ในยุคเฟื่องฟูของธุรกิจดิจิทัล เทคโนโลยีสุดล้ำไม่ได้เพียงแต่พาเราไปสัมผัสประสบการณ์ออนไลน์แปลกใหม่เท่านั้น แต่ยังนำไปสู่วัฒนธรรมการทำงานรูปแบบใหม่สำหรับชาวดิจิทัลผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างประสบการณ์เหล่านั้นอีกด้วย ในเมื่องานออนไลน์ที่ไม่มีวันหลับใหลนั้นล้วนต้องการความยืดหยุ่นคล่องตัว และการระดมสมองอย่างเข้มข้นการออกแบบ “ออฟฟิศ” ที่สามารถตอบโจทย์การทำงานดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน จึงเป็นงานท้าทายและน่าจับตาสำหรับยุคนี้
Mr.Eric Bui -Head of Operations ของ ShopeeThailand บอกเล่าถึงออฟฟิศใหม่ล่าสุดย่านพระราม 9 หลังจากแยกตัวออกมาจากออฟฟิศบริษัทแม่ Garena Thailand ผู้ให้บริการเกมส์ออนไลน์ยักษ์ใหญ่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาในฐานะผู้ให้บริการตลาดซื้อขายออนไลน์ที่มีทั้งแพลต์ฟอร์มเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นมือถือ Shopee คือสตาร์ทอัพไฟแรงที่กำลังรุกตลาดอี-คอมเมิร์ซไทยและนั่นยิ่งทำให้พื้นที่ออฟฟิศแห่งนี้ต้องรองรับทั้งการเติบโตแบบก้าวกระโดด ไปพร้อมๆ กับการสร้างความสะดวกสบายและความสุขให้กับสมาชิกทุกคน
“Shopee เป็นธุรกิจที่เกิดจากการ“connect” ระหว่างผู้คน ภายใต้อัตลักษณ์ของแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย มีความเป็นกันเอง เปี่ยมความคิดสร้างสรรค์ แม้ว่าจะเป็นธุรกิจดิจิทัล แต่เราเชื่อว่าเทคโนโลยีไม่อาจทดแทนปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนได้ออฟฟิศของเราจึงพยายามเปิดโล่งให้มากที่สุดเพื่อสนับสนุนให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้ตลอดเวลา”
พื้นที่ออฟฟิศกว่า 3000 ตารางเมตรนี้ได้รับการออกแบบโดย SENSE SIGN สตูดิโออินทีเรียดีไซน์มากประสบการณ์ ภายใต้การดูแลของสองดีไซเนอร์ คุณพาณิน จันทะเลิศ และคุณวิศรุต สุขสมัยที่ได้ตีความอัตลักษณ์และวัฒนธรรมขององค์กรให้กลายเป็นสเปซที่สะท้อนถึงความเป็น Shopee ในบรรยากาศที่มีพลัง เปี่ยมชีวิตชีวาสำหรับคนรุ่นใหม่
OPEN SPACE/OPEN-MINDED
ด้วยรูปแบบขององค์กรที่ไม่มีลำดับชั้นระหว่างผู้บริหารและพนักงานมากนัก การทำงานจึงเป็นไปในลักษณะของการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดของทุกฝ่ายพื้นที่ภายในออฟฟิศได้รับการออกแบบให้เปิดโล่งเพื่อให้เอื้อต่อการระดมสมอง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั้งยังสะท้อนถึงความโปร่งใสในการทำงาน โซนโต๊ะทำงานไม่มีพาร์ทิชั่นแบ่งกั้นหรือแม้แต่ห้องส่วนตัวสำหรับผู้บริหาร เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่เปิดกว้างอย่างแท้จริง รวมถึงในส่วนของห้องประชุมก็เลือกใช้ผนังกระจกเพื่อคงแนวคิดของความโปร่งโล่งและความต่อเนื่องของสเปซไว้
WORK – LIFE INTEGRATION
นอกเหนือไปจากแนวคิดในงานออกแบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน พื้นที่ส่วนกลางก็เป็นหัวใจสำคัญของ Shopee ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารขนาดใหญ่พร้อมแพนทรี่ ตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติ มุมเล่นเกม และมุมพักผ่อนที่สอดแทรกไปกับพื้นที่ทำงาน สะท้อนถึงแนวคิดในการหลอมรวมชีวิตทำงาน และไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของสมาชิกกว่า 300 คน เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ ซึ่งสภาพแวดล้อมที่ดีและวิถีชีวิตที่ลงตัวนี้เองที่นำไปสู่ความสุขในการทำงาน และกลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของบริษัทในที่สุด
และด้วยสเปซที่ตอบโจทย์ และดีไซน์ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ เมื่อผสานกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ว่าจะไม่มีโลโก้บ่งบอกทำให้รู้ได้ทันทีที่ก้าวเข้ามาว่าที่นี่คือ Shopee