพื่อขับเน้นวัสดุและเพิ่มมุมมองหลังโซฟา”
แม้ไม่ได้จงใจเล่นกับวัสดุมากขนาดนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่ถือเป็นเพ้นต์เฮ้าส์ที่คัดสรรวัสดุคุณภาพหลากหลายมาทดลองทำใหม่ เช่น ตัดแผ่นหินอ่อนเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ปูพื้นทางเดิน ตัดแผ่นทองแดงมาดัดพับบนฝ้าเพดาน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ชั่วโมงทำอาหาร หรือกรุประตูทางเข้าบานใหญ่ด้วยหนังปลากระเบนให้ดูหรูหรายิ่งขึ้น ถ้าถามถึงสาเหตุ คุณเต๊าบอกว่า นี่เป็นเพียงผลพวงจากการเริ่มคิดถึงน้ำหนักสีตามมุมต่าง ๆ และเมื่อต้องหาวัสดุมาจับคู่ลงล็อกก็เลยอดไม่ได้ที่จะใช้วัสดุหลากชนิดที่ดูดีมีราคาตามคาแร็คเตอร์ของผู้อยู่ ยิ่งหลอมรวมเข้ากับอัตราส่วนศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวกรีก เรายิ่งพบว่าผลการทดลองครั้งนี้ได้สะกดสายตาผู้อยู่และผู้มาเยือนชนิดอยู่หมัด ส่วนผู้ออกแบบก็ได้ผลลัพธ์เป็นความสนุกครั้งใหม่
“ผมสนุกตั้งแต่ตอนสเก็ตช์แล้วครับ เหมือนกับเรากำลังทำการทดลองเรื่อง golden section ว่าจะซ่อนมันยังไงจะแซมเข้าไปยังไง กับอีกช่วงที่สนุกไม่แพ้กันคือเวลาเลือกวัสดุ คุมน้ำหนัก คุมโทนสีให้ไปด้วยกัน” น้ำเสียงกับแววตาของคุณเต๊าบอกเราอย่างนั้น