บ้านในเมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและร้านค้าขนาดย่อม จากที่ตอนแรกมีแผนจะทำเป็นร้านเบเกอรี่และคาเฟ่ ที่มีร้านหนังสือด้วยในตัว แต่เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้อง รีโนเวทบ้านเป็นร้าน ขายเครื่องนอนแทน
เนื่องจากที่ตั้งรายล้อมไปด้วยกำแพงหินทั้งสามด้าน ที่มาพร้อมเนินดินที่ค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นไปยังภูเขา ผู้ออกแบบจึงตั้งใจใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศดังกล่าว เพื่อช่วยในการลดต้นทุนการปรับถมที่ดิน ในขณะเดียวกันก็ได้วิวหุบเขาไปในตัว โดยจัดให้ห้องนอนหลักและห้องรับแขกอยู่ด้านหลัง และผลักพื้นที่พับลิกไว้ด้านหน้าบ้านแทน
ตัวสถาปัตยกรรมสะท้อนการอยู่ร่วมกันของสิ่งตรงข้ามระหว่างธรรมชาติสร้าง มนุษย์สร้าง, ความหนักกับความเบา, มืดกับสว่าง, ความทึบกับช่องเปิด โดยนำความต่างเหล่านี้มาจัดการพื้นที่ อันส่งผลถึงการเลือกใช้วัสดุ การออกแบบแสง และการผสมผสานสีสัน
พื้นที่ชั้นล่างออกแบบแบบโอเพ่นแปลนที่ผสานแลนด์สเคปให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาคาร ทำให้ขอบเขตของความเป็นพื้นที่ภายใน-ภายนอกถูกเชื่อมโยงถึงกันและกัน พร้อมกับแทรกโถงบันไดเหล็กที่ออกแบบให้ดูบางเบาลอยอยู่กลางบ้าน ด้วยการใช้โครงเหล็กเป็นโครงสร้างหลักและแผ่นเหล็กปั้มรูมาเป็นลูกนอน ทำให้แสงธรรมชาติสามารถส่องผ่านสกายไลท์ ไปพร้อม ๆ กลับกรองแสงให้ดูนุ่มนวลก่อนส่งต่อไปยังพื้นที่ชั้นล่าง
เพราะเป็นบ้านที่ควบรวมพื้นที่ธุรกิจไว้ จึงออกแบบบันไดหน้าบ้านให้ทางแยกทางเข้า-ออกของลูกค้า เพื่อนำไปยังพื้นที่ชั้นสองซึ่งเป็นส่วนของโชว์รูมได้ โดยไม่ต้องผ่านพื้นที่พักอาศัย ซึ่งโถงบันไดนี้ได้ยาวต่อเนื่องไปยังระเบียงบนชั้นดาดฟ้า ที่สามารถขึ้นมาชมวิวป่าสนได้แบบพานอรามา
สถาปนิกเรียกโปรเจ็กต์นี้ว่า Opposites Game ซึ่งรวมไว้ด้วยความต่างขององค์ประกอบ แต่สามารถผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว เพื่อให้ความต่างเติมเต็มซึ่งกันและกัน ทั้งยังสร้างมุมมองที่ชวนเซอร์ไพร้ส์และตื่นเต้น เพราะทุกครั้งที่กำลังก้าวเดินจะสัมผัสได้ถึงประสบการณ์อันแปลกใหม่ ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในจุดต่าง ๆ ของบ้านหลังนี้
ออกแบบ – ภาพ : Tad.atelier
เรียบเรียง: BRL
