HAPPIELAND ร้านสินค้าไลฟ์สไตล์ ที่เกี่ยวข้องกับกัญชาย่านเจริญกรุง โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร พร้อมบรรยากาศน่าฉงนชวนให้ทุกคนค้นหาไปพร้อมกัน
มองจากภายนอก คงยากจะบอกว่าตึกแถวห้องริมสุดบนหัวมุมถนนเจริญกรุง 82 เป็นสำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร หรือมีอะไรซ่อนอยู่ภายใน และด้วยผนังสีเทาทึบที่ทั้งหลบเร้นเข้าไปภายใน รวมถึงชื่อ HAPPIELAND บนผนัง ที่ทิ้งให้เปลือยเปล่าไว้ราวกับยังทาสีไม่เสร็จ ก็ทำให้ที่นี่ยิ่งน่าค้นหาขึ้นไปอีก
ที่นี่ริเริ่มและดำเนินกิจการโดยกลุ่มเพื่อนครีเอทีฟ และนักออกแบบที่มีความสนใจร่วมกันในพืชเศรษฐกิจใหม่ของประเทศไทยอย่างกัญชา โดยการออกแบบร้านค้าแห่งใหม่เพื่อรองรับกิจกรรมที่รอวันเสรีอย่างสมบูรณ์นี้ก็สอดคล้องไปกับการออกแบบแบรนด์ในภาพรวม ที่เน้นความสนุกสนานและความคิดสร้างสรรค์ โดยแรกสุดนั้น ชื่อร้านมาจากไอเดียสนุกของการเล่นคำอังกฤษผสมการพ้องเสียงไทย อย่างการรวมคำว่า Happy กับ Hippie กลายเป็น Happie รวมกับการตั้งใจให้อ่านชื่อแบรนด์ “HAPPIELAND” อย่างไทยเป็น “แฮบ – พี้ – แลน” ที่ก็พ้องความหมายไปกับกิจกรรมการใช้กัญชาในเชิงสันทนาการ
อารมณ์ขันและความสนุกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งของกัญชา จึงเป็นเนื้อหาหลักในการแบรนด์และการออกแบบร้านค้าไปพร้อมกัน โดยในส่วนของร้านค้านั้น สิ่งที่ผู้เยี่ยมชมจะสัมผัสได้เป็นอย่างแรกหลังจากเดินเข้าสู่พื้นที่ภายในคือบรรยากาศของห้องสีขาว สะอาด สว่าง ซึ่งตรงกันข้ามทุกประการกับบริบทและสภาพแวดล้อมที่วุ่นวายภายนอกของเมืองกรุงเทพฯ โดยภายในตัวร้านค้านี้ ผู้ออกแบบได้สร้างสเปซใหม่เป็นการเฉพาะสำหรับหน้าร้านด้วยการกั้นพื้นที่ชั้นหนึ่งของตึกแถวเดิมด้วยการวางแผงกระจกล้อมเป็นวงกลม และเอนแผงกระจกทั้งหมดนั้นออก ผลลัพธ์ที่ได้ จึงเป็นห้องวงกลมที่ให้ความรู้สึกเหมือนผู้เยี่ยมเยือนจะยืนอยู่ในห้องกระจกรูปทรงกรวยกลับหัวอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับการได้พื้นที่เศษเหลือโดยรอบจากการล้อมกรอบพื้นที่ใช้สอยใหม่ในห้องของตึกเก่า ที่ระบุรูปทรงไม่ได้ ที่เอื้อให้เกิดพื้นที่ใช้ประโยชน์อย่างเคาน์เตอร์ชำระเงิน ช่องสต็อกสินค้า และอื่นๆ
โดยประสบการณ์ของห้องรูปแบบใหม่นี้เอง ที่ผู้ออกแบบเล่าว่า เป็นการตีความจากความรู้สึกของการใช้กัญชา โดยแปลงสัมผัสทางอารมณ์และประสบการณ์ออกมาเป็นกายภาพของพื้นที่ ซึ่งนอกจากห้องรูปกรวยกลับหัวที่อ้างถึงความรู้สึกกลับหัวเป็นหาง กลับข้างบนเป็นข้างล่าง เหมือนอาการล่องลอยไปในพื้นที่ไร้แรงโน้มถ่วงแล้ว การสะท้อนจากกระจกที่เอียงเอนยังสร้างสภาวะ ที่ทำให้พื้นที่ผู้เยี่ยมชมรู้สึกว่ายืนอยู่อยู่สูงกว่าภาพสะท้อนในกระจกที่ผู้ชมมองเห็น ราวกับผู้ชมนั้นได้ยืนอยู่บนเนินสูง และมองลงไปยังภาพสะท้อนไร้ก้นบึ้งเบื้องล่างอยู่ตลอดเวลา โดยยังไม่นับภาพสะท้อนของวัตถุและตัวผู้ชมเองบนกระจกที่ปรากฏอยู่โดยรอบ ที่ทำให้ห้องร้านค้าขนาดเพียงราว 40 ตารางเมตร แห่งนี้ ดูราวกับมีพื้นที่ขยายออกไปอย่างไม่สิ้นสุด
นอกจากนั้น พื้นอีพ็อกซี่สีขาวก็ตอบรับกับการออกแบบฝ้าเป็นเพดานเรียบวัสดุโปร่งแสง ซึ่งก็ได้สะท้อนแสงสว่างสีขาวละมุนไปทั้งทั่งห้องกระจก โดยผู้ออกแบบกล่าวว่า ถึงแม้ระยะพื้นถึงฝ้าจะมีความสูงเพียงประมาณ 2.35 เมตร แต่ความรู้สึกที่ได้จากแสง และตัววัสดุจะทำให้ผู้เยี่ยมชมรู้สึกราวกับยืนอยู่ในพื้นที่ระหว่างเมฆและชั้นบรรยากาศ ที่ทั้งเบา ลอย ไม่มีที่สิ้นสุด และระบุพิกัดไม่ได้แน่ชัด
ผลลัพธ์จากการใช้องค์ประกอบของงานออกแบบที่เข้าใจง่ายแต่พลิกแพลงอย่างชาญฉลาดนี้ ทำให้พื้นที่ร้านค้าแห่งนี้มีเอกลักษณ์ด้านการสร้างประสบการณ์ที่สอดคล้องไปกับสินค้าที่ทางแบรนด์ออกแบบมาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่นอย่างเสื้อยืดและเครื่องประดับปนอารมณ์ขันที่หยิบ และยำไอเดียจากสิ่งของ และสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวันในประเทศไทยมาบอกเล่าต่อ รวมถึงอุปกรณ์และสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกัญชา ที่เจ้าของโครงการเล่าว่า ต้องการให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่เปิดกว้างทางความคิดสร้างสรรค์หรือเป็นแกลอรีศิลปะอย่างหนึ่ง ที่พร้อมรองรับกิจกรรมสร้างสรรค์ (ปนอารมณ์ขัน) ที่ในอนาคตอันใกล้พวกเขามุ่งหมายว่าจะขยับขยายสินค้าและคอนเทนต์ออกไปให้กว้างขึ้นกว่าเดิม
ที่ตั้ง: 24/1 ถนน เจริญกรุง 82 บางคอแหลม กรุงเทพฯ โทร. 08-0515-9798
เจ้าของ: บริษัท แฮพพี้แลนด์ จำกัด โดย พงศ์เทพ อนุรัตน์, ชินภานุ อธิชาธนบดี, ธนกฤต บุษบก, ชัชวาล มั่นสัตย์รักสกุล, ธนะรัฐ วงศ์มาศา, จันทรา จันทร์พิทักษ์ชัย
ออกแบบ: Trimode Studio
ภาพ: ศุภกร
เรื่อง: กรกฎา