ถ้าไม่ไปเหนือ จะไปไหน ? ใครๆ ก็ขึ้นเหนือเพราะอยากไปสัมผัสอากาศหนาวๆ ท่ามกลางหมอกสีขาวโพลน บนยอดดอย และที่เที่ยวที่สุดฮอตคงหนีไม่พ้น เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน ฯลฯ เอาหล่ะ ไปเปลี่ยนบรรยากาศสัมผัสความหนาวเย็นที่จังหวัดอื่นๆบ้าง ก็สวยไม่แพ้กัน หรือใครจะไปทะเล แบบแหกกฎการเที่ยวก็น่าสนใจ รูมแพลนมาให้แล้ว !
[1]
ไปอิสาน บ้านเฮา
จะว่าไปอากาศทางอีสานกับเชียงใหม่ ก็หนาวไม่ต่างกัน อีกทั้งเมืองต่างๆ ยังฮิปชิค และมีธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้ภาคเหนือ เพราะมีทั้งภู ทั้งที่เที่ยวแบบ unseen ทุ่งดอกไม้สวยๆ ก็มี
ถ้าคุณได้ไปเลย อาจจะไม่อยากไปไหนอีกเลย
ลืมภูกระดึงไปได้เลย เพราะเราจะชวนไป ภูลมโล อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ที่นี่ก็มีดอกพญาเสือโคร่งให้ได้ชม ซึ่งจะบานในช่วงเดือน ม.ค. ของทุกปี ในแต่ละปีจะบานไม่ตรงกัน ก่อนเดินทางต้องเช็คข้อมูลอีกครั้งนะ
ย้ายมาอีสานสุดอย่างหนองคาย ที่ภูห้วยอีสัน -ภูผาดัก.
ที่ตั้งอยู่ในตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม อำเภอเล็กๆ ในจังหวัดหนองคาย สัมผัสอากาศเย็น ชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกสวยๆ เสร็จแล้วจะไปไหว้พระ หรือข้ามไปฝั่งลาว ก็ยังได้
ส่วนภูผาดักที่นี่จะแตกต่างจากภูห้วยอีสันที่สามารถนั่งรถอีแต๊กชาวบ้านขึ้นไปได้ ต้องเดินเท้าบนทางชันฝ่าความมืดใช้เวลาประมาณ 45 นาที และจำเป็นต้องมีชาวบ้านนำทาง ติดต่อได้ที่ เพจ “ภูห้วยอีสัน” อบต.บ้านม่วง ได้เลย
ขอบคุณภาพ และข้อมูลจาก http://www.chillpainai.com/scoop/6173/
[2]
ทะเลหน้าหนาว แต่ไม่เหงา
ทะเลไทยไปได้ทุกฤดู แต่สำหรับหน้าหนาวแล้ว ทะเลอันดามัน ก็ไม่มีลมมรสุม ทำให้ทะเลค่อนข้างสงบ ที่เหมาะสำหรับเดือนธันวาคม-มกราคม คือ ภูเก็ต หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ ทะเลกระบี่ เกาะพีพี ทะเลตรัง ลงไปถึงหมู่เกาะตะรุเตา สำหรับฝั่งอ่าวไทย ถือเป็นช่วงที่ดีมาก สำหรับการดำน้ำที่ พัทยา สัตหีบ แสมสาร เกาะช้าง ทะเลชุมพร อย่าง เกาะเต่า ก็เวิร์ค
ที่เราอยากแนะนำก็คือ เกาะมันนอก หนีไปติดเกาะส่วนตั๊ว ส่วนตัว ที่ Koh Munnork Private Island by Epikurean Hotels & Lifetsyle นอกจากจะได้ชมทะเลสวยๆ แล้วยังเพลิดเพลินไปกับชีวิตที่เรียบง่ายหลบหนีความวุ่นวาย ห้อมล้อมไปด้วยป่าไม้อันเขียวชอุ่ม อาจได้เจอเจ้าถิ่นอย่างนกยูงที่จะมาทักทายได้
ข้อมูล-ภาพ : https://www.facebook.com/pg/munnorkprivateisland
ระนอง ต้องลองไป
พูดถึงระนองหลายคนอาจจะนึกออกแต่ เกาะพยายาม แต่มีหมู่เกาะที่ยังไม่ช้ำอย่างหมู่เกาะกำ เกาะค้างคาว และเกาะญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแหลมสน ที่ทั้งสวยและสงบไม่แพ้กัน
ภาพและข้อมูลจาก https://tatviewsblog.wordpress.com/2016/05/17/kokamranong/
นอกจากทะเลที่เงียบสงบแล้ว ที่นี่มีบ่อน้ำพุร้อน ที่ได้ชื่อว่าออนเซ็นเมืองไทย อย่าง บ่อน้ำร้อน-สวนรักษะวาริน มีแร่ธาตุที่สำคัญและไม่มีสารกำมะถันเจือปน และด้วยอุณหภูมิประมาณ 65 องศาเซลเซียส ทำให้น้ำแร่ร้อนจากที่นี่มีประโยชน์ ในการบำบัดรักษาสุขภาพ อากาศหนาวๆนอนแช่บ่อน้ำร้อน ฟินที่สุดแล้ว
[3]
ล่องแพ นอนเขื่อน สโลว์ไลฟ์
อุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษ์ธานี
สัมผัสผืนป่าที่มีความยิ่งใหญ่มากเป็นลำดับต้น ๆ ของภาคใต้ หรือ กุ้ยหลินเมืองไทย ที่นี่มีกิจกรรมให้เลือกสรรมากมายเช่น การล่องแก่ง เดินป่า นั่งช้าง ดูนก และเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งสามารถเลือกนอนในเขื่อน นอนแพ หรือ เข้าไปนอนในอุทยานก็ได้ บอกก่อนว่าที่นี่ไม่มีสัญญานโทรศัพท์นะ ช่วงเวลาที่เหมาะสุดๆ ก็เดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายนนี่แหละ
เขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ. กาญจนบุรี
นอนเล่นชมธรรมชาติที่นี่ มีถ้ำสวรรค์ อุโมงค์ธรรมชาติพบภาพเขียนโบราณที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ การชมถ้ำนี้ ควรติดต่อชาวบ้านให้เป็นผู้นำทาง นอกจากนี้ยังมี ถ้ำเนรมิต ถ้ำน้ำมุด ถ้ำพระปรางค์ และน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จัดว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดของกาญจนบุรีด้วย สำหรับที่พัก นอนแพก็มีให้เลือกหลายที่ จะจองที่พักพร้อมกิจกรรมสุดเอดเวนเจอร์ หรือนอนในอุทยานก็อากาศดีไม่แพ้กัน
เรื่อง : Parichat K.
ขอบคุณภาพ และข้อมูลจาก ททท. http://thai.tourismthailand.org/