จุดเริ่มต้นจากคนสองคน ก้าวผ่านกาลเวลามากว่า 10 ปี จนในวันนี้ THINKK Studio เติบใหญ่และเพิ่มจำนวนเพื่อนร่วมทีมเขยิบเข้าใกล้หลัก 10 รวมถึงยังมีเพื่อนร่วมมือเฉพาะกิจอีกนับไม่ถ้วนที่เข้ามาช่วยสร้างสีสันและผลักดันวงการออกแบบของไทย เช่นในวันนี้ที่พวกเขายกทัพกันมาตั้งค่ายในฐานที่มั่นชั่วคราวใต้โกดังเก่าขนาด 1 คูหาในอาณาบริเวณที่เรียกกันว่า Warehouse 30 พร้อมติดสติ๊กเกอร์เรียงตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวใหญ่สีขาว ลงบนบานกระจกลายตารางหน้าประตูทางเข้าโกดังหลังแรกเป็นคำว่า Thinkk พ่วงด้วย Together ต่อท้าย
THINKK Together คือนิทรรศการส่วนหนึ่งใน เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2561 หรือ Bangkok Design Week 2018 ที่พอจะบ่งบอกได้ถึงการก้าวมาสู่อีกขั้นของพลอยพรรณ ธีรชัย และเดชา อรรจนานันท์ ในฐานะนักออกแบบแถวหน้าของไทยที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศรวมถึงในระดับนานาชาติ ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่และค้นหาโอกาสใหม่ๆ ด้วยการชักชวนนักออกแบบต่างสาขา ช่างฝีมือ ชุมชน วิศวกร ผู้ประกอบการ โรงงานต่างๆ มาร่วมค้นคว้า ทดลอง เพื่อขยายขอบเขตความถนัดเดิมๆ ของแต่ละภาคส่วนให้กว้างออกไป
“เรารู้สึกว่าพอทำงานมาสักพัก มันจะเริ่มมีขีดจำกัดที่เราเองก้าวไปไม่ถึง หรือว่าไม่เคยได้ทำมาก่อน ดังนั้นถ้าหากมีคนอื่นเข้ามา Collaborate (ร่วมมือกัน) หรือว่าเราเข้าไปช่วยผลักดันให้เขาก้าวไปสู่อีกรูปแบบ และเขาเองก็ทำให้เราได้เรียนรู้บางอย่าง มันน่าจะช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกันได้” เดชาบอกกับเราถึงจุดเริ่มต้นของความร่วมมือกับเหล่าผู้สมรู้ร่วมคิด (Collaborator) ทั้งหมดในนิทรรศการ THINKK Together เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดของกันและกัน อันเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงและถูกนำมาจัดแสดงอยู่ในโกดังแห่งนี้
จากหลายปีหลังมานี้ทั้งสองคนพาแบรนด์ THINKK ข้ามทะเลไปจัดแสดงผลงานในแฟร์ขึ้นชื่อของฝั่งยุโรปมาโดยตลอด ทว่าในปีนี้เดชา หนึ่งในหัวเรือใหญ่ตั้ง status ลงใน facebook account ส่วนตัวเป็นอักษรที่อ่านออกเสียงดังฟังชัดได้ว่า “ปีนี้ THINKK ไม่ไปมิลานนะครับ เพราะทุ่มพลังทั้งหมดไปในงานนี้แล้ว”
ขึ้นชื่อว่า Milan Design Week อย่างไรเสียก็ยังคงน่าดึงดูดใจ แต่การที่ THINKK Studio เลือกหยุดเพื่อทุ่มเทและปล่อยของให้สุดใน Bangkok Design Week ครั้งแรกของพวกเขาก็พอจะบอกได้อีกเช่นกันว่า THINKK Together ต้องเป็นนิทรรศการที่ THINKK เล่นใหญ่มากแน่ๆ ซึ่งตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็มที่เราจดจ่ออยู่กับหลากหลายชิ้นงานน่าสนใจ และร่วมพูดคุยกับเดชาถึงที่มาของนิทรรศการนี้ก็พอจะสัมผัสและเข้าใจได้ว่า status ที่เดชากล่าวไว้นั้นไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด
Retrace & Recreate:
THINKK Studio x CORNER 43
“R” เก้าอี้แขนโค้งที่เราคุ้นตา ถูกนำมาพัฒนาต่อโดย THINKK Studio ให้เป็นเก้าอี้รับประทานอาหาร ที่นั่งสบายขึ้น เก็บซ้อนกันได้ และสามารถเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป ตัวโครงสร้างอลูมิเนียมเอื้อสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง และทำสีได้หลากหลาย บางส่วนพันด้วยเชือกที่ออกแบบให้ไม่โดนโครงสร้างเวลานั่ง โดยยังคงเก็บระยะการนั่ง ขนาดที่วางแขน และพนักพิงไว้ให้ใกล้เคียงเก้าอี้ตัวดั้งเดิมมากที่สุด
เก้าอี้แขนโค้ง “R” เป็นส่วนหนึ่งในงานที่จัดแสดงในนิทรรศการ Anonymous Chair Exhibition ในงาน Chiang Mai Design Week 2017 ซึ่งจะออกสู่ตลาดเป็น Collection เต็มภายใต้แบรนด์ Corner 43 Décor ต่อไปในเร็วๆ นี้
Bake & Blend:
THINKK Studio x BSG GLASS
จากเศษกระจกเหลือใช้จากโรงงานของบริษัท ไทยเทคโนกลาส จำกัด หรือ BSG GLASS ผู้ออกแบบและแปรรูปกระจกสำหรับตกแต่งภายในและภายนอกอาคาร THINKK Studio ได้นำมาพัฒนาต่อยอดร่วมกับ FOAM GLASS ซึ่งเป็นวัสดุที่ทางโรงงานกำลังพัฒนาอยู่แล้ว โดยเป็นวัสดุที่เกิดจากกระบวนการอบผงกระจกให้เป็นวัสดุที่มีรูพรุน ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับและกระจายกลิ่นหอมได้ดี จนได้เป็นวัสดุใหม่สำหรับการนำไปตกแต่ง หรือใช้งานในรูปแบบเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งได้
Mold & Blow:
THINKK Studio x ETNA GLASS
การเป่าแก้วเป็นทักษะที่ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์สูง อีกทั้งยังมีการใช้โมลเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรูปทรงและพื้นผิว THINKK Studio จึงร่วมมือกับ ETNA GLASS พยายามหาความเป็นไปได้ต่างๆ ในกระบวนการขึ้นรูปทรงแก้วโดยการใช้โมลเหล็กด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งการเป่าแก้วแล้วถอดโมลออก หรือการเป่าให้แก้วและเหล็กเข้ามาอยู่ร่วมกัน โดยมีการวางแผนให้เกิดเป็นโคมไฟในรูปแบบต่างๆ