CASA COVA สวรรค์บนดินริมมหาสมุทรแปซิฟิก

ที่พักริมทะเล บรรยากาศสุดชิลแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ประเทศเม็กซิโก รัฐฮาวากาซึ่งเป็นเขตพื้นที่พัฒนาที่กำลังเป็นหมุดหมายของนักเดินทางทั่วโลก ผืนที่ดินนี้ติดกับทะลที่ขนาบด้วยมหาสมุทรแปซิฟิกและภูเขาฮาวากา โดยมีจุดเริ่มต้นของการออกแบบคือบ้านพักตากอากาศสำหรับสองครอบครัวที่มีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเองและเชื่อมกันผ่านพื้นที่ทำกิจกรรมกลาง

DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: Anonymous

ที่พักริมทะเล หลังนี้จึงประกอบไปด้วยพื้นที่ 2 ส่วนหลัก ๆ คือพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่และบ้านพักสองหลังที่เเยกออกจากกันเป็นปีกซ้าย-ขวา ขนานกัน ด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ค่อนข้างใกญ่ทำให้บ้านทั้งสองมีทางเข้าหลักหลังละ 2 ทาง ซึ่งการแยกพื้นที่พับลิกและไพรเวตออกจากกันนั้น สถาปนิกเลือกออกแบบกำแพงคอนกรีตทึบที่ทำการเว้นช่วงสลับกัน เพื่อให้อากาศสามารถถ่ายเททะลุทั่วถึงทุกพื้นที่ ทั้งยังสร้างให้เกิดเอ็ฟเฟ็กต์ของแสงและเงาที่น่าสนใจตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญในบรรยากาศแบบดับเบิ้ลสเปซที่เกิดจากระดับฝ้าเพดานที่สูงของหลังคาทรงจั่วปกคลุมด้วย “palapa” เทคนิคพื้นถิ่นที่ทำจากใบปาล์มแห้งซึ่งช่วยในการลดความร้อนของอากาศภายนอกที่สูงถึง 85⁰F ให้เหลือเพียง 73⁰F ได้ เหมาะแก่การเป็นพื้นที่พักผ่อน ส่วนนี้ประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหารและบาร์ รวมไปถึงส่วนบริการต่าง ๆ เช่น ห้องครัว ห้องซักรีด และห้องเครื่องที่ถูกวางซ่อนไว้ไม่ให้รบกวนและบังสายตาได้อย่างแนบเนียน

เบื้องหลังผนังคอนกรีตที่ตั้งขนานไปกับพื้นที่ส่วนกลางเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอนนั้น เป็นส่วนของบ้านพักทั้งสองฝั่งประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน ได้แก่ ห้องนอนหลัก 1 ห้องในฝั่งด้านหน้าติดกับทะเล และห้องนอนลูก 2 ห้องโดยแต่ละห้องมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด ซึ่งทั้งสามห้องเชื่อมต่อกันไว้ด้วยพื้นที่คอร์ตยาร์ดภายใน ทำให้แต่ละห้องมีพื้นที่ให้ลมทะเลได้พ้ดผ่าน ช่วยนำความเย็นมาพร้อม ๆ กับลดอุณหภูมิภายในไปในตัว

เมื่อทำเลที่ตั้งดีขนาดนี้ทีมสถาปนิกจาก anonymous ก็ไม่พลาดที่จะสร้างมุมมองดี ๆ ไปด้วยการพยายามสร้างวิวจากหลากหลายมุม เริ่มจากมุมมองจากพื้นที่ส่วนกลางพุ่งตรงไปยังทะเลเบื้องหน้าแบบสุดขอบฟ้าที่สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกลงบนมหาสมุทรแปซิฟิกได้อย่างเต็มตา

ตัวสถาปัตยกรรมถูกออกแบบภายใต้บริบทของความเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการใช้วัสดุท้องถิ่นอย่างใบปาล์มแห้งในส่วนของผนังและฝ้าเพดาน ไม้ Parota ไม้ท้องถิ่นที่ช่างไม้คุ้นเคยในการใช้ รวมไปถึงการเลือกพันธุ์ท้องถิ่นในการตกแต่งสวนซึ่งไม่ต้องการดูแลรักษามากนัก ทั้งยังได้เฉดสีที่ดูกลมกลืนไปกับบริบทพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ตัวอาคารถูกยกสูงจากพื้นประมาณ 5 ฟุตเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์น้ำท่วมที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำสำหรับพื้นที่ชายฝั่งทะเลนี้

อีกหนึ่งประเด็นที่สถาปนิกให้ความสนใจคือการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและยังคงไว้ซึ่งความสวยงามของตัวสถาปัตยกรรม จึงเลือกใช้คอนกรีตมาเป็นทั้งโครงสร้างหลักและวัสดุตกแต่งผิวอาคาร ด้วยคุณสมบัติของวัสดุที่สามารถทนต่อแสงแดดและความเค็มของไอทะเล อีกทั้งเสริมให้ตัวอาคารยังดูสวยสง่าแม้เวลาจะผ่านไปนาน

ออกแบบ: anonymous 
ภาพ: Rafael Gamo
เรียบเรียง: Woofverine

อ่านต่อ รวม 4 แบบบ้านริมทะเลสุดชิล

THE ALPINE บ้านพักร้อนริมทะเลของครอบครัว

SUNSKY VILLA HUAHIN รีโนเวตบ้านให้เป็นวิลล่าบรรยากาศสุดเอกซ์คลูซีฟ ริมทะเลหัวหิน