บางทีคุณอาจกำลังมองหารองเท้าผ้าใบแรร์ไอเท็มสักคู่ เพราะการใส่รองเท้าเหมือนคนอื่นนั้นไม่ใช่สไตล์ของคุณสักเท่าไหร่ และบางที ‘24 KILATES BANGKOK’ ร้านขายรองเท้าที่เกิดจากความหลงใหลอย่างแท้จริงอาจเป็นจุดหมายปลายทางที่คุณกำลังตามหา
นอกจากคอลเล็คชั่นเสื้อผ้า และรองเท้าหายากที่ทางร้านเสาะหา และรวบรวมมาจากทั่วทุกมุมโลกแล้ว ที่มาของร้านไปจนถึงแนวคิดการออกแบบก็น่าสนใจไม่แพ้กัน และนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้บรรดาสาวกผู้คลั่งไคล้รองเท้าผ้าใบทั้งชาวไทยและต่างชาติ ยกให้ 24 KILATES BANGKOK เป็นหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ต้องแวะเวียนมาตามหารองเท้าในฝันไว้ในครอบครอง
จุดเริ่มต้นของ 24 KILATES BANGKOK มาจาก คุณตี้-จิรพงศ์ สภาคกุล เจ้าของร้านนักสะสมของวินเทจยุค 80 และ 90 เมื่อเพื่อนสนิทชาวสเปนอย่าง Mr. Pol Fanlo และ Mr. Ricardo Lu มาเยี่ยมเยือนบ้าน และเห็นของคอลเล็คชั่นของสะสมจึงชักชวนกันเปิดร้านนี้ขึ้น ต่อเนื่องจาก 24 KILATES สาขาแรกที่ประเทศสเปน ในช่วงนั้น คนทั่วไปยังมีมุมมองว่ารองเท้าผ้าใบคือรองเท้าวิ่งหรือรองเท้าเทนนิสเท่านั้น แต่มาถึงวันนี้ รองเท้าผ้าใบกลับไม่ได้เป็นเพียงรองเท้าที่สำหรับใส่เล่นกีฬาอีกต่อไป แต่กลายเป็นตัวแทนที่สะท้อนรสนิยม และคาแรกเตอร์ของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดีไม่ต่างจากสินค้าแฟชั่นชิ้นอื่นๆ
แนวคิดในการออกแบบสาขาหัวหมาก
ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะทำให้ร้านนี้เป็นจุดหมายปลายทางของคนรักรองเท้าผ้าใบ ดังนั้น การออกแบบ และตกแต่งร้านจึงมีความสำคัญมาก ทางผู้ออกแบบคือ Mr. Chu Uroz สถาปนิกจาก External Reference Architects บริษัทออกแบบชื่อดังจากเมืองบาเซโลนา ประเทศสเปน รับหน้าที่ออกแบบให้ร้านแตกต่างอย่างมีสไตล์ ด้วยตีความจากชื่อร้าน 24 KILATES ซึ่งในภาษาสเปนหมายถึง ทอง 24 กะรัต ซึ่งเป็นทองคำเนื้อบริสุทธิ์ที่สุด มีเปอร์เซนต์ทองเป็นส่วนผสม 99.99% ยิ่งเมื่อรวมกับสินค้าล้ำค่าหายากของร้านที่เป็นรองเท้ารุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นทั้งหมด จึงเกิดแนวความคิดในการตกแต่งร้านในรูปแบบของห้องนิรภัยธนาคาร เพื่อเก็บรักษารองเท้าผ้าใบรุ่นหายากเหล่านั้น โดยเลือกใช้สีทองสุดโดดเด่นเพื่อสะท้อนถึงชื่อร้าน
รายละเอียดการออกแบบที่สมจริง ช่วยสร้างบรรยากาศเหมือนห้องนิรภัยที่ธนาคารระดับโลกให้บริการเก็บรักษาทรัพย์สินมีค่า ลูกค้าจึงได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ และช่วงเวลาที่พิเศษกว่าเคยในการเลื่อนแต่ละช่องลิ้นชักที่ไล่เรียงรายไปตามผนังสูงจรดเพดาน ออกมาเพื่อเลือกชมรองเท้าผ้าใบรุ่นหายาก
แนวคิดนี้ส่วนหนึ่งได้รับแรงบันดาลจากสมัยที่คุณตี้ยังเป็นดีเจ ซึ่งมักจะมีความสุขเสมอเวลาที่ได้พลิกเลือกแผ่นเสียงทีละแผ่นไปเรื่อยๆ เพื่อเลือกเพลง และต้องการถ่ายทอดความรู้สึกนี้ผ่านการออกแบบ เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสถึงความสุขของการค้นหาก่อนจะพบรองเท้าผ้าใบคู่โปรดนั่นเอง
นอกจากสาขาใหญ่ที่อยู่รามคำแหง 24 แยก 20 ซอย 13 แล้วยังมี Pop-Up Store ที่สยามสแควร์ ซอย 7 ไว้บริการลูกค้าอีกสาขา รวมถึงสาขาทองหล่อที่กำลังจะเปิดในอีกเร็วๆ นี้ด้วย ซึ่ง Pop-Up Store นี้ ทางคุณตี้และหุ้นส่วนก็ให้ความสำคัญด้านการออกแบบไม่แพ้สาขาใหญ่ โดยได้ Mr.Chu Uroz มารับหน้าที่ออกแบบให้เช่นเคย โดยใช้เวลาออกแบบก่อสร้างเพียง 2 เดือนเท่านั้น ความพิเศษอยู่ที่การเลือกใช้วัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์ซึ่งให้ผิวสัมผัสเดียวกับปูนเปลือยขัดมัน มาตกแต่งภายในร้าน ทั้งในส่วนของชั้นโชว์รองเท้า และเคาน์เตอ์ รวมไปถึงแพทเทิร์นกราฟฟิกเส้นสายเฉียบคมที่ช่วยสร้างแรงดึงดูด และความน่าสนใจให้กับร้าน
“ร้านของเราขายความแตกต่าง ทั้งความแตกต่างของสินค้า การบริการรวมไปถึงแนวความคิดในการออกแบบร้าน เพราะเราให้ความสำคัญกับความประทับใจของลูกค้า โดยเฉพาะเรื่องรายละเอียดต่างๆ เพราะสินค้าของเราเป็นสินค้าพรีเมี่ยม ทุกอย่างจึงต้องพรีเมี่ยมให้สมราคา”
แนวคิดในการออกแบบสาขาสยาม
เมื่อต้องการสร้างความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ และเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่งให้กับผู้ใช้พื้นที่ ผู้ออกแบบจึงเลือกใช้ลายกราฟฟิกเรขาคณิต ที่เน้นเส้นสายเฉียงเฉียบคม และสีสันสดใสเพื่อเพิ่มบรรยากาศสนุกให้กับร้าน
ออกแบบ External Reference Architects
ติดต่อ: www.24-kts-bkk.com
โทร. / WhatsApp: 08-9333-2424
Line ID: @24kilatesbkk
เรื่อง Ektida N.
ภาพ เอกสารประชาสัมพันธ์