จากความชื่นชอบของ คุณแอน–ชลิตา ตฤณขจี ที่หลงใหลในการทำสปาอยู่แล้วเป็นทุนเดิม สู่เจ้าของธุรกิจสปาในนาม White Wood Green Spa & Wellness ที่เพียงแค่ฟังชื่อก็รับรู้ได้ถึงความเป็นธรรมชาติ สบายกายสบายใจ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจที่คุณแอนหยิบมาเป็นหัวใจหลักของสถานที่แห่งนี้
“ส่วนตัวเป็นคนชอบนวดอยู่แล้วค่ะ ชอบไปสปา เพราะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย แต่ว่าพอไปมาหลาย ๆ ที่ ก็รู้สึกว่ามันอาจจะยังไม่ใช่สไตล์ที่เรามองหา เพราะส่วนมากจะอยู่ในตึกซึ่งก็มักจะมีข้อจำกัดเรื่องทัศนียภาพ ที่ทำให้ความผ่อนคลายอาจจะยังไม่เต็มที่ ก็เลยมีความฝันว่า อยากจะเปิดสปาที่ให้ความรู้สึกโฮมมี่มากขึ้น ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น”
“พื้นที่สวนก่อนเข้าร้านให้ความรู้สึกเหมือนไปเที่ยวรีสอร์ทจริง ๆ และช่วงปลายปีที่อากาศเย็นขึ้น เราจะมีจัด Workshop เช่น จัดดอกไม้ ทําเทียนหอม อะไรต่าง ๆ ที่ทําให้เราเหมือนได้ทํากิจกรรมที่เราไม่ค่อยทําในชีวิตประจําวัน ก็จะใช้ลานไม้ตรงนี้ ทุกคนก็จะชอบเพราะว่ามันจะมีต้นหูกระจงอยู่ตรงกลาง มันจะร่มมากเลย จะไม่ค่อยมีแดดเข้ามา อากาศดี ก็จะได้เห็นคนปั่นจักรยานมาทํากิจกรรมที่มันผ่อนคลาย”
พื้นที่เติมพลังในรูปแบบของสปา
สปาแห่งนี้มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Nature and Nurture ที่เชื่อว่าการพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ชวนให้นึกถึงสมัยที่ยังเป็นพนักงานออฟฟิศ ที่ใช้เวลาพักผ่อนช่วงวันหยุดไปกับการเดินทางไปต่างจังหวัดแค่เพียงไม่กี่วัน แต่กลับเหมือนได้ชาร์ตพลังเต็มหลอด จึงอยากยกความผ่อนคลายเหล่านี้เข้ามาอยู่ในเมืองกรุง ให้สามารถไปได้บ่อย ๆ จึงเป็นที่มาของสปาสุดสดชื่นท่ามกลางป่าคอนกรีตไว้หลีกหนีความวุ่นวาย ที่ปัจจุบันเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 4 ปี
ดึงองค์ประกอบของธรรมชาติสู่สปาสไตล์โฮมมี่
“บรีฟแรกที่เราให้ทางผู้ออกแบบคือบ้านสวนเลยค่ะ เหมือนบ้านพักตากอากาศ ที่อยากให้คนที่มารู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ เหมือนเวลาเราไปพักผ่อนรีสอร์ทที่ต่างจังหวัด”
เมื่อคุณแอนกำหนดมู้ดแอนด์โทนของร้านที่อยากได้ ผู้ออกแบบจึงตีความออกมาเป็นร้านที่มีความขาวสะอาด ที่น่าจะเป็นผนังที่ฉาบด้วยปูนซีเมนต์สีขาวที่สะท้อนถึงความบริสุทธิ์ บนพื้นผิวธรรมชาติ และตกแต่งด้วยไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้านไม้ของบ้านพักตากอากาศ เมื่อมองแล้วเห็นความสดชื่นของสีเขียวอยู่รายรอบ เป็นที่มาของ 3 คำในชื่อร้าน White Wood Green ซึ่งสามสีนี้ถูกนำไปใช้เป็นโทนสีหลักในการตกแต่งในทุก ๆ องค์ประกอบของร้าน
“แอนเป็นคนที่สนใจการตกแต่งบ้านอยู่แล้ว ชอบไปเดินร้านขายของตกแต่งบ้าน พอเราทําร้านเราก็พอนึกออกว่าอะไรที่มันจะเข้ากับที่นี่ เราก็ซื้อมาตกแต่ง คืออยากให้คนที่เข้ามาเขารู้สึกว่ามันเป็นเหมือนบ้านจริง ๆ เพราะว่าแอนก็ดูแลที่นี่เหมือนเป็นบ้านจริง ๆ
ไม่ว่าจะเทียนหอม เฟอร์นิเจอร์ ชุดยูนิฟอร์ม หรือกลิ่น คือแอนทําเองหมดเลย เพราะรู้สึกว่ามันช่วยซัพพอร์ตให้ลูกค้าเข้าใจถึงคอนเซ็ปต์ของร้านมากขึ้น แล้วก็สร้างความแตกต่างด้วย”
ขาวเรียบ แต่เต็มไปด้วยรายละเอียด
จากความสนใจด้านการตกแต่งบ้านของคุณแอน ขั้นตอนการออกแบบ-ตกแต่งร้าน คุณแอนจึงเข้าไปมีส่วนร่วมกับทีมออกแบบทั้งสถาปนิกและอินทีเรียตั้งแต่แรกเริ่ม ทั้งการเลือกวัสดุที่สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ร้านที่ภาพรวมอาจจะดูเรียบร้อย มินิมัล ทว่าเต็มไปด้วยดีเทล อย่างผนังแต่ละผืนที่จะมีเน้นให้มีเท็กซ์เจอร์แตกต่างกัน
“คือแอนไม่อยากให้เขาเข้ามาแล้วรู้สึกว่าเป็นห้องเปล่าที่แค่เข้ามานอนนวด ซึ่งถึงแม้ทุกอย่างจะเป็นสีขาวเรียบ ๆ แต่ว่ามันควรที่จะมีดีเทลอะไรที่มันช่วยทําให้บรรยากาศดีขึ้นด้วย
การตกแต่งแต่ละห้องเลยจะไม่เหมือนกัน เพื่อสร้างความรู้สึกที่ต่างกันด้วย ซึ่งหากดูเผิน ๆ อาจเหมือนสีขาวเหมือนกันหมด แต่ส่วนผสมจะไม่เหมือนกัน”
วัสดุที่เลือกใช้ฉาบตกแต่งผนังของร้านภายนอกจะเป็น เสือ เดคอร์ ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป Texture Render (ฉาบสีเท็กซ์เจอร์) และผนังภายในเลือกใช้ เสือ เดคอร์ Color Skim Coat (ฉาบสีผิวเรียบ) สี WH01 โดยใส่ดีเทลความหยาบ-ละเอียดให้ต่างกันด้วยเทคนิคการฉาบ และส่วนผสมที่มีหลายขนาด
ทุกดีเทลคือความใส่ใจ
ด้วยระยะเวลาในการก่อสร้างร่วมปี ทำให้คุณแอนมีเวลาในการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุด และช่วยนำเสนอตัวตนของแบรนด์ได้ชัดที่สุด จนสะท้อนผ่านองค์ประกอบต่าง ๆ ในทุกอณู
“เราพยายามเลือกอะไรที่เป็นธรรมชาติ ทั้งการตกแต่งร้านให้มีพื้นผิวที่ดูเป็นธรรมชาติด้วยการฉาบปูนซีเมนต์สีขาว และถ้าสังเกตชุดยูนิฟอร์มของที่นี่เราจะใช้ผ้าลินิน ผ้าใยคอตตอนเป็นหลัก เป็นผ้าธรรมชาติที่เวลาพี่ ๆ สตาฟใส่เขาก็จะสบายตัว แล้วเวลาลูกค้าเห็นก็สบายตาด้วย“
ความพิเศษที่ไม่เหมือนสปาที่ไหน
สำหรับสปานี้ มีโปรแกรมให้เลือกมากกว่า 17 โปรแกรม ไปจนถึงแพ็คเกจแบบครึ่งวัน เต็มวัน ซึ่งทุกโปรแกรมนวดด้วยน้ำมันออแกนิกจากน้ำมันเมล็ดองุ่นที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ หมดกังวลสำหรับคนแพ้ง่าย ช่วยให้ผิวนุ่มลื่นขึ้น ทั้งยังมีกลิ่นเฉพาะที่ทางร้านผสมขึ้นมาใหม่โดยจะใช้ส่วนผสมมากกว่า 3 กลิ่นขึ้นไป ต่างจากที่อื่น ๆ ที่มีพื้นฐานเป็นกลิ่นตะไคร้หรือลาเวนเดอร์
กล่าวคือจะมีสารสกัด 5-6 สารสกัดต่อ 1 ขวด ทำให้แต่ละกลิ่นมีความซับซ้อนและมีมิติน่าค้นหา ส่งผลให้ตลอดการนวด คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับกลิ่นที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามระยะเวลา คล้ายกับเวลาฉีดน้ำหอม เปิดรับประสบการณ์ในรูปแบบที่แตกต่าง อีกทั้งเพิ่มความสนุกด้วยการออกกลิ่นใหม่ในแต่ละซีซั่น เช่น พอเข้าหน้าร้อนจะเป็นกลิ่น Summer ที่มีความฟรุตตี้เล็ก ๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น
กลิ่นซิกเนเจอร์เบลนด์จากสี White – Wood – Green
เมื่อคอนเซ็ปต์ของร้านตีความออกมาเป็นสีสามโทน นำมาสู่กลิ่นซิกเนเจอร์ที่เกิดจากการนำตัวแทนของสามสีนี้ให้ออกมาเป็นกลิ่นพิเศษที่หาได้เฉพาะสปานี้เท่านั้น
“ตัวแทนของสี White จะมาจากส่วนผสมของดอกไม้ขาวนานาพรรณ มันก็จะออกเป็นกลิ่นออกแนวแบบสะอาด สว่าง มันจะเป็นพวกดอกมะลิ คาโมมายล์ ที่ให้ความรู้สึกแบบคลีน ส่วนสี Wood จะเป็นพวกซีดาร์วู้ด แซนเดิลวู้ด วานิลลา ที่ให้ความรู้สึกแบบโคซี่ ออกแบบสโมคกี้เล็ก ๆ นะคะ มันแมนกว่ากลิ่นอื่นเลย อันนี้จะแรงขึ้นหน่อย เป็นไม้หลาย ๆ ชนิดเลย เป็นกลิ่นที่แขกผู้ชายชอบ
ส่วนสี Green ก็จะเป็นกลิ่นของใบหญ้า ที่สกัดจากใบไม้จริง ๆ โรสแมรี่แล้วก็เลมอน
ก็จะเป็นกลิ่นที่รีเฟรชชิ่ง สดชื่นที่สุด เขียวมาก ชัดเลยเหมือนนั่งอยู่กลางทุ่งหญ้า บางคนจะบอกว่าเขียวไป แต่จริง ๆ พอดมไปเรื่อย ๆ จะรู้สึกผ่อนคลายมาก รู้สึกแบบเหมือนรีเฟรชขึ้นมาเติมพลังให้กับร่างกายเพราะมันเป็นกลิ่นที่แบบกระตุ้นให้เราตื่น”
เพราะการได้มาสปาก็เหมือนกับการได้อยู่กับตัวเอง แม้จะเป็นเวลาเพียงชั่วโมงเดียว หรือบางคนใช้เวลาที่นี่กว่าครึ่งวัน ซึ่งนอกจากความผ่อนคลายสบายกายแล้ว สิ่งหนึ่งที่คุณแอนให้ความสำคัญไม่แพ้กันเลยคือการผ่อนคลายจิตใจ ที่สะท้อนผ่านการตกแต่งร้านที่ละเมียด สร้างบรรยากาศที่ดี มีความเป็นส่วนตัวสูง ไปจนถึงงานบริการอย่างการถามตอบที่เป็นกันเอง ขณะอธิบายถึงส่วนผสมต่าง ๆ ที่ล้วนเอื้อให้รู้สึกถึงการได้รับการดูแลอย่างแท้จริง
“คือมีลูกค้าบางท่านเขาก็เข้ามาพร้อมปัญหาเรื่องส่วนตัว การที่เขาเข้ามาดู จิบชา มานวด มาดูต้นไม้อะไรอย่างนี้ มันก็ช่วยเยียวยาเขาได้ คือมันเป็นฟีดแบคจากลูกค้าจริง ๆ นะคะ ว่าเหมือนแบบพอเขาเข้ามาแล้วเขารู้สึกว่าเหมือนได้ไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัด โดยที่เขาก็ยังอยู่เอกมัยอยู่”
เมื่อเราถามถึงโปรแกรมที่อยากแนะนำ คุณแอนเลยกล่าวถึง Sleep Therapy หรือการนวดด้วยน้ําหนักเบา ที่เหมือนเป็นการกล่อมเรานอน เหมาะสําหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับยาก หรือว่าเดินทางมาไกลแล้วเกิดอาการ Jetlag ตอบโจทย์ปัญหาคลาสสิกของชาวออฟฟิศที่มีเรื่องมากมายในแต่ละวันจนพาลนอนไม่หลับไปค่อนคืน
สำหรับแผนในอนาคต คุณแอนตั้งเป้าว่าอยากจะขยับขยายเติบโต ในแนวทางของ Wellness Destination เพื่อให้ภาพของความผ่อนคลายครบวงจรมากขึ้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยในการบำบัด ภายใต้บรรยากาศที่ยังคงสามโทนสีอย่างสีขาว สีไม้ และสีเขียวไว้เป็นซิกเนเจอร์ และหวังว่าลูกค้าที่มาจะได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ และความประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน เมื่อไหร่ที่มีเรื่องเครียดหรือต้องการความผ่อนคลาย การมาทำสปาก็เป็นดั่งการให้รางวัลกับตัวเอง ได้กลับมาดูแลตัวเองอย่างแท้จริง
ใครที่อยากไปลองสัมผัสความผ่อนคลายสบายในทุกช่วงเวลาที่ White Wood Green Spa สามารถไปเยี่ยมเยียนได้ที่ ซอยเอกมัย12 ลงรถไฟฟ้าสถานีเอกมัย
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 21.00 น.
FB : www.facebook.com/whitewoodgreenspa
IG : www.instagram.com/whitewoodgreenspa
Website : www.whitewoodgreen.com
และสำหรับใครที่สนใจผลิตภัณฑ์ทางเลือกในการตกแต่งผิวผนัง สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
FB : https://www.facebook.com/TigerBrandTH
Website : https://tigerbrandth.com/
CPAC Contact Center : 02-555-5555