ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมรวมถึงการขยายตัวของเมืองอย่างต่อเนื่องในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ชาวเมืองใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวขึ้นเรื่อย ๆ และนั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการที่ผู้คนยุคนี้ต้องการสร้างชุมชนของตัวเองและใช้ชีวิตอย่างพึ่งพาอาศัยกันมากขึ้นสักพักใหญ่แล้วที่เราได้ยินคำว่า Co-living ในฐานะของ “สเปซ” สุดฮิปสำหรับอาศัยร่วมกัน และแนวโน้มการรวมบ้านนี้ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วโลกโดยเฉพาะในฝั่งโลกตะวันตก
“ผู้คนในอนาคตจะกลายเป็นคนไร้บ้าน” James Scott ตัวแทนของ The Collective ผู้พัฒนาอาคารพักอาศัยแบบ Co-living ในลอนดอนได้กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์กับ dezeen.com เขามองว่าคนรุ่นใหม่อาจไม่ได้ต้องการ “กรรมสิทธิ์” หรือความเป็นเจ้าของบ้านเท่ากับคนรุ่นพ่อแม่ของเรา คนเจนวายมีครอบครัวช้าและให้ความสำคัญกับประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น ที่พักอาศัยในยุคหน้าจึงอาจเป็นเรื่องของ “การให้บริการที่อยู่อาศัย” มากกว่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
The Collective Old Oak คือตัวอย่างหนึ่งของอาคารที่รวมบ้านพัก ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงยิม Co-working Space ไว้ในอาคารเดียวกลางกรุงลอนดอน และเปิดบริการให้เช่าอยู่อาศัยในระยะยาวไม่ต่างจากการผสาน “หอพัก” และ “โรงแรม” เข้าด้วยกัน
นอกจากนี้การอยู่อาศัยในรูปแบบ Cohousing ก็กำลังได้รับความนิยมด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นชุมชนผู้สูงอายุที่ไม่ต้องการอยู่บ้านพักคนชรา Cohousing ของศิลปินหรือชาวฟรีแลนซ์ที่เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำงานร่วมกัน หรือชุมชนที่มีสมาชิกหลากหลายทั้งคนโสด ครอบครัว ผู้สูงอายุ ผู้พิการเพื่อพึ่งพาอาศัยกันตั้งแต่ 6 ครอบครัวไปถึงหลายสิบครอบครัว
Cohousing เกิดขึ้นครั้งแรกในเดนมาร์กในช่วงยุค 60 ภายใต้ชื่อ Sættedammen เป็นการรวมกลุ่มของหลาย ๆ ครอบครัวที่มีความต้องการตรงกันมาอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกันจนกลายเป็นชุมชนขนาดย่อม โดยแต่ละครอบครัวมีพื้นที่บ้านส่วนตัว แต่จะแชร์พื้นที่ส่วนกลางและสาธารณูปโภคซึ่งแบ่งสรรปันส่วนกันรับผิดชอบ โดยไม่มีนิติบุคคลมาคอยดูแลเก็บค่าส่วนกลาง ดังนั้นรูปแบบการบริหารจัดการและกิจกรรมภายในชุมชนจึงเป็นสิ่งที่สมาชิกทุกคนสนใจจริง ๆ Cohousing ส่งผลต่อรูปแบบงานสถาปัตยกรรมรวมไปถึงการวางผังที่ต้องหลอมรวมพื้นที่อยู่อาศัยพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร สนามหญ้าและสนามเด็กเล่น และระบบสาธารณูปโภคเข้าด้วยกันเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานโดยรวม
และด้วยรูปแบบของการแชร์พื้นที่ส่วนกลางและสาธารณูปโภค Cohousing จึงช่วยสร้างความยั่งยืนด้านการใช้ทรัพยากรทั้งด้านการก่อสร้างและค่าบำรุงรักษาพื้นที่ส่วนกลางที่ทุกคนช่วยกันรับผิดชอบ นอกจากนี้การใช้พลังงานร่วมกันยังช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวมในระยะยาว แนวคิดนี้จึงเป็นอีกหนึ่งความหวังที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเพื่อช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยในหลาย ๆ เมือง รวมถึงการสร้างชุมชนเพื่อตอบรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคตอันใกล้ จึงอยู่ที่ว่าทั้งภาครัฐและเอกชนจะกระตุ้นให้การก่อตั้งและก่อสร้าง Cohousing เกิดขึ้นในรูปแบบใดและจะบริหารจัดการในระยะยาวอย่างไร
อ่านทั้งหมดของเรื่อง สถาปัตยกรรมพร้อมอาศัย
สถาปัตยกรรมพร้อมอาศัย EP1 : READY TO LIVE IN สถาปัตยกรรมพร้อมอาศัยในวันที่ “บ้าน” ไม่เพียงพอสำหรับทุกคน
สถาปัตยกรรมพร้อมอาศัย EP2 : MADE IN WAR กำเนิดจากซากปรักหักพัง
สถาปัตยกรรมพร้อมอาศัย EP3 : AFTER DISATERS ความหวังหลังภัยพิบัติ
สถาปัตยกรรมพร้อมอาศัย EP4 : NEAVE BROWN สถาปนิกผู้บุกเบิก
สถาปัตยกรรมพร้อมอาศัย EP5 : SUSTAINABILITY เคหะยั่งยืน
สถาปัตยกรรมพร้อมอาศัย EP6 : COHOUSING ชุมชนรวมบ้าน
สถาปัตยกรรมพร้อมอาศัย EP7 : GENTRIFICATION หรือคนจนไม่ควรอยู่ในเมือง
สถาปัตยกรรมพร้อมอาศัย EP8 : LAST SHELTER ราคาของวาระสุดท้าย
สถาปัตยกรรมพร้อมอาศัย EP9 : HOUSES FOR EVERYONE บ้านสำหรับทุกคน
เรื่อง : Monosoda, กรกฏา
TOTAL NEW LOOK! พบ room โฉมใหม่ฉบับราย 2เดือน ได้ 1 พ.ย. นี้ เล่มนี้ว่ากันด้วยเรื่องราว
Design Cases
– Residential : Riz Carlton Residences Bangkok ห้องพักหรูระฟ้าบนตึกมหานคร
– Bar : Soi 16 บาร์เปิดใหม่กลางเมืองพัทยา
– Restaurant : Nowhere ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นบนรู
Theme
– Design Documentary : สถาปัตยกรรมพร้อมอาศัยในวัน
– Special Scoop : 20 Best Design housing of 2017 รวมโครงการอยู่อาศัยที่เราว
Home
– TRIANGLE HOUSE เรื่องราวของรูปสามเหลี่ยมก
– READY-TO-PAINT CANVAS อิสระในการอยู่อาศัย เติมเต็มชีวิตให้บ้านไม่ต่า
– HUAMARK 09 บ้านมิกซ์ยูสรวมฟังก์ชันออฟ
Inspiration
Product
– Ong-Orn แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไม้ เข้าถึงตัวตนผู้ใช้ด้วยการผ
Material
– แนะนำพรมรุ่นใหม่จาก Express Carpet ตอบโจทย์ดีไซน์ที่หลากหลายข
Event
– Dyson Singapore Technology Centre ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีของไดสั
สอบถามสั่งซื้อนิตยสาร Room ได้ที่ช่องทางต่อไปนี้
1. ฝ่ายสมาชิกนิตยสาร Room: โทร 02-423-9889
2. ID Line : @naiinfanclub
3. Inbox FB : www.facebook.com/messages/
4. Website naiin.com : naiin.com/