กลางทะเล หน้าเกาะเสม็ด

          แวบแรกถ้ามองผ่านๆ ก็ดูจะเหมือนบ้านชาวบ้านในละแวกนี้ เพราะเป็นเพียงเรือนไม้หน้าตาเรียบๆ เพียงแต่มีสภาพค่อนข้างเรียบร้อย ประเมินว่าได้รับการดูแลรักษาอย่างดีข้อสงสัยประการต่อมาคือ สามารถสร้างกลางทะเลได้อย่างไรเหตุผลก็คือ กลุ่มเรือนเหล่านี้สร้างมานานแล้ว โครงสร้างเสาที่ปักลงในทะเลก็เป็นตำแหน่งของเสาเก่าทั้งสิ้น บ้านที่ปรากฏในปัจจุบันได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีความแข็งแรงและสวยงามเพื่อใช้เป็นเรือนพักผ่อนหรือเรือนรับรองบุคคลพิเศษ

          ตัวเรือนแต่ละหลังออกแบบให้มีชั้นเดียว จึงไม่บดบังทัศนียภาพที่สวยงามของเกาะเสม็ดซึ่งตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลังวัสดุที่เลือกใช้ล้วนเป็นไม้ธรรมชาติที่ปล่อยให้สีของไม้ซีดจางมองไกลๆ ดูไม่ต่างจากบ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ริมเกาะ โดยมีทางเดินเชื่อมต่อเรือนแต่ละหลังเข้าด้วยกัน

          สำหรับการแบ่งพื้นที่ใช้สอยก็จะแยกเป็นหลังๆ ไป?กล่าวคือ?เรือนกลางซึ่งมองไกลๆ จะเห็นเป็นห้องเดียว แต่ที่จริงพื้นที่ส่วนนี้เป็นส่วนกลาง จัดเป็นส่วนนั่งเล่นและรับประทานอาหารแบบเปิดโล่ง มีห้องครัวอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์บาร์ และยังมีห้องนอนหลบไปด้านหลังอีก 2 ห้อง

          เรือนปีกตะวันออกแยกออกมาค่อนข้างห่างจากเรือนกลางเรือนนี้เป็นส่วนของห้องนอน 3 ห้องที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าส่วนอื่นๆ เพราะมีประตูและแผงกั้นก่อนเข้าถึงตัวเรือน ส่วนเรือนปีกด้านตะวันตกมีห้องนอน 2 ห้อง

          ห้องนอนทุกห้องตกแต่งไม่ต่างกัน เว้นแต่จะมีขนาดความกว้างมากน้อยกว่ากันเท่านั้น รวมถึงมีส่วนนั่งเล่นและห้องน้ำในตัว โดยออกแบบให้ผนังบางส่วนในห้องน้ำเป็นช่องระแนงไม้ที่สามารถระบายอากาศได้ดี

          แม้เรือนกลุ่มเหล่านี้อาจไม่ใช่บ้านพักอาศัยในชีวิตประจำวัน?แต่อย่างน้อยก็สามารถพักผ่อนได้อย่างสุขสบายที่สำคัญ จุดเด่นของที่นี่ก็คือ?การได้มองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามเพราะรายรอบด้วยฟ้ากว้าง ทะเลใส และเกาะแก่งต่างๆบางคนถึงกับรำพึงว่า ทะเลด้านนี้ดูไม่เหมือนทะเลเกาะเสม็ด แต่กลับคล้ายทะเลสาบในยุโรป ยิ่งในตอนกลางคืน มองออกไปเห็นแสงไฟระยิบระยับจากฝั่งบ้านเพ ถือเป็นภาพที่โรแมนติกทีเดียว หรือภาพก่อนแสงอาทิตย์จะลาขอบน้ำก็ให้บรรยากาศอันงดงามไม่ด้อยไปกว่าหมู่เกาะมัลดีฟส์เลย

          นี่ละเสน่ห์ของธรรมชาติ…ความสวยงามที่ไม่ต้องผ่านการปรุงแต่งใดๆ