Milan Design Week มหกรรมของงานออกแบบของเมืองมิลาน ในปีนี้เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 9-14 เมษายน แม้หลายปีที่ผ่านมาจะลดความตื่นตาตื่นใจลงไปบ้าง แต่ก็ยังคงเป็นที่ที่ดีไซเนอร์ ผู้ประกอบการ และผู้ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปปักหมุดไปเยี่ยมเยือน
Milan Design Week หรือ Milan Furniture Fair หรือสั้น ๆ ว่า Milan Fair ที่หลายคนเรียกกันติดปาก ประกอบด้วยงานสองส่วนหลัก ๆ อันได้แก่ ส่วนที่หนึ่ง Salone del Mobile ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าในศูนย์แสดงสินค้านอกเมืองที่ Rho Fiera จัดโดย Cosmit เดิมทีจะเป็นผู้ประกอบการในอิตาลีแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ ภายหลังจึงเริ่มมีผู้ประกอบการจากยุโรป หรือบริษัทชั้นนำจากเอเชียเข้าไปร่วมในฮอลล์ต่าง ๆ บ้าง ซึ่งผู้ประกอบการไทยอย่างแบรนด์ Deesawat, Prempracha, Mobella, Kenkoon, Touchable, Performax ก็ได้แสดงงานในส่วนนี้มาอย่างต่อเนื่อง
Salone del Mobile
ความใหญ่ของงานใน Rho Fiera กินพื้นที่แสดงสินค้าทั้งหมด 20 ฮอลล์ ราว 230,000 ตารางเมตร เรียกว่าถ้าแค่เลือกเดินเฉพาะฮอลล์ที่เป็นไฮไลท์ของแบรนด์ชั้นนำ (ราว 4-6 ฮอลล์) ก็เหนื่อยมากแล้ว และยังต้องใช้เวลามากกว่า 1 วัน นอกจากนี้ยังมีการแบ่งจัดงานครัว (Eurocucina) กับงานโคมไฟ (Euroluce) สลับกันปีเว้นปี ส่วนใครที่สนใจดีไซเนอร์รุ่นใหม่ก็ยังมีส่วน Salone Satellite สำหรับบู๊ธโชว์งานของดีไซเนอร์หน้าใหม่จากทั่วโลก ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งดีไซเนอร์หน้าใหม่(ในขณะนั้น)ของไทยก็มีไปแสดงในส่วนนี้อยู่เนือง ๆ อาทิ อานนท์ ไพโรจน์, Trimode Studio, Dots Design Studio เป็นต้น
ในช่วง 4-5 ปีหลัง การออกแบบโมเดลใหม่ ๆ ที่หวือหวา ดูลดลงไปพอสมควร จากสภาวะทางเศรษฐกิจยุโรป ดีไซน์จึงเน้นไปที่ความเรียบง่ายมากขึ้น และมีการปรับเรื่อง finishing ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น สีสันจะคุมโทน ต่อมาเน้นวัสดุธรรมชาติที่อบอุ่น ตามมาด้วยไม้ใบอารมณ์ Tropical และยังต่อเนื่องมาถึงปีนี้ ควบคู่ไปกับการรีดีไซน์โมเดลต่าง ๆ ที่มีเรื่องราวของการครบรอบ ปีนี้ Up 5 และ Up 6 ที่ออกแบบโดย Gaetano Pesce จากแบรนด์ B&B Italia ดูจะเป็นชิ้นงานที่โดดเด่นเป็นพิเศษ มีการฉลองครบรอบ 50 ปี ในพื้นที่แสดงนิทรรศการ S. Project ภายในแฟร์ และต่อเนื่องจากโมเดลยักษหน้า Duomo
แฟร์เกี่ยวกับไฟ Euroluce แบรนด์ใหญ่อย่าง Artemide และ Foscarini ยังคงเป็นบู๊ธที่น่าสนใจ ในส่วนนี้ยังมีแบรนด์ Ango ผู้ประกอบการไทยร่วมออกบู๊ธด้วย โดยแบรนด์ใหญ่ทางด้านไฟอีกแบรนด์อย่าง Flos ย้ายไปจัดงานรวมอยู่ใน S.Project อีกฮอลล์ ที่มีนิทรรศการด้านหน้าเป็น Interactive wall ว่าด้วยเรื่องการทำงานของอิตาลีกับดีไซเนอร์ต่าง ๆ จากทั่วโลก พร้อมทั้งส่วนหนึ่งจัดเป็นพื้นที่สำหรับการสร้างเน็ตเวิร์กของผู้ประกอบการกับอินทีเรียร์
โดยรวมเฟอร์นิเจอร์โมเดลใหม่ ๆ ปีนี้ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ที่สังเกตได้คือการสร้างพื้นผิวให้กับทั้งเฟอร์นิเจอร์และบู๊ธต่าง ๆ ดูจะมีมากขึ้น การทำระแนงเพิ่มแสงเงาให้กับผนัง รวมไปถึงการใช้ลวดลายของหินธรรมชาติที่ยังคงเป็นนิยมมาอย่างต่อเนื่อง คู่ไปกับโซฟากึ่งลำลอง ในสัดส่วนที่ไม่สูงทั้งเบาะนั่งและพนัก