// กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่คนญี่ปุ่นมาได้ง่าย
อยู่สบาย อาหารอร่อย ผู้คนน่ารัก //
ในสายตาชาวต่างชาติผู้ชื่นชอบความเรียบง่ายสบาย ๆ สไตล์คนไทย หนึ่งในนั้นมีชาวญี่ปุ่นอย่าง คุณได โมงิ ช่างภาพ และครีเอทีฟไดเร็คเตอร์แห่งร้าน BOY Rikyu รวมอยู่ด้วย หลังจากคุณไดได้มาเที่ยวเมืองไทยก็รู้สึกประทับใจหลาย ๆ อย่าง จนกระทั่งได้รับข้อเสนอให้มาลองเปิดซาลอนที่กรุงเทพฯ เขาจึงไม่ลังเลที่จะตกปากรับคำทันที จากวันนั้นนับเป็นจุดเริ่มต้นของการมาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยเป็นเวลากว่า 5 ปี แล้ว โดยมี Open Air Studio มาช่วยเป็นผู้ออกแบบห้องใหม่ให้ในครั้งนี้
“ร้าน BOY เป็นสาขามาจากโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นของคุณพ่อผมเอง ก่อนหน้านี้ผมเป็นศิลปินอยู่นิวยอร์ก แล้วบังเอิญได้พบกับเพื่อนชาวไทยที่กำลังจะกลับเมืองไทยพอดี ได้เข้ามาชักชวนว่าทำไมไม่ลองทำอะไรสักอย่างที่เมืองไทยด้วยกันดูละ จากคำชวนนั้นผมจึงมาเปิด International Salon เพราะมีพื้นฐานด้านการทำผมมาก่อน และที่บ้านก็สอนวิธีการ รวมถึงคำแนะนำและไอเดียมาเยอะ พอเปิดร้านแล้วก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากจนตอนนี้เป็นปีที่ 5 แล้ว ที่นี่มีแตกต่างของผู้คนและวัฒนธรรมหลากหลาย ผมสามารถคิดแบบเดียวกันกับตอนที่ผมอยู่ญี่ปุ่นได้ ร้านจึงเติบโตมีถึง 2 สาขามาถึงวันนี้”
ก่อนหน้าที่จะย้ายมาอยู่ที่นี่ คุณไดเล่าว่าเคยอยู่ห้องพักใกล้กับร้านเดิมมาก่อน แต่ยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ จนได้มาพบที่นี่ “คอนโดฯที่เดิมสะดวกสบายมาก แต่ผมว่าใหม่เกินไป พอมาพบกับที่นี่ ผมชอบเพราะเก่าดี บางทีเราอาจไม่ได้อยากอยู่ในสถานที่ใหม่ ผมชอบอาคารเก่าที่ยังมีความรู้สึกและกลิ่นอายแบบไทยผสมอยู่”
เมื่อพูดถึงการใช้พื้นที่ภายในห้องพัก แน่นอนว่าสถานที่รวมกลุ่มเพื่อน ๆ ให้เข้ามาปาร์ตี้กินดื่มกันอย่างสนุกสนาน อย่างห้องครัว จึงถือเป็นใจความหลักของการออกแบบ เห็นได้จากขนาดของเคาน์เตอร์ครัวที่ค่อนข้างมีขนาดใหญ่ เหมาะกับการประกอบอาหารและนั่งพูดคุยกับเพื่อน ๆ ได้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงมีโต๊ะกลางอเนกประสงค์ขนาดโอเวอร์ไซส์ที่ใช้งานได้สารพัดประโยชน์ มุมนี้จึงหนีไม่พ้นที่จะกลายเป็นมุมโปรดของคุณได “เพราะผมเชื่อว่า ครัวคือจุดที่คนมาแฮ้งเอ๊าต์ร่วมกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ”
เพราะเป็นคอนโดมิเนียมเก่า จากเดิมที่ถูกซอยย่อยให้เป็นห้องเล็กห้องน้อย ดีไซเนอร์ก็ปรับให้เปิดโล่งทั้งหมดเพื่อให้ลมพัดผ่านเข้ามาทั่วถึงทั้งห้อง “ผมคิดว่าสิ่งสำคัญของบ้าน คืออากาศ ความเคลื่อนไหวของอากาศและลม รวมทั้งแสงสว่างจากธรรมชาติ เหมือนกับที่คุณรู้สึกได้เวลาไปที่ร้านของผมทั้ง 2 สาขา การปรับปรุงห้องนี้จึงรื้อผนังและฝ้าเพดานออก และอีกอย่างที่ชอบมากคือไม้แดง ที่จริง ๆ สีเข้มมากเกือบดำ เราก็มาย้อมให้สีมันอ่อนลง”
โดยส่วนตัวแล้ว คุณไดชอบงานอินทีเรียร์สไตล์มินิมัลแบบขาวสะอาด อย่างที่ปรากฏให้เห็นในร้านของเขา ทั้งสาขาสุขุมวิท 24 และสยามสแควร์ แต่เมื่อได้รับคำแนะนำจากดีไซเนอร์ว่าควรมีวัสดุธรรมชาติเข้ามาบ้าง เขาจึงเลือกใช้ไม้เก่าที่ซื้อจากพระนครศรีอยุธยามาตกแต่งตามส่วนต่าง ๆ โดยยังคงพื้นผิวและสภาพของเนื้อไม้ไว้เช่นเดิม เพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่นให้ห้องพัก
“หลังจากที่อยู่ไปสักพัก ผมก็คิดว่าที่ดีไซเนอร์พูดนั้นถูกเลย แต่ก็ยังมีบางทีที่ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้า เห็นฝ้าเพดานแล้วก็แอบบ่นกับตัวเองว่าทำไมสกปรกจัง (หัวเราะ) แต่นั่นก็เปิดโลกใหม่ให้กับผมเลยว่า ถ้าอยากทาสี ทาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ธรรมชาติของวัสดุ เราทำเองไม่ได้”
และแล้วพื้นที่แห่งนี้ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้สมบูรณ์ดังใจหวัง นอกจากเพื่อน ๆ มากหน้าหลายตาที่แวะเวียนมาสังสรรค์กันอยู่เสมอแล้ว พื้นที่ทำงานเล็ก ๆ ของคุณได โมงิ ยังเป็นซาลอนส่วนตัวให้กับคุณพ่อเวลาแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนลูกชายที่กรุงเทพ ฯ เรียกได้เต็มปากว่าเป็นพื้นที่แห่งไอเดียที่ล้อมรอบด้วยความรักจากเพื่อนฝูงและครอบครัว ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจได้ทุกวันจริง ๆ
เจ้าของ : คุณได โมงิ
ออกแบบ : Open Air Studio โทร. 0-2676-0707 www.openairstudio.com
