หากจะให้นึกถึงที่เที่ยวสักแห่งที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มีแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถตอบโจทย์คนที่ไม่อยากเดินทางไกล แต่มีครบทั้งแหล่งเที่ยวแบบธรรมชาติ น้ำตก ภูเขา หลายคนต้องนึกถึง“นครนายก” เมืองแห่งน้ำตกภายใต้ขุนเขาที่ไม่ได้มีดีแค่ที่เที่ยวเชิงธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจรอนักท่องเที่ยวอยู่อีกมากมาย ยิ่งตอนนี้ นครนายกเป็นจังหวัดที่พัฒนาสู่เมืองที่อุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติ เป็นเมืองน่าอยู่ที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ที่นี่จึงถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางมาเยือนในช่วงวันหยุดพักผ่อนที่จะมาแบบ 2 คืน 3 วัน หรือจะมาแบบ one day trip ก็สะดวกมากมายค่ะ
นครนายกเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากๆ เพียงแค่ 100 กว่ากิโลเมตร แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เขื่อนขุนด่านปราการชล ที่เรียกได้ว่าเป็นเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ที่สุดของไทย แถมยังมีการบริหารจัดการน้ำสำหรับนำไปใช้ในการเกษตรแหล่งสำคัญอีกด้วย และหากใครที่ชื่นชอบกิจกรรมท่องเที่ยวแบบแอดแวนเจอร์ ก็สามารถไปหาได้ที่นครนายกค่ะ
หลายๆ คนคงจะทราบกับอยู่บ้างแล้วนะคะว่าจังหวัดนครนายกนั้นเป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องของแหล่งรวมไม้ดอกไม้ประดับที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เมื่อเดินทางมาถึงคลอง 15 จะเห็นว่ามีพันธุ์ไม้นานาชนิดทั้งไม้ดอก ไม้มงคล เรียงรายทอดยาวจนสุดลูกหูลูกตา ใครที่กำลังมองหาต้นไม้เพื่อเอาไปจัดสวน จัดบ้าน ตกแต่งงานเลี้ยง คงถูกใจคนรักต้นไม้เป็นที่สุด มาที่นี่ได้ครบ เรียกได้ว่ามาถึงรับรองเพลิน
สำหรับการเดินทางมาหมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับที่คลอง 15 นี้ เราจะวิ่งเส้น รังสิต-นครนายก โดยจะใช้ถนนหมายเลข 305 ตั้งแต่คลอง 1 วิ่งตรงไปเรื่อยๆ จนถึงคลอง 15 และเมื่อถึง ก็จะเห็นป้ายทางเข้าหมู่บ้าน “ไม้ดอกไม้ประดับ” อยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งที่นี่ถือเป็นสวรรค์ของคนรักต้นไม้ก็ว่าได้ค่ะ
จากหมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ เราก็เดินทางต่อไปยังพิกัดใหม่กันต่อ โดยใช้ถนนหมายเลข 305 ด้วยระยะทางประมาณ 10 กม.แล้วเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานข้ามคลอง จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามถนนเลียบคลองอีกประมาณ 260 ม. ก็จะถึงพิกัดเป้าหมายต่อไป นั่นคือ “ผลิตภัณฑ์ของแต่งบ้านจากไม้มะม่วง” ค่ะ
ถึงเวลาของคนชอบแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ เรามาที่นี่บอกเลยว่าเหมือนอยู่ในงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ย่อมๆ นี่เอง เพราะที่นี่มีทั้งศูนย์ออกแบบ ดีไซน์ และศูนย์ฝึกอบรมผลิตภัณฑ์ไม้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ไม้กระท้อน ไม้ขนุน และไม้ผลต่างๆ ของภาคตะวันออก มาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด โดยเฉพาะไม้มะม่วง ไม้แต่ละอย่างที่นำมาผลิตเฟอร์นิเจอร์นี้ล้วนแต่เป็นไม้ที่หมดอายุจากการให้ผลแล้ว แหม มาที่นี่นอกจากดูเฟอร์นิเจอร์สวยๆ แล้ว ยังได้เรียนรู้ธรรมชาติของไม้ต่ละชนิดก่อนนำมาผลิตอีกด้วย คุ้มค่าต่อการมาสุดๆ ค่ะ
ต้องบอกก่อนเลยนะคะ ว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่สินค้าพวกของแต่งบ้านเท่านั้นค่ะ แต่ยังมีสินค้าให้เลือกชมเลือกซื้ออีกหลายอย่าง ตั้งแต่ของประดับบ้านชิ้นใหญ่ๆ ไปจนถึงเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ ที่ทำมาจากไม้แบบเก๋ๆ ไม่เหมือนใครอีกด้วยค่ะ ถือเป็นการสร้างมูลค่าให้สินค้าได้เป็นอย่างดี เห็นว่าถึงขั้นส่งไปจำหน่ายที่ต่างประเทศด้วยนะคะ บอกเลยว่าสินค้าไทยจะไปตีตลาดโลกแล้วค่ะ
มาต่อกันที่ของดีของเมืองนครนายก ที่มาแล้วต้องห้ามพลาดไปเลือกชมเลือกชิมกันเลย งานนี้สหายสายเปรี้ยวไม่ควรพลาดเลยกับแหล่งปลูกมะดันที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครนายก ที่สามารถพลิกวิกฤติเป็นโอกาสจากพื้นที่แอ่งกระทะน้ำท่วมทั้งปี กลายมาเป็นแหล่งปลูกมะดันขนาดใหญ่ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับชาวบ้าน
มะดันของที่นี่จะถูกส่งไปแปรรูปเพิ่มมูลค่าที่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปผลไม้อบแห้งบางอ้อ เป็นมะดันแช่อิ่ม มะดันลอยแก้ว มะดันอบแห้ง นอกจากนี้ที่กลุ่มผลไม้แปรรูปอบแห้งยังมีการแปรรูปกระท้อน เมล่อน มะม่วง และตะลิงปิงที่หาทานได้ยากอีกด้วย แต่ใครจะรู้ว่านอกจากผลของมะม่วง กระท้อน ฯลฯ จะสามารถนำมาบริโภคได้แล้ว เศษไม้หมดอายุที่ไม่ สามารถให้ลูกได้ ก็สามารถนำมาต่อยอดเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงาม ต่างๆ เช่นโคมไฟ แจกัน ฯลฯ ส่งไกลไปถึงต่างประเทศ
เราได้รู้จักของดีทั้งของกิน ของใช้ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครนายกกันมาพอสมควร แต่ยังมีอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อโดยไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นคือ ไม้ไผ่แปรรูปที่เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนครนายก การแปรรูปไม้ไผ่เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงาม โดยเฉพาะไผ่ตงวัสดุที่หาง่ายในพื้นที่ นำมาคิดประดิษฐ์ สร้างสรรค์ แกะสลัก ซึ่งความพิเศษก็คือ ใช้ทุกส่วนของไม้ไผ่ตั้งแต่เหง้าจนถึงยอด และเป็นงานฝีมือทั้งหมดที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์เป็นอย่างมาก บอกเลยว่าผลงานทุกชิ้นของที่นี่ สวยจนต้องร้อง ว้าว!!
มาเที่ยวนครนายกกันทั้งที ต้องเก็บให้ครบ ใครที่ไม่อยากพลาดที่เที่ยวดีๆ ต้องไปทำความรู้จักกับชาวไทยพวนที่มาอาศัยอยู่ในนครนายก ถึง 4 ชุมชนด้วยกัน ซึ่งแต่ละชุมชนนั้นมีเอกลักษณ์ที่โดเด่นของตัวเองให้เราได้ท่องเที่ยวและได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน เรียกว่าเที่ยวที่ชุมชนไทยพวนแบบ One Day Trip เลยค่ะ
เริ่มกันที่ชุมชนแรก ที่ ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชวัดฝั่งคลอง แหล่งรวบรวมเครื่องมือเครื่องใช้ในอดีตกว่า 200 ปี ที่แสดงให้เห็นวิถีชีวิต ภาษาของชาวไทยพวน และนอกจากพิพิธภัณฑ์แล้วชุมชนวัดฝั่งคลองยังมีบ้านโบราณไทยพวนหรือเฮือนไทยพวนจำลองไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาวิถีชีวิตของชาวไทยพวน และหากใครอยากลองแต่งกายเป็นหนุ่มสาวไทยพวนก็สามารถเช่าชุดไทยพวนใส่ได้อีกด้วยค่ะ
นอกจากเรื่องเสื้อผ้าแล้วแวะมาที่นี่ยังจะได้ทดลองชิมอาหารท้องถิ่นของชาวไทยพวน ซึ่งก็มีจัดไว้เป็นขันโตกไว้คอยบริการ พร้อมอาหารถิ่นรสเด็ดอย่างแกงเลียง ปลาดูสมุนไพรที่เรียกว่าเป็น ซิกเนเจอร์ของที่นี่เลยค่ะ ปลาดูก็คือลักษณะการถนอมอาหารอย่างหนึ่งของชาวไทยพวนคล้ายกับปลาร้า เนื้อแห้ง นุ่ม อร่อย เมื่อนำมาทอดทานกับสมุนไพร จะได้รสชาติที่กลมกล่อม หอม อร่อยสุดๆเลยล่ะค่ะ เมื่อชิมอาหารแล้วก็ชมการแสดงพื้นบ้านอย่าง ลำพวน และลำตัดพวนให้ได้ดูกันแบบเพลินๆ อีกด้วย
ออกจากชุมชนแรก ก็มาต่อกันที่ชุมชนที่สอง คือ ชุมชนไทยพวนวัดเกาะหวาย ที่เป็นแหล่งผลิตปลาดูสมุนไพรสุดแซ่บนั่นเองค่ะ มาถึงถิ่นผลิตจะไม่เรียนรู้วิธีทำก็ดูจะกระไรอยู่ จากการสอบถามถึงที่มาของปราดูนั้น ได้ความว่า ที่นี่มีปลาดุกมากเพราะคนในชุมชนเลี้ยงปลาดุกกันเยอะ ผู้นำชุมชนเลยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการรับซื้อปลาดุกเพื่อนำมาแปรรูปเป็นของฝากของชุมชนในรูปแบบ ปลาดูสมุนไพรนั่นเอง ใครที่มาถึงนี่ก็อย่าลืมหาซื้อติดมือกลับไปเป็นของฝากได้นะคะ รับรองเลยค่ะว่าต้องอร่อยถูกใจจนต้องกลับมาซื้ออีก
เราเดินทางต่อมาจนถึงชุมชนไทยพวนวัดท่าแดง ซึ่งเป็นชุมชนที่สาม แต่ที่นี่ถือเป็นจุดแรกที่ชาวไทยพวนมาตั้งหลักปักฐานตั้งรกรากกันที่นครนายก โดยชุมชนนี้มีความพิเศษที่สวนมะยงชิด และมะปรางหวาน ณ สวนเกษตรเปรมปรีย์ของลุงสังเวียน แหล่งขึ้นชื่อของมะยงชิดมะปรางหวานที่ใครมาเที่ยวก็ต้องไม่พลาดที่จะแวะชิมและซื้อกลับไปเป็นของฝาก และช่วงเวลาที่จะออกผลนั้น ก็คือช่วงหน้าหนาว หรือประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ถึงมีนาคม แต่ปีนี้อากาศมีความแปรปรวน หากใครอยากมาชิมก็ให้มาช่วงปลายเดือนเมษายนนะคะ เพราะช่วงนั้นจะมีให้ชิมแน่นอน เจ้าของสวนคือ ลุงสังเวียนก็แสนจะใจดี ลุงสังเวียนบอกว่าใครที่สนใจก็สามารถมาขอความรู้จากคุณลุงได้ฟรีๆ และสามารถมาซื้อกิ่งพันธุ์ไปปลูกกันได้อีกด้วยค่ะ
ปิดท้ายที่ชุมชนสุดท้าย คือ ชุมชนไทยพวนวัดบ้านใหม่ ที่นี่นอกจากนักท่องเที่ยวจะสามารถมากราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุกุสาวดี ชมความสวยงามของสถูปเจดีย์ที่ผสมผสานรูปทรงแบบอินเดียเข้ากับเอกลักษณ์ความเป็นไทยแล้ว ได้ชื่นชมความสวยงามของผ้าทอจากกลุ่มสตรีสหกรณ์ หัตถกรรมผ้าทอไทยพวนบ้านใหม่ ซึ่งจุดเด่นของผ้าทอที่นี่คือการทอที่ปราณีตและเป็นงานหัตถกรรมทั้งหมด และลายที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดนครนายกคือลายดอกสุพรรณิการ์ที่ใช้เวลาคิดค้น เกือบ 5ปี บอกเลยว่าต้องมา ณ จุดๆ นี้
ต้องบอกเลยว่ามาชุมชนไทยพวนครั้งนี้เรียกว่าครบทุกรสจริงๆ ได้ชมทั้งพิพิธภัณฑ์ ได้ชิมทั้งอาหาร ได้รู้แหล่งผลิตมะยงชิดผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัด แถมยังได้รู้จักสถานที่สำคัญๆ ทางพุทธศาสนาที่สวยงามหลายแห่ง ซึ่งจะเห็นได้ว่าแต่ละชุมชนที่นี่นอกจากมีความเข้มแข็งแล้ว ยังมีการแบ่งปันกันระหว่างชุมชนอีกด้วย ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่น่าจดจำมากๆ เลยค่ะ
การมาเยือนนครนายกในครั้งนี้ เราได้รับเกียรติจาก คุณฮอล-ลีฬภัทร กสานติกุล พิธีกร และกองบรรณาธิการจากนิตยสาร my home ที่ได้นำไอเดียดีๆ ในการผลิตสินค้าท้องถิ่นอย่างผ้าขาวม้า มาต่อยอดเป็นของฝากจากชุมชน และยังได้ต่อยอดสู่การสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านอีกด้วย โดยคุณฮอลได้ชวนชาวบ้านมาร่วมกันผลิตสร้อยคอ กระเป๋าผ้า และพวงกุญแจปลาดูน่ารักๆ ที่สามารถนำมาจำหน่ายเป็นของฝากสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว 4 ชุมชนไทยพวน จังหวัดนครนายกได้ซื้อหากันได้แบบสบายๆ เลยค่ะ
จบทริปสนุกๆ แบบครบรสที่นครนาย บอกเลยว่างานนี้ใครที่ไม่อยากเดินทางไกล หรือหากมีเวลาไม่มากนักต้องที่นี่เลยค่ะเพราะนครนายกเดินทางง่ายไม่ไกลมาก อยากพักผ่อนแบบชิลๆ หอบเอาความสุขใจกลับไป ถือเป็นการมาชาร์ทแบตให้ร่างกายได้เป็นอย่างดี “นครนายก” รอให้ทุกคนมาสัมผัสและตักตวงความสุขใจได้ในเวลาสั้นๆ บอกเลยว่า…ควรมา
ติดต่อเยี่ยมชุมชน
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปผลไม้อบแห้งบางอ้อ โทร. 0851298274
บริษัท ครีเอชั่น เวิลด์ ไวด์ วู้ดส์ จำกัด โทร. 0819299661
กลุ่มลายไม้ไผ่ โทร. 0815771789
ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนไทยพวน โทร. 0927579377
ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชวัดฝั่งคลอง โทร. 0814588200
กลุ่มปลาดูทอดสมุนไพร แม่บ้านเกษตรกรเกาะหวาย โทร. 0814406113
สวนเกษตรเปรมปรี โทร. 0817458174
กลุ่มสตรีสหกรณ์หัตถกรรมผ้าทอไทยพวนบ้านใหม่ โทร. 0871410120
กลุ่มอนุรักษ์ขนมไทยโบราณ โทร. 0922315753