เหตุผลที่นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกมาเยือนเกียวโต นั่นเป็นเพราะที่นี่ยังคงหลงเหลือความงดงามของปราสาทราชวังและวัดตามประเพณีโบราณ แบบญี่ปุ่นเอาไว้ได้อย่างยาวนานหลายร้อยปีจนถึงปัจจุบัน room in Kyoto คราวนี้จึงขอพาคุณไปเยือน 3 สถานที่น่าสนใจในเกียวโต กับ 3 กิจกรรม ทั้งเดินทอดน่องชมบ้านเมือง ช็อปปิ้งตลาดเปิดท้ายของมือสอง และตื่นตากับสวนสีเขียวแบบรอบทิศ
JIZO-IN TEMPLE
วัดป่าไผ่แห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1367 แต่อาคารที่เห็นในปัจจุบัน สร้างขึ้นในปี 1935 เนื่องจากเกิดเพลิงไหม้จากสงครามโอนินใน คริสต์ศตวรรษที่ 15 เหตุผลที่เราอยากชวนคุณมาเที่ยวที่วัดแห่งนี้ เพราะภาพความประทับใจบริเวณปากทางเข้าวัดที่ปกคลุมไปด้วยป่า ไผ่และต้นเมเปิ้ลสูงชะลูด มองขึ้นไปจะพบแต่สีเขียวของยอดไม้ จนแทบไม่เห็นท้องฟ้า แม้กระทั่งผืนดินและแผ่นหินก็ปกคลุมไปด้วยสีเขียวของมอสส์ รายล้อมด้วยความเงียบสงบจนได้ยินเสียงแมลงชัดเจน หรือแม้แต่เสียงกระซิบเบา ๆ ก็ยังรู้สึกว่าดังกว่าที่เคย
หากอยากมาเที่ยวที่นี่บ้าง สามารถมาชมกันได้ตลอดปี ว่ากันว่าฤดูใบไม้ร่วงช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนจะได้สัมผัส บรรยากาศของผืนป่าอีกฟีลหนึ่ง เพราะต้นเมเปิ้ลจะผลัดใบเป็นสีแดงตัดกับสีเขียวของป่าไผ่ รวมถึงภาพความงามของใบไม้สีแดงที่ร่วงหล่น กระจายตัวอยู่บนพื้นมอสส์เขียวชอุ่ม
CITY TIP : เนื่องจากเมืองหลวงเก่าแห่งนี้มีโบราณสถานอันทรงคุณค่าอยู่มาก ทำให้ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝ่ายสัมพันธมิตรไม่ทิ้งระเบิดลงที่นี่ เกียวโตจึงเป็นเมืองที่ยังคงหลงเหลือความงามของโบราณสถานและการจัดผังเมืองแบบดั้งเดิม เสมือนเป็นบทบันทึกประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นที่ยังมีลมหายใจ
TRAVEL GUIDE
– นั่งรถไฟ JR Kyoto Line ลงสถานี Katsuragawa แล้วขึ้นรถเมล์สาย 69 ได้เลยที่หน้าสถานีรถไฟ จากนั้นมาลงป้าย Matsuodairichoเดินเท้าต่อราว 10 นาที
– นั่งรถไฟ Hankyu Railway Arashiyama Line ลงที่สถานี Kami-katsura เดินเท้าต่ออีก 13 นาที
TOJI TEMPLE
วัดโทจิเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในเกียวโต นอกจากตัววัดแล้ว ตลาดนัดวัดโทจิก็โด่งดังไม่แพ้กัน เพราะเป็นแหล่งรวบรวมผู้คนจากทั่วสารทิศมาค้าขาย และจับจ่ายซื้อของใช้ที่ถูกใจ จึงต้องรีบมาตั้งแต่ตลาดเริ่มเปิดตอน 7 โมงเช้า บนพื้นตั้งแต่ประตูทางเข้าวัด ไปจนถึงลานกว้างจะคลาคล่ำไปด้วยของมือสองทุกประเภท ตั้งแต่เข็มกลัด นาฬิกา ของเล่น ถ้วยชาม เซรามิก หนังสือ กล้องถ่ายรูป แผ่นเสียง ผ้ากิโมโน ไปจนถึงของชิ้นใหญ่อย่างเฟอร์นิเจอร์และงานไม้แกะสลัก เรียกว่าให้เวลากันทั้งวันก็ยังช็อปไม่เสร็จ (ถ้าเงินในกระเป๋ายังไม่หมดไปเสียก่อน)
สามารถเช็กวันเปิดตลาดนัดในวัดและอีเว้นต์อื่นๆของเมืองเกียวโตได้ที่ www.kyotoguide.com ในหัวข้อ Kyoto Annual Events
STORY OF JAPANESE GARDEN ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่ากว่าเราจะเข้าไปถึงตัวสิ่งก่อสร้างได้นั้น ต้องเดินผ่านสวนที่มีทั้งพืชพรรณ น้อยใหญ่และแหล่งน้ำที่ช่วยส่งเสริมให้สิ่งก่อสร้างนั้นดูงดงามและยิ่งใหญ่มากขึ้น แท้จริงแล้วสวนญี่ปุ่น ได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาชินโตที่สอนให้เคารพธรรมชาติ และเปรียบสวนเป็นเสมือนพื้นที่สําหรับต้อนรับเหล่าทวยเทพที่เสด็จลงมา เยือนโลก โดยรูปแบบการจัดสวนมักเปลี่ยนแปลงไปตามความนิยมของแต่ละยุค ตั้งแต่สวนที่รักษาสภาพ แท้จริง ตามธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด สวนที่มีการจัดแต่งองค์ประกอบให้พ้องกับคติความเชื่อ ไปจนถึงสวนหินอันเป็นทิวทัศน์แห้งแบบนามธรรมเพื่อเน้นการตีความ ตามทัศนะของมนุษย์
TRAVEL GUIDE : นั่งรถไฟ Kintetsu Kyoto Line ลงที่สถานี Toji
JINGU-MICHI
จุดหมายปลายทางคือ พิพิธภัณฑ์ใจกลางเมืองเกียวโต ได้แก่ Kyoto Municipal Museum of Art และ The National Museum of Modern Art ซึ่งมีแลนด์มาร์กสําคัญคือ เสาโทริอิสีแดงสูงถึง 24 เมตร คร่อมอยู่กลางถนน Jingu-Michi หลังลงจากรถไฟใต้ดิน เราลองเปลี่ยนเส้นทางจากบนถนนใหญ่ ลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยของหมู่บ้านเลียบริม ลําธารเส้นเล็กใสแจ๋ว ยิ่งเดินช้าลงก็ยิ่งมองเห็นรายละเอียดชัดเจนมากขึ้น ทั้งบ้านหลังเล็ก – ใหญ่แบบเก่า – ใหม่ที่รายล้อมด้วยยร่มไม้เขียวขจี จากสวนในบ้านและสวนของชุมชน แถมยังได้อิ่มใจกับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่มักพาลูกหลานออกมาวิ่งเล่นตามธรรมชาติ
TRAVEL GUIDE : นั่งรถไฟใต้ดิน Kyoto Municipal Subway สาย Tozai Line ลงที่สถานี Higashiyama แล้วเดินเท้าเลียบริมแม่น้ำต่อ 8 นาที