คอนโดฯ สไตล์มินิมัล อยู่สบายแต่อบอุ่น - room magazine

UNIQUE, COZY & FEEL LIKE HOME – คอนโดฯ สไตล์มินิมัล อยู่สบายแต่อบอุ่น

 

/ ออกแบบบ้านสไตล์มินิมัล การใส่ใจในรายละเอียดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะหากงานออกมาไม่เรียบร้อย หรือคิดไม่จบตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ความผิดพลาดทุกอย่างมันจะฟ้องให้เห็นอย่างชัดเจน /

วันนี้ room มีโอกาสได้มาถ่ายทอดเรื่องราวน่าสนใจของคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์กลางซอยสุขุมวิท 55 หรือที่เรียกกันติดปากว่าทองหล่อ ความพิเศษของคอนโดมิเนียมแห่งนี้คือเป็นห้องเพ้นต์เฮ้าส์ลักษณะแบบดูเพล็กซ์เปิดรับวิวชั้นบนสุดของโครงการ Noble Ora โดยมี คุณญาณิกา เทียนทอง เป็นเจ้าของ

คอนโดฯ สไตล์มินิมัล
ความรู้สึกโปร่งสบายส่วนหนึ่งเกิดจากการที่แต่ละชั้นมีความสูงถึง 3.50 เมตร ร่วมกับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และวัสดุโทนสีอ่อน ช่วยลดความอึดอัดของพื้นที่จำกัดอย่างคอนโดมิเนียมได้เป็นอย่างดี

เมื่อเราไปถึงตามเวลานัดหมาย เธอเดินออกมาเปิดประตูต้อนรับทีมงานด้วยตัวเองพร้อมรอยยิ้มแสนอบอุ่นก่อนจะพาเราเดินชมรอบ ๆ และบอกเล่าที่มาและขั้นตอนการรีโนเวตห้องชุดแห่งนี้ให้มีสเปซไม่ธรรมดา โดยเริ่มจากการถ่ายทอดความต้องการด้านฟังก์ชันและสไตล์ที่ตนเองต้องการ เพื่อให้นักออกแบบจาก MPDStudio สามารถเนรมิตเพ้นต์เฮ้าส์ขนาด 410 ตารางเมตรให้ออกมามีฟังก์ชันตรงตามโจทย์และความต้องการของสมาชิกในครอบครัวทั้ง 4 คนได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดโดยใช้เวลาในการออกแบบประมาณ 7 เดือน และก่อสร้างอีกประมาณ 1 ปี

กั้นสเปซห้องทำงานด้วยประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ วงกบทำจากอะลูมิเนียมเพื่อให้มีน้ำหนักเบาแล้วกรุกระจกนิรภัยหนา 6 มิลลิเมตรเสริมความแข็งแรงทนทานยิ่งขึ้น

โจทย์แรกที่เจ้าของต้องการคือ อยากให้บ้านดูเรียบโปร่ง สว่าง อยู่สบายแต่อบอุ่น การตกแต่งที่ลงตัวจึงหนีไม่พ้นสไตล์มินิมัล ซึ่งเน้นความเรียบนิ่งของสเปซและวัสดุเป็นหลัก โดยนักออกแบบได้บอกเราว่า การออกแบบบ้านสไตล์มินิมัลนี้ การใส่ใจในรายละเอียดเป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะหากงานออกมาไม่เรียบร้อย หรือคิดไม่จบตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ความผิดพลาดทุกอย่างมันจะฟ้องให้เห็นอย่างชัดเจน จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นทุกส่วนได้รับการออกแบบอย่างใส่ใจและละเมียดละไมเป็นพิเศษ

เนื่องจากเป็นเพ้นต์เฮ้าส์ที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคาร นักออกแบบจึงดีไซน์ให้แสงธรรมชาติลอดผ่านหลังคาสกายไลท์ลงมาถึงพื้นที่ชั้นล่างเพราะการเห็นแสงแดดและเงาที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลานั้นเป็นการสร้างเสน่ห์ให้ห้องได้อีกวิธีหนึ่ง

เริ่มจากชั้นล่างที่ออกแบบพื้นที่ให้มีลักษณะเปิดโล่งแบบโอเพ่นสเปซ ควบรวมฟังก์ชันห้องนั่งเล่น มุมรับประทานอาหาร และแพนทรี่ไว้ในพื้นที่เดียวกันเพื่อลดความอึดอัดขณะใช้งาน ช่วยให้สมาชิกทุกคนสามารถใช้พื้นที่ร่วมกันได้อย่างคล่องตัว โดยอาศัยเพียงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์สำหรับบอกตำแหน่งของแต่ละมุมให้เป็นสัดส่วนเท่านั้น ไม่ใช้การกั้นห้องเพราะทำให้ดูปิดทึบเกินไป ส่วนพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างห้องทำงาน นักออกแบบได้ออกแบบให้มีประตูสไลด์กรุกระจกนิรภัยหรือกระจกเทมเปอร์บานใหญ่สำหรับใช้กั้นพื้นที่สร้างความรู้สึกว่าห้องนี้ยังคงมีความต่อเนื่องกับส่วนอื่น ๆ ของบ้านอยู่