เป็นที่น่าจับตามองเมื่อเรื่องของ สุขภาพ เป็นหนึ่งในเทรนด์ของที่อยู่อาศัยในอนาคต ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่ปี 2020 ที่กำลังจะมาถึงนี้เท่านั้น แต่ในอีก 10 ปี หรือ 20 ข้างหน้า ความสุขที่เกิดขึ้นพร้อมกับสุขภาพที่แข็งแรงท่ามกลางธรรมชาติอันสมบูรณ์ จะยังเป็นเป้าหมายสำคัญของการสร้างที่อยู่อาศัย และโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสิ่งเหล่านั้น
‘สุขภาพดีที่เกิดจากความสุขที่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและอยู่กับคนที่เรารัก’ อาจจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวเกินเอื้อม เมื่อ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยบนที่ดิน 398 ไร่ โดยบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC จะถูกสร้างเป็นเป็นโครงการที่เป็นต้นแบบแห่งใหม่ของโลกที่ออกแบบทุกมิติเพื่อการใช้ชีวิตที่มาพร้อมกับสุขภาพที่ดี โดยมีองค์ประกอบสำคัญคือ ป่าขนาดใหญ่ พื้นที่ 30 ไร่ เป็นครั้งแรกที่โครงการอสังหาริมทรัพย์จะมีพื้นป่าขนาดใหญ่ที่เริ่มปลูกต้นไม้ด้วยเมล็ดและต้นกล้าใจกลางโครงการ ไม่เบียดเบียนธรรมชาติ แต่ยังสร้างความสมบูรณ์ในระบบนิเวศน์ไปพร้อมๆ กัน
คุณกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้เล่าขยายความให้เราฟังถึงหัวใจสำคัญที่ทำให้ MQDC ให้ความสำคัญกับเรื่องป่าธรรมชาติจนโครงการนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘โครงการเมืองแห่งความมหัศจรรย์ในผืนป่า’
“โครงการนี้เป็นการพัฒนาผืนป่าขนาดใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยงบประมาณมากกว่า 1,000 ล้านบาท หัวใจสำคัญของเดอะ ฟอเรสเทียส์ ประกอบด้วยพื้นที่ ‘ป่าลึก’ ที่มีความอุดมสมบูรณ์จริงๆ แต่ยังมีพื้นที่บางส่วนที่สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายด้วยการเดินเท้า และมีพื้นที่สีเขียวเปิดโล่งให้ผู้คนสามารถเข้าไปใช้ชีวิต เป็นส่วนหนึ่งท่ามกลางความมหัศจรรย์ของธรรมชาติได้”
“นอกจากธรรมชาติบนผืนป่าที่สมบูรณ์แล้ว ความใกล้ชิดกันระหว่างสมาชิกในครอบครัวและคนที่เรารัก ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของ ‘ความสุขและสุขภาพที่ดี’ การสร้างพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติเป็นสิ่งที่เดอะ ฟอเรสเทียส์ ให้ความสำคัญ ทางเท้าทั่วโครงการออกแบบให้เกิดความสะดวกสบายปกคลุมด้วยแนวกั้นและร่มเงาของต้นไม้เพื่อรับความสดชื่นจากป่าธรรมชาติ และส่งเสริมสุขภาพที่แข็งแรงด้วยพื้นที่ออกกำลังกาย”
“ในขณะเดียวกันที่นี่ยังเป็นโครงการที่แสดงความเป็นมิตรต่อโลกใบนี้ โดยเราช่วยส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการได้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษ์โลกอย่างยั่งยืน ตัวอย่างเช่น ระบบพลังงานที่ล้ำสมัยที่จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยและผู้มาทำกิจกรรมต่างๆ ในโครงการสามารถช่วยกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นปริมาณมหาศาล รวมทั้งโครงการแล้วเราสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่ากับปริมาณต้นไม้ในพื้นที่ 30,000 ไร่เลยทีเดียว”
“ไม่เพียงเท่านั้น ผืนป่าแห่งนี้จะทำหน้าที่เป็น ‘ปอดสีเขียว’ ให้แก่ เดอะ ฟอเรสเทียส์ และชุมชนโดยรอบด้วย ทั้งยังมีระบบการป้องกันน้ำท่วมที่ประกอบด้วยพื้นที่กักเก็บน้ำทิ้งขนาดใหญ่ ไม่ปล่อยให้น้ำฝนไหลออกจากโครงการหรือระบายออกไปในชุมชนใกล้เคียง สามารถรองรับน้ำได้มากกว่า 10 ล้านลิตร และป้องกันไม่ให้โครงการเกิดน้ำท่วมแม้ต้องเผชิญกับพายุฝนครั้งใหญ่ก็ตาม”
“หนึ่งในนวัตกรรมที่สำคัญสูงสุดของ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คือวิธีการที่เรานำพาสมาชิกในครอบครัวจากหลากหลายเจเนอเรชั่นให้มาอยู่ใกล้ชิดกัน ด้วยการวางผังองค์ประกอบของพื้นที่ที่อยู่อาศัยโดยรอบโครงการอย่างพิถีพิถัน ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของคนแต่ละช่วงวัยโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นวัยเริ่มต้นทำงาน คู่สมรสใหม่ วัยสร้างครอบครัว หรือพ่อแม่สูงวัย ทำให้ทุกคนได้อยู่ใกล้ชิดกับลูก หลาน และพ่อแม่ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างมีอิสระและมีพื้นที่ส่วนตัว” คุณกิตติพันธุ์กล่าวทิ้งท้าย
เดอะ ฟอเรสเทียส์ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 398 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด กม. 7 ประกอบด้วยโครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม และพื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ กิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ ร้านค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงพื้นที่สำหรับกิจกรรมการเรียนรู้ที่สนุกและสร้างสรรค์ของครอบครัวใน Family Life Center พร้อมด้วย Town Center สำหรับจัดกิจกรรมชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ โรงละคร อีเว้นต์ฮอลล์ ตลาด ซึ่งทั้งโครงการจะถูกเชื่อมด้วยทางเดินยกระดับความยาวกว่า 1.6 กิโลเมตร และทางเดินที่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ต่างๆ ซึ่งบางส่วนเป็น Sky walk ทอดตัวอยู่เหนือผืนป่า เป็นเส้นทางเดินเท้าเพื่อให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แบบใกล้ชิดยิ่งขึ้น
มาเป็นส่วนหนึ่งในโครงการเมืองที่ใส่ใจกับความสุขและสุขภาพที่ของการใช้ชีวิตได้ที่ www.theforestias.com