“ไม้” เป็นวัสดุที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล ทำให้บรรยากาศอบอุ่น จึงไม่แปลกที่ใครๆต่างก็หลงรัก หากคุณเป็น woodlover ที่หลงรักในไม้ ไม่ว่าจะเป็น งานไม้ หรือวัสดุไม้
วันนี้เราจะพาคุณไปใช้ชีวิตแบบ Woodlover กัน จะฟินกับงานไม้แค่ไหน ตามไปชมกันเลยค่ะ
จุดแรกขอเริ่มที่ “บางโพ” แหล่งรวมไม้ชนิดที่ว่าใครจะทำงานไม้ ต้องเลือกมาที่นี่เป็นอันดับต้นๆกันเลย บริเวณนี้มีร้านขายไม้ให้เลือกมากมาย นอกจากไม้ธรรมดาแล้ว ยังมีพวกงานไม้สำเร็จรูปที่ทำเสร็จไว้ให้เลือกซื้ออีกด้วย สำหรับใครที่สนใจอยากเริ่มทำงานไม้ก็ลองมาเดินเลือกซื้อไม้และอุปกรณ์แถวๆบางโพนี้ได้เลย รับรองว่าจะต้องได้ของครบจบในที่เดียวแน่นอน
พิกัด : ซอยประชานฤมิตร แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
ดูรายชื่อร้านขายไม้ที่เราลิสไว้ได้ที่นี่
หลังจากเดินเลือกซื้อของจนเหนื่อยแล้วเราขอไปพักยืดเส้นยืดสายกันที่ Let’s Relax Spa & Onsen ทองหล่อ กันดีกว่า ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น ก็สามารถเปิดประสบการณ์ใหม่ในรูปแบบของออนเซ็นตามวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ๆได้ แถม Woodlover คงจะต้องถูกใจกันมากๆ
ที่นี่ตกแต่งอย่างสวยงามในสไตล์โมเดิร์นคอมเทมโพรารีผสมกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแบบเต็มๆ ภายใต้โทนสีไม้อ่อนๆ และความสงบนิ่งแบบตะวันออก ตั้งแต่สวนหินและผนังไม้สานบริเวณทางเข้า เชื่อมต่อไปถึงเคาน์เตอร์ต้อนรับที่อุ่นด้วยวัสดุไม้ทั้งพื้น ผนัง ไปจรดเพดาน พร้อมกับห้องนั่งเล่นที่ดูผ่อนคลายด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ผสมหวายในบรรยากาศแบบเอิร์ธโทนทั้งหมด แถมยังเพิ่มลูกเล่นด้วยไม้ไผ่ฝานเฉพาะตรงกลางมาปิดผิวผนังเป็นดีไซน์พิเศษบริเวณทางเดิน นอกจากได้ผ่อนคลายกับออนเซ็นแล้ว บรรยากาศแบบไม้ๆ นี่ก็ทำให้ Woodlover ฟินกันไปข้างนึงเลยทีเดียว
พิกัด : ชั้น 5 โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พ้อยท์ สุขุมวิท 55 (ระหว่างทองหล่อซอย 8 กับซอย 10) เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ 0-2042- 8045-6
เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 น. -24.00 น.
<www.letsrelaxspa.com>
หลังจากผ่อนคลายกันไปแล้ว ก็ไปหาอาหารลงท้องกันดีกว่า วันนี้จะต้องฟินกับบรรยากาศไม้ๆกันให้สุดไปเลย เรามุ่งหน้าไปที่ ร้าน Thai Lao Yeh (ไทย-ลาว-เย่) ร้านอาหารไทย 4 ภาค ที่รวบรวมเมนูอาหารของภาคต่างๆ ไว้มากมาย และเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นไทย ตั้งแต่การออกแบบร้าน ไปจนถึงรายละเอียดในการเลือกใช้วัสดุจากภาคต่างๆในการประดับตกแต่งร้าน
โดยเฉพาะเครื่องเรือนและของใช้พื้นบ้าน ที่สะท้อนความเป็นไทย มีการตกแต่งจะเน้นสไตล์ไทยคลาสสิค ในโทนสีขาวแซมด้วยไม้ โดยฝ้าเพดานยกสูงเหมือนอาคารสมัยก่อน และตัวผนังร้านทำจากไม้เก่ากว่า 100 ปี และยังเพิ่มเสน่ห์โดยการใช้ ภาพหนังสือพิมพ์เก่าติดกับผนังร้าน และประดับเพดานร้านด้วยกรงนกจากงานหัตถกรรม สะท้อนถึงบรรยากาศของความเป็นพื้นบ้านอีกด้วย
พิกัด : โรงแรม The Cabochon Hotel ซอยสุขุมวิท 45 กรุงเทพมหานคร 10110
เปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.30 น. – 14.00 น. และ 18.00 น. – 23.00 น.
โทร : 0-2259-2871
Website : www.cabochonhotel.com
หลังจากทานอาหารเสร็จ วันนี้เราจะไม่กลับบ้าน แต่จะไปนอนกันที่ CHANN Bangkok Noi โรงแรมที่มีกลิ่นอายความเป็นไทยอย่างเต็มเปี่ยม แวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญและชุมชนริมคลองบางกอกน้อย ซึ่งสะท้อนวิถีชีวิตริมน้ำและวัฒนธรรมไทยได้อย่างมีเอกลักษณ์ โรงแรมแห่งนี้โดดเด่นด้วยการเลือกใช้วัสดุอย่าง “ไม้” เพื่อแสดงถึงเอกลักษณ์ของ “บ้านไทยสมัยก่อน”
ลักษณะอาคารเป็นบ้านสองชั้น จำนวน 4 หลังที่เชื่อมต่อพื้นที่กันด้วย “ชาน” ซึ่งเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของพื้นที่แต่ละส่วนเข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีคอร์ตยาร์ดบริเวณโถงกลางบ้านที่มีลักษณะแบบดับเบิลสเปซ โดยทำหลังคาโปร่งแสงคลุมและให้แสงธรรมชาติส่องผ่านลงมาสู่สวนสีเขียวชอุ่มด้านล่าง ไฮไลท์อีกมุมหนึ่งสำหรับการพักผ่อนคือ บริเวณชานริมแม่น้ำซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้มาเยือนจะได้ใช้เวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศอันสวยงามของริมน้ำ พร้อมรอชมดวงอาทิตย์ตกดิน แน่นอนว่าบรรยากาศของที่นี่จะทำให้ Woodlover ฟินกันอย่างแน่นอน
CHANN Bangkok Noi 30/1 ซอยริมคลองบางกอกน้อย วัดดุสิดาราม ถนนพระปิ่นเกล้า เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0-2435-5997 www.channbangkoknoi.com / CHANN Bangkok-Noi
เรื่อง : Tatsareeya S.
คลังภาพบ้านและสวน, room
ONE DAY TRIP : ทริปวันเดียว เที่ยวเจริญกรุง
เช้าจรดค่ำ ย่ำไปติดเกาะรัตนโกสินทร์
l l l l l l l l l