พาเคาะประตูห้องพักคอนโดมิเนียม โครงการ The Bangkok Sathorn เพื่อสัมผัส “ความเนี้ยบ” ของ นายแพทย์เจตบดินทร์ ประคุณศึกษาพันธ์ หรือ คุณหมอเฟม แห่งศูนย์ความงาม Aura Bangkok Clinic ซึ่งได้รับการตกแต่งใหม่ในแนวคิด ‘function before form’
ภายในห้องพักขนาด 2 ห้องนอน กับพื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่ เน้นเส้นสายเรียบนิ่ง สบายตา แต่โดดเด่นด้วยรายละเอียดในการจัดองค์ประกอบของสเปซ ฟังก์ชัน สีสัน และวัสดุ ที่สะท้อนตัวตนของทั้งผู้อาศัยและสไตล์ที่ชัดเจนของผู้ออกแบบ
“ผมเริ่มจากดูโลเกชั่นที่อยู่ใกล้ออฟฟิศ อยู่ในเมือง มี facilities ครบ จึงเลือกที่ The Bangkok Sathorn เพราะว่าเดินทางสะดวก ติดรถไฟฟ้า ขับรถ 5 นาทีก็ถึงออฟฟิศแล้ว ความพิเศษของห้องนี้คือเป็นห้องที่เห็นทั้งพระอาทิตย์ขึ้นเเละพระอาทิตย์ตกดิน มีวิวที่สวยมากในช่วงเวลา 5-6 โมงเย็น พอผมเข้ามาเห็นก็ชอบเลย
“เดิมห้องนี้เป็นสีเรียบ ๆ แต่ผมชอบชอบโทนเทา-ขาว จึงรื้อเเล้วเปลี่ยนใหม่เป็นหินอ่อนจากอิตาลีทั้งหมด”
ความหรูที่(ต้อง)อยู่ได้จริง
ผู้รับหน้าที่ออกแบบและตกแต่งภายใน “บ้านบนตึกระฟ้า” ใจกลางสาทรแห่งนี้ คือ คุณกิฟ-วรากร เติมวัฒนาภักดี อินทีเรียร์ดีไซเนอร์จาก บริษัทแกรททิจูด ดีไซน์ จำกัด ที่เข้าใจตัวตนและความต้องการของคุณหมอเฟมเป็นอย่างดี ภายหลังจากเธอผ่านการทำงานออกแบบคลินิก Aura Bangkok Clinic มาแล้วก่อนหน้านี้
นอกจากความสำคัญด้านประโยชน์ใช้สอยที่มาพร้อมบรรยากาศหรูหรา ทันสมัย สะดวกสบาย เอื้อต่อการพักผ่อนในทุกวันของชีวิต ความใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบคือสิ่งที่คุณกิฟให้น้ำหนักไม่แพ้กัน
“เราพยายามออกแบบให้โทนรวม ๆ ออกแนวเทา ๆ เพราะเป็นห้องของผู้ชาย และเป็นที่อยู่อาศัยด้วย จึงเพิ่มความแมนด้วยการเล่นกับสีเทาเข้มกับหน้าบานตู้และผนังหิน เพื่อไม่ให้ดูสว่างเกินไป หรือมีสีเดียวกันหมด จึงใช้สีเป็นตัวแบ่งโซนของพื้นที่ ว่าตรงนี้เป็นโซนรับประทานอาหาร ครัว และมุมนั่งเล่นพักผ่อน เพราะเราอยากให้สเปซโล่งที่สุด” คุณกิฟ อธิบาย
ภาพตรงปก
“ภาพจริงที่เห็นเรียกว่าแทบจะเหมือนกันกับที่ Gratitude ออกแบบมาใน Perspective ตั้งแต่ปีสองปีที่แล้ว คือเราคุยกันเยอะมาก เรามีประสบการณ์ทำงานด้วยกันมาก่อนเเล้ว หลาย ๆ งานจึงรู้ว่าโทนสี หรือฟังก์ชันต่าง ๆ ควรจะออกมาประมาณไหน โดยเฉพาะการออกแบบที่เน้นว่าต้องใช้งานได้จริงและคุ้มค่า ยิ่งเป็นบ้านพักอาศัย เป็นสิ่งที่เราต้องใช้เวลามาก ฉะนั้นจึงต้องใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ เเละทุกฟังก์ชันต้องเหมาะกับการใช้งานจริง ๆ
“พอได้บ้านแบบนี้ กลับมาแล้วมันเหมือนได้พักจริง ๆ โซนนี้ (ห้องนั่งเล่น) เป็นโซนที่ผมใช้บ่อยที่สุด เป็นโซนที่มีไว้ใช้คุยงาน หรือบางทีลูกน้องมาประชุมก็มานั่งประชุมตรงนี้ได้ ผมชอบนั่งอ่านหนังสือมุมนี้ เพราะเป็นที่ที่ผ่อนคลาย ความตั้งใจของผมคือพยายามทำให้เหมือนเป็นรีสอร์ตเล็ก ๆ ของตัวเอง ซึ่งทีม Gratitude เขาสามารถออกแบบมาได้อย่างถูกใจ รู้สึกผ่อนคลาย แทนที่จะต้องเสียเงินไปเที่ยวบ่อย ๆ ก็เสียเงินก้อนใหญ่ทีเดียว แล้วได้ผ่อนคลายทุกวันดีกว่า”
ใส่ใจรายละเอียด ฟังก์ชัน และการเลือกใช้วัสดุในทุกตารางเมตร
หินต้องเกิดรอยต่อน้อยที่สุด กระจกทุกบานต้องติดฟิล์มกันร้อนชนิดที่ดีที่สุด ไฟทุกดวงเป็นแบบ indirect ไม่กวนสายตา ม่านทุกผืนสามารถสั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri เครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถสั่งงานผ่านแอพฯ ติดตั้งโทรทัศน์ที่มีความคมชัดสูงระดับ 8K แม้ปิดเครื่องก็ยังสามารถเปลี่ยนเป็นรูปภาพเพื่อตกแต่งบ้านได้ ผ้าบุโซฟาเป็นเเบบกันน้ำซึม พร้อมระบบกรองอากาศและระบายความร้อนซ่อนอยู่ข้างใต้ รวมถึงซ่อนความรกของสายไฟต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบ ที่สำคัญห้องนี้มีปลั๊กไฟเยอะมาก ไม่ต้องลากสายต่อปลั๊กพ่วงให้เกะกะ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเพียงบางส่วนของความเนี้ยบของคุณหมอเฟมเท่านั้น!
“ทุกอย่างในห้องนี้จะสั่งด้วยเสียงได้ สามารถตั้งโหมดได้ ห้องนอนเลือกโหมด relax กับ lazy โซนลิฟวิ่งมีโหมด movie ซึ่งก็จะได้แสงสลัว ๆ นิดหนึ่ง แสงจะได้ไม่สะท้อนตอนดูหนัง หรือถ้าโหมด chef ตอนทำอาหารก็จะสว่างทั้งหมด พัดลมดูดอากาศมีประสิทธิภาพสูง กลิ่นอาหารไม่รบกวนการอยู่อาศัย เรียกว่าทุกมุมเป็นมุมพักผ่อนได้หมดเลย ไม่ว่าจะนั่งหรือนอนแช่ในอ่างก็สามารถดูทีวีไปได้ด้วย หลังจากทำงานมาหนักมาก ๆ เวลาพักผ่อนก็อยากได้พักแบบจริง ๆ”
“ผมชอบห้องมืด ๆ ปิดม่านก็คือมองไม่เห็นข้างนอก ปิดไฟปุ๊บจะเหมือนกลางคืนทันที”
“เราเลือกหินอ่อนสีขาว ๆ คลีน ๆ ไม่ให้มีเส้นสาย หรือลวดลายมากจนเกินไป เพื่อให้ดีไซน์เป็นไทม์เลส อยู่ได้นาน”
– วรากร เติมวัฒนาภักดี | Gratitude Design –
เจ้าของ: นายแพทย์เจตบดินทร์ ประคุณศึกษาพันธ์
ออกแบบ: คุณวรากร เติมวัฒนาภักดี บริษัทแกรททิจูด ดีไซน์ จำกัด (Gratitude design)
ติดต่อ: https://www.facebook.com/gratitudedesign/
เรื่อง: ND24
ภาพ: ศุภกร
สไตล์: พนิดา