‘ดิ แอสเพน ทรี’ โดย MQDC ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มคนวัย 50+

‘ดิ แอสเพน ทรี’ โดย MQDC ตอบโจทย์กระแสความต้องการของกลุ่มคนวัย 50+ ที่เติบโตรวดเร็ว

ผู้คนอายุยืนขึ้นทำให้ความต้องการที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์ คนวัย 50+ เพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่มาพร้อมการดูแลและการบริการที่ส่งเสริมให้คนวัยนี้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีสุขภาพดี มีอิสระพึ่งพาตัวเองได้ และปราศจากความกังวล

MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย มุ่งพัฒนาโครงการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการใหม่ในเรื่องที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่กำลังขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคนกลุ่มนี้กำลังมองหาที่พักอาศัยที่เข้าใจความต้องการซึ่งมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวของคนในช่วงวัยนี้

‘ดิ แอสเพน ทรี’ ซึ่งมีทั้งหมด 290 ยูนิต เป็นโครงการที่พักอาศัยโครงการแรกของ MQDC ที่มุ่งจับตลาดนี้ โดยโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ 398 ไร่ของเดอะ ฟอเรสเทียส์ โครงการเมืองที่ออกแบบเพื่อส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีขึ้น และมีความสุขมากขึ้น ซึ่งอยู่ในระหว่างก่อสร้างบริเวณกิโลเมตรที่ 7 ถนนบางนา-ตราด 

นางสาว เฮ จูน พาร์ค ประธานผู้อำนวยการโครงการ ดิ แอสเพน ทรี ที่เดอะ ฟอเรสเทียส์ เปิดเผยว่า “คนทุกวันนี้คาดหวังที่จะมีชีวิตหลังเกษียณแบบสบายๆ มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกไม่ต่ำกว่า 25 ปี และมีสุขภาพแข็งแรงแม้จะอายุเข้า 80-90 ปีแล้วก็ตาม เราได้เล็งเห็นศักยภาพที่สูงมากในตลาดโครงการที่พักอาศัยเซ็กเมนต์ใหม่นี้

ที่เปิดโอกาสให้คนวัยนี้ที่ยังแข็งแรงอยู่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ต่างไปจากเดิม เพียงแต่ให้มีการบริการที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดและมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งมีกิจกรรมที่จะมาเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์ทั้งทางกายและทางใจ”   

นางสาว เฮ จูน พาร์ค กล่าวต่อไปว่า “ผู้สูงวัยมักจะอาศัยอยู่กับลูกหลานอันเป็นที่รัก แต่เนื่องจากเป็นคนต่างรุ่น ต่างวัยกัน ทำให้มีความต้องการทางด้านไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนกัน แบบของบ้านหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีอยู่ในบ้าน อาจจะไม่สมบูรณ์พร้อมสำหรับการใช้ชีวิตของผู้สูงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการดูแลรักษาสุขภาพ

แต่ที่พักอาศัยโครงการ ดิ แอสเพน ทรี ได้การออกแบบให้เป็นอาคารที่พักอาศัยแบบคอนโดมิเนียมและสกายวิลล่าระดับเฟิร์สคลาส มีจุดเด่นพิเศษทางด้านดีไซน์ที่ให้ความปลอดภัย และเอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในวัยนี้มากกว่า

อีกทั้งยังมีบริการที่ส่งเสริมการใช้ชีวิตในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านการดูแลรักษาสุขภาพของวัยที่ต้องการการเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ หรือความต้องการอื่นๆ ในบริเวณบ้าน หรือไปจนถึงบริการนอกบ้าน อย่างเช่น อำนวยความสะดวกการเดินไปที่ทาวน์เซ็นเตอร์ของเดอะ ฟอเรสเทียส์ หรือเดินเล่นในป่าเนื้อที่ 30 ไร่ เป็นต้น” 

ภายใต้แนวคิดการดูแลตลอดชีวิต (Life-time Care) ของดิ แอสเพน ทรี เพียงจ่ายเงินซื้อบ้านครั้งเดียว คือนอกจากจะได้ที่พักอาศัยแล้ว เจ้าของบ้านยังจะได้รับประกันสุขภาพ  ซึ่งครอบคลุมความจำเป็นด้านการรักษาพยาบาลไปจนถึงอายุ 99 ปี รวมทั้งได้รับการดูแลการใช้ชีวิตแบบตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

บริการแม่บ้านทุกสัปดาห์ อาหารเช้า บริการอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลด้านโภชนาการเป็นพิเศษ หรือสิทธิในการใช้บริการห้องรับประทานอาหารส่วนกลาง และคลับเฮาส์ที่มีโปรแกรมฟิตเนสพิเศษ ในการบริหารร่างกายและจิตใจอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงกิจกรรมทางสังคม อย่างกลุ่มเรียนศิลปะ และงานฝีมือ เป็นต้น 

นอกจากนั้น ดิ แอสเพน ทรี ยังมีศูนย์สุขภาพและสมอง (Health & Brain Center) ที่มีบริการทางการแพทย์พิเศษเฉพาะ เพื่อให้บริการหากผู้พักอาศัยของโครงการต้องการ

นางสาว เฮ จูน พาร์ค กล่าวว่า การที่โครงการมอบบริการและสิ่งต่างๆ อย่างครบวงจรเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของผู้พักอาศัย อันเกิดจากจากความไม่แน่นอนต่างๆ ในชีวิตให้น้อยลง

“แนวคิดการดูแลตลอดชีวิตหรือ Life-time Care ของดิ แอสเพน ทรี  ช่วยขจัดความวิตกกังวลหลายอย่างที่เป็นปัญหาใหญ่ของวัย 50 ขึ้นไป และด้วยบริการที่หลากหลายในโครงการ ทำให้ผู้อยู่อาศัยในวัยนี้สามารถที่จะอยู่อย่างมีความสุข มีความสบายใจไปกับไลฟ์สไตล์ของตนเองได้ แม้ในขณะที่อายุของตนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยญาติพี่น้องหรือเพื่อนพ้องในการดำเนินชีวิตประจำวัน

นอกจากนั้นยังช่วยลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเงิน เนื่องจากไม่มีภาระค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายเมื่อเข้าพักอาศัยในโครงการ ซึ่งโดยทั่วไปค่าส่วนกลาง อาจจะมีการเรียกเก็บเพิ่มขึ้นแบบคาดเดาไม่ได้ในอนาคต และในขณะเดียวกันผู้อาศัยก็จะหมดกังวลเรื่องการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพอีกทั้งค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รวมเอาไว้ในราคาที่ซื้อกับโครงการแล้ว” นางสาว เฮ จูน พาร์ค กล่าว 

นายวิทยา สินทราพรรณทร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโครงการ ของ MQDC ได้แสดงความมั่นใจในกระแสตอบรับที่มีต่อแนวคิดการดูแลตลอดชีวิต ทั้งจากกลุ่มลูกค้าคนไทยและลูกค้าต่างชาติ โดยระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากรสูงวัย

“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีจำนวนประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในโลก โดยจากการศึกษาพบว่าในปี พ.ศ.2528 มีประชากรไทยที่มีอายุมากกว่า 60 ปี มีเพียงประมาณ 6% ของประชากรทั้งหมด แต่ปัจจุบัน สัดส่วนประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าตัว คือมีผู้สูงวัยอยู่ที่ 20% ของประชากรทั้งหมด 

“คนสูงวัยที่เพิ่มขึ้นนี้ มีสุขภาพดีกว่าเมื่อก่อน เพราะฉะนั้น เราจะมีคนจำนวนมากขึ้นที่แสวงหาการใช้ชีวิตแบบสบายๆ มีความสุขในช่วงวัย 60 ปีขึ้นไป โดยไม่ต้องการพึ่งพาใคร สามารถใช้ชีวิตอิสระ ได้ทำในสิ่งที่ชอบ ใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวเอง ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมการใช้ชีวิตอิสระโดยไร้ความกังวล แบบที่ดิ แอสเพน ทรี มอบให้ จึงมีความสำคัญเป็นพิเศษต่อคนรุ่นนี้” นายวิทยากล่าว

“แนวโน้มดังกล่าวนี้หมายความว่าจะมีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่มองหาที่อยู่อาศัยซึ่งมีบริการที่ช่วยให้ตนเองสามารถที่จะใช้ชีวิตอย่างอิสระไร้ความกังวัลได้ในช่วงวัยที่สวยงาม โดยไม่ต้องพึ่งพาให้ลูกหลานต้องกังวลคอยช่วยเหลือดูแลปรนนิบัติทุกอย่าง 

นายวิทยาเปิดเผยว่า MQDC เปิดโอกาสให้สำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่จะได้เข้ามาสัมผัสกับความยอดเยี่ยมของโครงการแนวคิดใหม่ดังกล่าวนี้ โดยตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป MQDC นำเสนอแพ็คเกจทดลองอยู่ ในโครงการ ดิ แอสเพน ทรี แบบแพ็คเกจระยะเวลา 1 ปีและระยะเวลา 5 ปี โดยขอเชิญชวนผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร 1265 หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ theaspentree.com

แพ็คเกจทดลองอยู่แบบระยะเวลา 1 ปี มีให้เลือกสำหรับห้องพักขนาด 1 ห้องนอนหรือ 2 ห้องนอน โดยพื้นที่ใช้สอยมีขนาดตั้งแต่ 80 กว่าตารางเมตร ไปจนถึง 123 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการใช้ชีวิตและการทำกิจกรรมร่วมกันมากมาย

ทุกยูนิตตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ครบเพื่อให้ลูกค้าที่ประสงค์จะไปทดลองใช้ชีวิตในสไตล์ ดิ แอสเพน ทรี ได้พิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์ด้วยตนเองถึงระดับของความสะดวกสบายและบริการ ส่วนแพ็คเกจทดลองอยู่แบบระยะเวลา 5 ปี มีให้เลือกสำหรับห้องพักขนาด 1 ห้องนอนหรือ 2 ห้องนอนเช่นเดียวกัน แต่มีบริการเพิ่มเรื่องประกันสุขภาพตลอดระยะเวลาที่พักอาศัยด้วย

นอกจากนั้น MQDC มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองซื้อยูนิตขนาด 2 ห้องนอน ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2566 จะได้รับเครดิตสำหรับซื้อบัตรโดยสารการบินไทยมูลค่า 350,000 บาท พร้อมกับเป็นสมาชิกสะสมไมล์ รอยัล ออร์คิด พลัส ของการบินไทย ระดับโกลด์ 2 ปี

เท่านั้นยังไม่พอ ดิ แอสเพน ทรียังมอบความสะดวกสำหรับลูกค้าชาวต่างชาติ จะได้รับบัตรสมาชิกไทยแลนด์ อีลิท การ์ด มูลค่า 1 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขอวีซ่า เพื่อการพำนักในประเทศไทยในระยะยาว นอกจากนั้น ดิ แอสเพน ทรี ยังช่วยให้ลูกค้าต่างชาติสามารถปรับตัวในที่อยู่อาศัยใหม่ในประเทศไทยของตนได้ง่ายขึ้น ด้วยการมอบสิทธิพิเศษเวาเชอร์เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ มูลค่า 1 ล้านบาท

สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยอื่นๆ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชุมชนที่เอื้อและเปิดโอกาสให้คนต่างวัย ต่างไลฟ์สไตล์ ได้อยู่อาศัยร่วมกันแบบใกล้ชิดธรรมชาติในอาณาบริเวณใกล้กัน เชื่อมถึงกัน ประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียมมัลเบอร์รี่ โกรฟ บ้านสไตล์คลัสเตอร์โฮม มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่าที่ออกแบบเพื่อครอบครัวขยายหลายเจนเนอเรชั่นคอนโดมิเนียมวิสซ์ดอม และซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ ซึ่งประกอบด้วยวิลล่าสุดหรูภายใต้การบริหารของแบรนด์ซิกส์เซนส์