ด้วยลักษณะที่ถูกล้อมด้วยโค้งน้ำเจ้าพระยาเชื่อมกับคลองลัดเกร็ด ทำให้บริเวณนี้มีลักษณะคล้ายเกาะจนเรียกต่อกันมาว่า “เกาะเกร็ด” ปัจจุบันยังไร้สะพานสำหรับรถยนต์ที่เชื่อมต่อกับถนนรอบข้าง ทำให้ภาพของธรรมชาติ วิถีชีวิต หรือแม้แต่งานสถาปัตยกรรมดั้งเดิมบนเกาะเกร็ดได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี
เช่นเดียวกับภาพของโรงสีไทยอุดมที่ตั้งตระหง่านผ่านเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงมานานกว่าร้อยปี ก่อนจะเปลี่ยนเป็น โรงสี สตูดิโอ ตามความตั้งใจของ คุณลิขิต สินสถาพรพงศ์ เจ้าของโครงการ
“ผมขับเรือเล่นแถวนี้อยู่เป็นประจำ สะดุดตากับโรงสีแห่งนี้ที่แม้จะรกร้างแต่ยังดูสวยงามและมีเสน่ห์ จึงติดต่อเจ้าของพื้นที่เพื่อขอเข้ามาชมภายใน ยิ่งได้เห็นโครงสร้างของโรงสีที่ทำจากไม้สักโบราณ ทั้งยังมีเครื่องจักรโบราณที่มีคุณค่ามหาศาล เลยอยากปลุกชีวิตมันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง”
แม้ว่าโรงสีไทยอุดมจะหยุดดำเนินกิจการมานานกว่า 40 ปีแล้ว แต่โครงสร้างหลักเกือบทั้งหมดยังใช้งานได้พอสมควร โดยเจ้าของโครงการได้เก็บรักษาสถาปัตยกรรมเดิมไว้ ทั้งรูปทรงอาคาร และการเลือกใช้วัสดุ ในส่วนที่ชำรุดก็จัดการก่อสร้างเเละต่อเติมวัสดุใหม่ให้ใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด ส่วนวัสดุหลักเป็น ‘ไม้สัก’ แม้จะผ่านกาลเวลามานานเพียงใดก็ยังคงความแข็งแรงและให้สีสันสวยงามชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณด้านหน้าของโรงสีที่ตั้งของเครื่องจักรไม้สักสำหรับสีข้าวด้วยระบบเครื่องยนต์ไอน้ำ ซึ่งน่าจะเหลืออยู่เพียงเครื่องเดียวในประเทศ ส่วนเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอื่น ๆ เน้นสไตล์อินดัสเทรียลและโคซี่ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของโกดังและของเก่าดั้งเดิมที่แฝงด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง
ส่วนที่เคยเป็นโกดังเก็บข้าวได้ปรับเปลี่ยนเป็นโถงใหญ่สำหรับนั่งรับประทานอาหารและจัดกิจกรรมในโอกาสต่าง ๆ เพื่อตอบรับกับความตั้งใจที่ต้องการให้สถานที่แห่งนี้เป็นสตูดิโอสร้างสรรค์ผลงานศิลปะและเกิดเป็นชุมชนของคนที่มีความรักในงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ในพื้นที่บริเวณดังกล่าวไปจนถึงระเบียงริมน้ำยังออกแบบเป็นมุมนั่งเล่นพร้อมโต๊ะที่นั่งเชื่อมต่อกับคาเฟ่ Milli Cafe ซึ่งบริการทั้งอาหารไทยและซีฟู้ดรสชาติอร่อย เช่น กุ้งแม่น้ำเผา ต้มยำกุ้งหน่อกะลา ทอดมันหน่อกะลา และชมพู่ม่าเหมี่ยวปั่น (ตามฤดูกาล) สามารถนั่งรับประทานไปพร้อมกับชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเพลิดเพลิน
ส่วนอาคารสำนักงานเก่า 2 ชั้นที่ตั้งอยู่ริมน้ำดัดแปลงเป็นห้องพักจำนวน 6 ห้อง ภายในตกแต่งอย่างเรียบง่าย โดยใช้โทนสีขาวคู่กับงานไม้สีธรรมชาติ เพื่อให้บรรยากาศดูโล่งและสบายตา เหมาะกับการพักผ่อนมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการแทรกเฟอร์นิเจอร์สไตล์โคซี่มินิมัล ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้ดูต่างไปจากเดิม
“เมื่อเริ่มปักหมุดทำโครงการนี้ เรามีความตั้งใจที่จะเก็บรักษาภาพเดิมของโรงสีเอาไว้ให้มากที่สุดและต้องเพิ่มคุณค่าให้พื้นที่ แต่อุปสรรคสำคัญคือการขนส่งอุปกรณ์และวัสดุตกแต่งทุกชิ้นข้ามแม่น้ำมาทางเรือ จึงอยากให้ทุกคนได้เข้ามาชื่นชมและเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่แห่งนี้”
แม่น้ำที่ไหลลดคดเคี้ยวไปตามพื้นดินเกิดเป็นลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายร้อยเรียงคู่ไปกับวิถีชีวิตของผู้คน แม้ปัจจุบันเส้นทางของคนกับสายน้ำจะค่อย ๆ แยกจากกันไป แต่ที่โรงสี สตูดิโอ ยังคงมีเส้นทางของสายน้ำโอบกอดทุกชีวิตและร่วมแสดงเรื่องราวบทใหม่ให้ดำเนินต่อไปบนคุณค่าเดิม
ที่ตั้ง
โรงสี สตูดิโอ
68 หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะเกร็ด อำภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
โทร.0-2082-8865
FB : Rongsi Studio
เจ้าของ : คุณลิขิต สินสถาพรพงศ์
เรื่อง : ปัญชัช
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ
“บ้านแม่น้ำ” จากโกดังสู่เกสต์เฮ้าส์ที่อยากเป็นบ้านและไม่ต้องการความโดดเด่นอื่นใด
Onsen At Moncham อนเซ็นกลางธรรมชาติแห่งแรกในเมืองไทย
AHSA FARMSTAY ฟาร์มสเตย์ไม้เก่า คลุกเคล้าวัฒนธรรมล้านนา