โลเล ได้ยินชื่อนี้เราตัดสินใจอย่างไม่ลังเล โดยเฉพาะเมื่อทราบข่าวว่า เขามีบ้านหลังใหม่ที่สวยและน่าอยู่ จนต้องขอมาเยือนให้ได้สักครั้ง
การไปเยี่ยมบ้านในช่วงหน้าฝนที่เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ แสงแดดยามเช้าที่สาดส่องลงมาจึงเป็นเหมือนข่าวดีให้เราและทีมงานได้ดีใจ และยิ่งวันนี้เรามีโอกาสออกนอกพื้นที่กันทั้งที คงไม่ดีแน่ถ้ามาถึงหัวหินแล้วจะไม่ได้แวะไปยังบ้านศิลปะ ของ “คุณ โลเล ” ศิลปินนักวาดภาพชื่อดังที่หลายๆ คนรู้จัก และคอยติดตามผลงานของเขาอยู่
หลังจากดูแผนที่แบบไม่กล้าละสายตา เราเข้ามาตามทางเรื่อย ๆ จนถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านปูนเปลือยโชว์สีธรรมชาติแบบสัจวัสดุ ผิวผนังด้านนอกไม่ได้ฉาบปูนเนียบเหมือนบ้านอื่น ๆ ทั่วไป รวมถึงมีจุดเด่นอีกอย่างอยู่ที่การทำช่องแสงเป็นรูปวงกลม ยิ่งทำให้เราแน่ใจว่า บ้านหลังนี้คือ จุดหมายที่เราตามหา จนกระทั่งได้พบกับคุณโลเลที่เดินออกมาต้อนรับ พร้อมพูดคุยทักทาย ก่อนชวนเราและทีมงานเข้าไปในบ้านพร้อมกัน
เราสำรวจไปรอบๆ ในระหว่างที่เดินตามทาง สิ่งแรกที่เห็นคือ ภาพต้นไม้น้อยใหญ่ที่รายล้อมบ้านหลังนี้เอาไว้อย่างร่มรื่น เหมือนเป็นบ้านกลางสวนอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว ชั้นล่างส่วนหนึ่งทำเป็นห้องสมุดใช้สะสมหนังสือเกือบเต็มห้อง และอีกส่วนปล่อยเป็นใต้ถุนโล่ง ๆ แบบบ้านไทย ใช้นั่งเล่นชิล ๆ รับลมเย็นสบาย เชื่อมต่อกับคอร์ตกลางบ้านที่จัดเป็นสวนเล็ก ๆ ตกแต่งร่วมกับประติมากรรมศิลปะที่เราขอเรียกมันว่า “ไข่ไดโนเสาร์” ให้อารมณ์สนุกสนาน และสร้างสีสันให้กับบ้านดี เช่นเดียวกับลูกเล่นหน้าต่างวงกลม และแลมป์ทางเดินขึ้น-ลงใช้แทนบันไดที่เรากำลังเดินขึ้นบ้านไปด้วยกัน
เมื่อเดินขึ้นมาตามทางลาดที่นำเรามาหยุดอยู่ที่ชั้น 2 (อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเด็ก ๆ มาเห็นคงต้องชอบมุมนี้เป็นพิเศษ) เราก็พบประตูทางเข้าพอดิบพอดี ตรงนี้เรามองเห็นต้นไม้กระถางเล็กวางเรียงรายอยู่บนชั้นไม้ที่ติดกับผนังด้านข้าง ดูน่ารักสดใสราวกับเป็นแผนกต้อนรับแขกอีกหนึ่งจุดรองจากพี่ ๆ ต้นไม้ใหญ่ที่หน้าบ้าน และเมื่อพลักประตูเข้าไปก็พบเจ้าของบ้านคนสำคัญอีกคน นั่นคือ “คุณแพร” ภรรยาของคุณโลเล เธอรอต้อนรับเราและทีมงานอยู่ด้านในอย่างยิ้มแย้มเป็นกันเอง ก่อนพาเราเดินชมบ้านในมุมต่าง ๆ ท่ามกลางบรรยากาศโปร่งโล่งแบบบ้านสตูดิโอรูปตัวแอล (L) เชื่อมทุกพิ้นที่เข้าหากัน
ระหว่างการสนทนา คุณโลเลเล่าย้อนกลับไปถึงที่มาก่อนจะสร้างบ้านหลังนี้ให้ฟังว่า หลังจากอยู่คอนโดมิเนียมในกรุงเทพ ฯ มาสักระยะ เขาก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ โดยมีโจทย์ว่าต้องการบ้านที่มีเพดานสูง โปร่งโล่ง และทำอะไรได้หลาย ๆ อย่าง แบบไม่ตายตัว โดยเฉพาะพื้นที่ทำงานศิลปะ ต้องมีช่องหน้าต่างให้แสงเข้ามาในบ้านเยอะ ๆ โดดเด่นที่ช่องหน้าต่างวงกลม ซึ่งให้ความรู้สึกไม่เหมือนใคร และช่วยให้เกิดแสงเงาที่แตกต่างไปอีกแบบ
/ บ้านก็เหมือนงานศิลปะอย่างหนึ่ง
หากผู้อยู่อาศัยรู้จักที่จะแต่งแต้มความสุขให้กับบ้าน
บ้านก็จะแสดงความสุขออกมาได้อย่างชัดเจนเช่นกัน /
มุมแรกของบ้าน เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับโต๊ะไม้ขนาดกำลังดี ใช้เป็นมุมศิลปะของเจ้าของบ้าน รอบ ๆ มีเฟรมภาพมากมายวางอยู่ด้านข้าง และมีรูปภาพแขวนกระจายอยู่บนผนัง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ก็เน้นที่มีสีสันสดใสช่วยสร้างความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า คุณโลเลมักใช้เวลาวาดรูปอยู่ในพื้นที่ส่วนนี้แทบทุกวัน เพราะจากมุมนี้สามารถมองออกไปเห็นสวนและต้นไม้สีเขียวกลางบ้านได้อย่างสบายตา รวมถึงยังใช้เป็นมุมรับแขกไปในตัวด้วย เหมือนเช่นตอนนี้ที่เรากำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ ระหว่างนั้นเขาหยิบสมุดและปากกามานั่งวาดภาพ ไปพร้อม ๆ กับการให้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเองกับเรา เช่นเดียวกับคุณแพรที่กำลังปักชื่อบนผ้าอ้อมอย่างตั้งใจ ให้กับ “น้องโรมัน” สมาชิกใหม่ที่ใกล้ออกมาลืมตาดูโลกในไม่ช้า
ตรงข้ามกับมุมทำงานมีห้องน้ำและห้องครัวที่มีเคาน์เตอร์เล็ก ๆ กับซิงค์สองอันข้างกัน ตามความต้องการของคุณแพรที่ชอบทำอาหารเป็นพิเศษ เธอจึงจัดให้มุมนี้มีโต๊ะรับประทานอาหารไว้ใกล้ ๆ ดูเป็นสัดส่วนเดียวกัน
และห้องสุดท้ายเป็นส่วนของห้องนอนที่ยังคงความโปร่ง โล่ง จัดวางเฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็นเท่านั้น แต่ก็ดูลงตัวกันดี จนกลายเป็นบ้านสตูดิโอที่แฝงด้วยลูกเล่นไม่เหมือนใคร บ่งบอกความเป็นตัวเองของศิลปินได้อย่างชัดเจน ซึ่งทำให้เราได้เห็นว่า บ้านเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบหนึ่งเท่านั้น แต่ผู้อยู่อาศัยคือส่วนสำคัญ ที่ทำบ้านนั้นมีชีวิตชีวาขึ้นมา…
เรื่อง : Gobbi Chirawat
ภาพ : ศุภกร, ธนาวุฒิ