พื้นที่ชั้นล่างของอาคารมิกซ์ยูสแห่งหนึ่งย่านปุณณวิถีที่ถูกแบ่งให้ผู้สนใจเข้ามาเช่าพื้นที่ หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่นามว่า “Double S Specialty Coffee” คาเฟ่ปุณณวิถี ในกล่องใสคลีนสะอาดตา ดึงดูดความสนใจตั้งแต่แรกเห็น โดยทั้งหมดเป็นฝีมือการออกแบบของสถาปนิกจาก TOUCH ARCHITECT
“เมื่อดูจากบริบทของพื้นที่ตั้ง ซึ่งเป็นห้องเเบ่งเช่าที่อยู่ในอาคาร พร้อมกับขนาดพื้นที่ที่เล็กเพียง 35 ตารางเมตร ทำให้ยากต่อการออกแบบสเปซ ดังนั้นจึงเลือกที่จะออกแบบให้ คาเฟ่ปุณณวิถี แห่งนี้ มีความโปร่งโล่งที่สุด ทั้งยังต้องการให้คนสามารถมองเห็นบรรยากาศภายในร้านเเละชักชวนให้ลูกค้าอยากเข้ามา จึงตกแต่งพื้นที่เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนผ่านทางความรู้สึก โดยการเลือกใช้วัสดุที่ช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับพื้นที่ในเเต่ละฟังก์ชันแทน”
จากข้อจำกัดของพื้นที่สถาปนิกเลือกที่จะไม่แตะโครงสร้างของอาคาร แล้วสร้างเลเยอร์ซ้อนอีกชั้นด้านในด้วยแผงฟาซาดแบบบานเกล็ดใส ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากโรงคั่วกาแฟแบบโบราณที่ผนังมักใช้ไม้ตีซ้อนเกล็ด คงกลิ่นอายแบบรัสติก พร้อมการโชว์สัจวัสดุ แต่มีข้อจำกัดเรื่องของมุมมองและความทึบตัน ผู้ออกแบบจึงนำแพตเทิร์นนี้มาใช้โดยดัดแปลงเป็นบานเกล็ดกระจกใสที่ติดตั้งแบบแรนดอม เกิดเป็นอารมณ์ที่แตกต่างออกไป ทั้งยังเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายราคาไม่เเพง ให้ความรู้สึกปลอดโปร่งด้านมุมมองที่ดีกว่า อีกทั้งยังสามารถมองเห็นบรรยากาศภายในร้าน จูงใจให้ลูกค้าอยากเข้ามาใช้บริการ อย่างที่ผู้ออกแบบตั้งใจไว้ด้วย
ในส่วนของผนังที่กลายมาเป็นแบ็กกราวน์ของร้าน เด่นด้วยการเลือกใช้อิฐบล็อกที่คุ้นเคย โดยแพตเทิร์นในการก่อนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการจัดเรียงวัสดุชนิดนี้ในร้านขายวัสดุก่อสร้างที่มีการวางเรียงสลับกันไปมา อย่างการนำด้านสันหรือด้านข้างหันออกบ้าง เพื่อสร้างความสมดุลและการถ่ายเทน้ำหนักมาสร้างความแปลกตาให้กับผนังร้านได้เป็นอย่างดี
ด้วยความชื่นชอบสไตล์มินิมัลแบบคาเฟ่เกาหลีของเจ้าของร้าน ทำให้พื้นที่ภายในได้รับการตกแต่งแบบเรียบง่าย คุมมู้ดแอนด์โทนสีเทา-ดำ กับเคาน์เตอร์บาร์กรุสเตนเลสเรียบเกลี้ยงเป็นพระเอกของร้าน ซึ่งเคาน์เตอร์นี้ยังเป็นตัวแบ่งสเปซภายในให้เป็นสัดส่วน และแก้ปัญหาเรื่องเสาที่อยู่ตำแหน่งกลางร้านได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความยืดหยุ่น อีกทั้งง่ายต่อการบำรุงรักษา โดยมีที่นั่งให้เลือกทั้งแบบบาร์และแบบโต๊ะเดี่ยว พร้อมรองรับลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะมาคนเดียว มาเป็นคู่ หรือมาเป็นกลุ่มก็สามารถมานั่งจิบกาแฟคุณภาพเยี่ยม หรือจะมานั่งทำงานคิดงานในบรรยากาศโปร่งโล่งก็น่าสบายไม่น้อยเลยทีเดียว
ภายใต้รายละเอียดในการออกแบบและความใส่ใจในการเลือกวัสดุที่ช่วยสร้างความดึงดูดใจให้กับร้าน นอกเหนือจากประเด็นเรื่องความงามแล้ว ความเรียบง่ายที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นความลงตัวที่ไม่ทำให้ความเป็น Specialty Coffee ที่ทางเจ้าของร้านตั้งใจเลือนหายไปแต่อย่างใด
เจ้าของ : คุณอัมพาพรรณ ลิ้มสุวรรณ
ออกแบบ : TOUCH ARCHITECT
ที่ตั้ง : 42 Double S specialty coffee สุขุมวิท 64 กรุงเทพฯ
เวลาทำการ : วันจันทร์-ศุกร์ 7.00 น.-16.00 น. เเละวันเสาร์-อาทิตย์ 8.00 น.-17.00 น.
ติดต่อ-สอบถาม : โทร. 06-2662 -3915
www.facebook.com/DoubleSspecialtycoffee
เรื่อง : Woofverine
ภาพ : อนุพงษ์