/ ผมคิดว่าคนที่อยู่ตึกแถวหลายคนอยากมีบ้านสวย ๆ
ผมจึงอยากเป็นคนหนึ่งที่ทำให้คนอื่นรู้ว่า ไม่ว่าเขาจะอยู่บ้านเล็กแคบหรือ
โทรมแค่ไหน เขาก็สามารถทำบ้านให้สวยได้ด้วยตัวเอง /
ใครที่เติบโตขึ้นมาในย่านค้าขายเก่าแก่อย่างเจริญกรุง สําเพ็ง เยาวราช และพาหุรัด อาจมีภาพจํา เกี่ยวกับตึกแถวในฐานะห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กที่เป็นทั้งที่พักอาศัย ร้านค้า ไปจนถึงโกดังชั่วคราวในตึกเดียว แต่เมื่อคุณจ้า-คิริน ชัยชนะ และคุณหลิง-ณิชรัตน์ ชัยสงวนจิรกุล ตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตแต่งงาน ของพวกเขาในอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นซึ่งเคยทําหน้าที่เป็นโกดังเก็บของมากว่า 40 ปี สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“เดิมทีที่นี่เป็นโกดังเก่า ทั้งยังใกล้กับบ้านหม่าม้าและที่ทํางานของเราสองคน ผมก็เลยเปลี่ยนตึกแถว เก่าแห่งนี้ให้กลายเป็นบ้าน”
แทนที่จะนิ่งเฉยกับบรรยากาศทรุดโทรมและคับแคบของตัวอาคาร คุณจ้ากลับพลิกความเก่าเป็นความ ใหม่ เปลี่ยนความธรรมดาเป็นความพิเศษ ด้วยความรู้และประสบการณ์เมื่อครั้งทํางานอยู่ที่บริษัทสถาปนิก 49 จํากัด ก่อนผันตัวเองมาเป็นอินทีเรียร์ดีไซเนอร์อิสระ การรีโนเวตบ้านหลังนี้ให้ตรงตามโจทย์ที่สอดคล้อง กับรสนิยมและรูปแบบการใช้ชีวิตของทั้งคู่ภายใต้งบเพียง 1.5 ล้านจึงไม่ใช่เรื่องยาก
“ตอนรีโนเวตตั้งใจแต่แรกเลยว่าอยากให้บ้านมีหน้าตาไม่เหมือนหลังอื่น และอยากได้บ้านที่ให้ความ รู้สึกอบอุ่นสไตล์โคซี่ ตึกแถวย่านนี้ส่วนใหญ่มีแต่คนจีนเราเลยตั้งใจให้บ้านดูแตกต่างออกไปทางยุโรปๆ เพราะผมเคยทํางานอยู่บริษัทออกแบบที่ทํางานแนวโมเดิร์นมาก แต่พอต้องทําบ้านตัวเองจริง ผมกลับ อยากได้บ้านที่อยู่รกๆ โดยที่ยังสวยอยู่ เพราะชีวิตจริงผมกับภรรยาเป็นคนไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่”
ในซอยที่เรียงรายด้วยตึกแถวรุ่นเก่าหลายคูหา มีเพียงตัวอาคารของคุณจ้าและคุณหลิงที่ดึงดูดสายตาเรา แต่แรกเห็นด้วยฟาเซดระแนงอะลูมิเนียมสลับแผ่นกระจก ประตูทางเข้าแบบบานคู่สุดคลาสสิกเปิดเข้าไป สู่บรรยากาศสไตล์ยุโรปบริเวณโถงทางเข้า ที่ตกแต่งด้วยกรอบรูปหัวกวาง เตาผิง จําลอง งานเหล็กดัด ตลอดจนโทนสีเข้มแต่อบอุ่นภายใต้พื้นที่แสนกะทัดรัด
“คนชอบคิดว่าใช้สีเข้มแล้วทําให้บ้านแคบลง ความจริงมันไม่ใช่ โดยผมจะเน้นผนังบางด้านให้เข้มขึ้น เพื่อดึงสายตาให้ห้องดูลึกและมีมิติ ปกติผมเคยอยู่บ้านทาสีขาวธรรมดามาก่อน งานนี้ก็เลยขอใช้โทนไปทางยุโรปแบบมืดนิดวอร์มหน่อย สังเกตโทนสีเราจะไม่ใช่เทาดํา แต่เป็นเทาน้ำตาล แสงที่ใช้ก็เป็นแสงวอร์มไลท์ทั้งหมด ให้ความรู้สึกอบอุ่นน่าอยู่ ส่วนเคล็ดลับการเลือกของแต่งบ้าน เราผสมทั้งของถูกและแพงเข้าด้วยกันจนออกมาลงตัว”
เมื่อขึ้นมายังชั้นลอยเราจะพบกับมุมรับประทานอาหาร เชื่อมต่อกับครัว แพนทรี่สไตล์ยุโรปด้วยเทคนิคการเรียงกระเบื้องคล้ายผนังก่ออิฐ ส่วนห้องนอน ชั้น 2 คุณจ้าได้กั้นผนังระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำ ทําให้ได้ห้องแต่งตัวเพิ่มขึ้นอีกห้อง
“หลังจากกั้นห้องระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน ทําให้ได้ห้องแต่งตัวเพิ่มขึ้นให้คุณหลิง บานตู้เสื้อผ้าติดกระจกเงาเต็มบาน โต๊ะแต่งหน้าเปลี่ยนเป็นลิ้นชัก เก็บของแทน เพราะหลิงเป็นคนยืนแต่งหน้าและชอบเก็บของนั่นนู่นนี่” เจ้าของบ้านใจดีบอกเล่า ด้วยรอยยิ้มก่อนพาเราขึ้นมายังชั้น 3 พร้อมชี้ชวนให้ดูบรรยากาศ สบายตาของห้องทํางาน ซึ่งคุณจ้าเอ่ยปากว่า นี่คือห้องที่ตกแต่งน้อยที่สุดแต่กลับเป็นห้องที่เขาชื่นชอบมากที่สุด
“มุมนั่งเล่นในห้องทํางานคือมุมโปรดที่เราชอบใช้เวลาด้วยกัน หลังเลิกงาน ผมกับภรรยาจะมานั่งเล่นดูทีวีตรงนี้ คอนเซ็ปต์การออกแบบเน้นถูกแต่ฟังก์ชันครบ เนื่องจากลงทุนกับชั้นอื่นไปเยอะแล้ว ที่นี่เป็นห้องที่เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์หารใช้ชีวิตจริงๆ เช่น โต๊ะทํางานสั่งทําท็อปใหม่ เพราะอาชีพของ เราถ้าใช้โต๊ะเล็กๆคงทํางานไม่ได้แน่ๆเพราะต้องเขียนแบบดูแบบในกระดาษ แผ่นใหญ่ๆ ด้านหลังจัดวางชั้นสําหรับเก็บอุปกรณ์ทํางานและของสะสม เช่น โมเดลกันดั้ม หนังสือการ์ตูน แต่ก็แอบตกแต่งนิดหน่อยด้วยกรอบรูปและ หัวกวางที่เราชอบซื้อเก็บไว้เวลาไปต่างประเทศ”
เราใจเต้นตูมตามไปกับบรรยากาศอบอุ่นตรงหน้าระหว่างไล่ดูภาพตึกแถว สมัยยังเป็นโกดังเก็บของผ่านจอสมาร์ทโฟน และยิ่งตื่นตาตื่นใจขึ้นไปอีกเมื่อได้รู้ว่าตึกแถวขนาดเพียง 30 กว่าตารางเมตรแห่งนี้ได้บรรจุความตั้งใจของเจ้าของบ้านที่อยากส่งต่อแพสชั่นให้ มนุษย์ห้องแถวลุกขึ้นมาทําบ้านในฝันกันดูสักตั้ง!
“ผมคิดว่าคนที่อยู่ตึกแถวหลายคนอยากมีบ้านสวยๆแต่เขาอาจยังไม่มีแรงบันดาลใจหรือมีคนมาไกด์เรื่องการตกแต่ง จริงๆตอนทำบ้านหลังนี้ก็ตั้งใจแต่แรกเลยว่าจะลงเว็บไซต์ เพราะผมอยากเป็นคนหนึ่งที่ทําให้คนอื่นรู้ว่า ไม่ว่าเขาจะอยู่
บ้านเล็กแคบหรือโทรมแค่ไหน เขาก็สามารถทําบ้านให้สวยได้ด้วยตัวเอง”
เรื่อง : ploythinkp+
ภาพ : นันทิยา, ดำรง
วีดีโอ : Latin
คอลัมน์ : Room To Room
เล่ม : July 2015 No.149