เมื่อถึงคราวต้องปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัย จากบ้านที่เป็นอาคารพาณิชย์ในตัวเมืองเชียงใหม่ สู่การสร้างบ้านหลังใหม่ ซึ่งเป็นอีกบทหนึ่งของชีวิต แน่นอนว่าต้องเป็นบ้านที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการพักผ่อนและทำกิจกรรมต่าง ๆ เหนืออื่นใดคือต้องเติมเต็มความสุขให้สมาชิกทุกคน แม้จะต่างวัยกันแค่ไหน แต่ก็อยู่ร่วมกันได้อย่างอบอุ่น
จากทำเลที่มองเห็นวิวดอยคำ ดอยสุเทพ และใกล้กับอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ในจังหวัดเชียงใหม่ ครอบครัวขยายของสองทันตแพทย์ ทพ. วัลลภ ธีรเวชกุล และ ทพญ. สรินภรณ์ ธีรเวชกุล ได้ไว้วางใจให้ทีมสถาปนิกจาก STUDIO SATi มารับหน้าที่ออกแบบบ้านให้สอดคล้องกับบริบท และความต้องการของสมาชิก 3 เจเนอเรชั่นที่ย้ายเข้ามาอยู่พร้อมหน้ากันถึง 7 คน โดยมีคุณยาย 2 ท่าน คุณพ่อคุณแม่ ลูกชาย ลูกสาว และหลาน ความท้าทายจึงอยู่ที่การออกแบบให้ทุกคนสามารถมีปฏิสัมพันธ์กัน ไปพร้อม ๆ กับมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมส่วนตัว รวมถึงเป็นพื้นที่ที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ ในบ้านด้วย
เนื่องจากตัวบ้านหันไปทางทิศใต้กึ่งตะวันตก ซึ่งเป็นทิศที่รับแดดบ่ายโดยตรง การออกแบบสถาปัตยกรรมจึงต้องคำนึงถึงปริมาณแสงและความร้อนเป็นพิเศษ สถาปนิกออกแบบผนังด้านหน้าบ้านเป็นลักษณะแนวผนังทึบก่ออิฐมอญบิดมุมให้เกิดองศาที่พอเหมาะเพื่อช่วยบังสายตาและกันแสงแดด โดยมีช่องเปิดให้ลมพัดผ่านและมองเห็นวิวได้
“เราออกแบบให้ตัวโถงบันไดและสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าบ้าน ให้เป็นส่วนรับแดดช่วงบ่าย การใช้น้ำมาเป็นองค์ประกอบจะช่วยให้บ้านไม่ร้อนมาก และมีโถงบันไดด้านหน้าซึ่งเป็นจุดรับความร้อนได้ดี ออกแบบให้มีผนังอิฐเฉียงเพื่อบังแดดและบิดมุม มีหน้าต่างเพื่อระบายอากาศและมีมิติของแสงแต่ละช่วงวัน มีพื้นชานพักกระจก มองเห็นสระว่ายน้ำหรือเวลาแสงตกกระทบน้ำ จะเห็นระยับแดด ลายคลื่นน้ำที่กระทบผนัง สร้างมิติแสงที่เชื่อมโยงภายนอกและภายในบ้านเป็นหนึ่งเดียวกัน (Inside out – Outside in) สร้างความรู้สึกแตกต่างออกไปตามช่วงวัน และแสงแดดในแต่ละฤดูกาล” คุณสุรัชฎา ลือเจียงคำ สถาปนิกโครงการบอกเล่าเพิ่มเติมในส่วนการวางผังพื้น สถาปนิกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายตัวเอช (H) โดยมีแนวคิดว่าอาคารซ้ายและอาคารขวาเปรียบเสมือนพ่อแม่ ส่วนกลางเปรียบเสมือนลูกที่เชื่อมพื้นที่เข้าด้วยกัน การยื่นอาคารออกเป็นตัวเอชดังกล่าวยิ่งช่วยเพิ่มพื้นผิวอาคารและเพิ่มช่องเปิด เพิ่มการระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เกิดสวนคอร์ตที่แทรกตัวเข้ากับพื้นที่โถงกลางบ้าน และยังต่อเนื่องไปถึงสระว่ายน้ำด้านหน้า สร้างความเชื่อมต่อระหว่างภายในและภายนอกได้แบบไร้รอยต่อ ชั้นล่างเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุ ส่วนชั้นบน ปีกอาคารด้านหนึ่งเป็นห้องนอนของคุณพ่อคุณแม่ เปิดรับวิวดอยคำ และดอยสุเทพ ส่วนอีกด้านเป็นห้องนอนของเด็ก ๆ “ในส่วนโครงสร้างเราดีไซน์โดยการเลี่ยงเสาให้ซ่อนในผนัง ลดการรบกวนมุมมองภายในบ้านและให้มุมบ้านเป็นกระจก ทำให้เห็นเป็นภาพพานอรามา”
แม้รูปลักษณ์ภายนอกของบ้านดูโมเดิร์น แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงกลมกลืนกับบริบทโดยรอบ ด้วยการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติในท้องถิ่นใช้ร่วมกับวัสดุสมัยใหม่อย่างกระจก ทั้งยังเชื่อมโยงความเป็นธรรมชาติเข้าไปสู่พื้นที่ภายใน ด้วยการเลือกใช้ไม้เป็นวัสดุตกแต่งหลัก ให้ความรู้สึกอบอุ่น และเป็นกันเองนอกจากนี้ยังมีห้องอเนกประสงค์ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญ สำหรับใช้จัดอบรมการเลี้ยงลูกแบบวอลดอร์ฟ ซึ่งเป็นการศึกษาโดยมีรากฐานมาจากมนุษยปรัชญาในการเรียนรู้และเข้าใจพฤติกรรมตามธรรมชาติของเด็ก ดังนั้นบ้านนี้จึงมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมและส่งเสริมการเรียนรู้ ให้เด็ก ๆ สามารถเชื่อมโยงกับธรรมชาติรอบตัวได้อย่างสมวัย รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกครอบครัวภายในบ้านผ่านมุมมองที่เปิดโล่ง
ดังจะเห็นได้จากการจัดให้มีโต๊ะขนาดใหญ่ตรงกลางบ้านที่ตั้งใจให้เป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัว เป็นที่ที่ทุกคนมองเห็นกันได้ โดยในบางวันคุณยายอาจนั่งอยู่ที่มุมหนึ่ง พ่อแม่นั่งทำงานอยู่กลางโต๊ะ ส่วนเด็ก ๆ สามารถนั่งทำการบ้านอยู่อีกมุมหนึ่งได้ เป็นการอยู่ร่วมกันแต่ไม่รบกวนกันในบรรยากาศที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าดูอบอุ่น นอกจากจะใส่ใจในพฤติกรรมของเด็ก ๆ ในบ้านแล้ว ผู้อาวุโสในบ้านก็เป็นตัวแปรสำคัญกับการออกแบบบ้านเช่นกัน
“เรื่องจิตใจของผู้สูงอายุและเด็กถือเป็นเรื่องสำคัญ การออกแบบคำนึงถึงทุกคน ให้มีสเปซเป็นของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ยังมีการทักทายกัน ทำกิจกรรมร่วมกันได้”
ในยุคที่คนส่วนใหญ่ต่างคนต่างอยู่ และอยู่อาศัยแบบครอบครัวเดี่ยวกันมากขึ้น ภาพครอบครัวใหญ่ที่รวมคนหลาย ๆ เจเนอเรชั่นไว้ด้วยกัน อาจเป็นภาพที่ดูวุ่นวายในสายตาของคนทั่วไป แต่จะเป็นอย่างไรหากเรา ลูก ๆ และผู้อาวุโส สามารถอยู่อาศัยร่วมกันได้อย่างลงตัว การจัดการสเปซที่ดีจึงน่าจะเป็นคำตอบของโจทย์ข้อนี้ เพื่อให้ทุกคนยังคงมีปฏิสัมพันธ์กันได้อย่างอบอุ่น ภายในบ้านที่มีพื้นที่รองรับกิจกรรมตามความชอบของแต่ละคน แบบไม่ต้องรู้สึกอึดอัด หรือละทิ้งตัวตน
เจ้าของ: ทพ. วัลลภ ธีรเวชกุล และ ทพญ. สรินภรณ์ ธีรเวชกุล
ออกแบบสถาปัตยกรรมและออกแบบภายใน: Studio Sati Co.,Ltd.
1 ถนนสามล้าน ซอย 6 ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
อีเมล: [email protected]
โทร. 09-6646-2424
ภาพ : Studio Sati Co.,Ltd.
เรื่อง : ภัทรภร