เครื่องล้างจานจำเป็นแค่ไหน? ทำไมต้องมีติดบ้าน

การล้างจานมักเป็นงานที่คนในบ้านเกี่ยงกันทำมากที่สุด เมื่อกินอิ่มแล้วใครๆ ก็อยากจะนอนเอนหลังดูทีวีมากกว่า โดยเฉพาะวันที่มีปาร์ตี้มื้อใหญ่จนจานชามกองโตเต็มอ่างล้างจาน ต้องใช้เวลาล้างนานกว่าทุกวัน หากจะหาซื้อ “เครื่องล้างจาน” มาเป็นตัวช่วย ก็ยังไม่แน่ใจว่าคุ้มค่าไหม จะสะอาดเท่าล้างด้วยมือหรือเปล่า และราคายังค่อนข้างสูง 

ใครยังลังเลอยู่ว่าจะซื้อดีมั้ย หรือเครื่องล้างจานจำเป็นสำหรับบ้านคุณหรือไม่ ลองมาพิจารณาเหตุผลเหล่านี้กัน จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

1. ประหยัดแรงและเวลา ทุกครั้งที่เราล้างจานเรามักต้องล้างทีละชิ้น เริ่มตั้งแต่แก้วน้ำ ช้อนส้อม ไปจนถึงจานชาม สำหรับอุปกรณ์ที่มีคราบหนักต้องแช่ให้คราบสกปรกหลุดออกก่อน แต่หากใช้เครื่องล้างจานจะสามารถล้างอุปกรณ์ทั้งหมดที่ว่ามาได้พร้อมกัน ระหว่างนั้นเราสามารถใช้เวลาไปกับการพักผ่อนหรือทำอย่างอื่นได้ หลังล้างเรียบร้อย ตัวเครื่องล้างจานมีระบบเป่าร้อนและอบแห้ง ทำให้เราสามารถเก็บภาชนะใส่ตู้ได้เลย ไม่ต้องตากภาชนะไว้ด้านนอกให้ฝุ่นเกาะ

2. ทำความสะอาดคราบสกปรกได้หมดจด ถ้ามีกระทะหรือหม้อที่มีคราบเกาะแน่น เราต้องลงแรงขัดล้างมากกว่าปกติ แถมบางทีล้างแล้วคราบยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งหากใช้เครื่องล้างจาน จะมีหัวฉีดน้ำแรงดันสูงที่ทำความสะอาดอย่างทั่วถึงทุกซอกมุมชะล้างคราบสกปรกฝังลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีระบบตรวจจับเศษอาหาร คราบสกปรก คราบมัน จึงล้างภาชนะและอุปกรณ์ได้เกลี้ยง สะอาดกว่า
3. ฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ ถึงแม้การล้างจานจะช่วยล้างคราบสกปรกและความมัน แต่ก็อาจมีเชื้อโรคและแบคทีเรียหลงเหลืออยู่ เพราะเราใช้ฟองน้ำอันเดิมมาล้างทุกครั้ง เมื่อใช้ไปนานๆ ฟองน้ำก็อาจกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ แม้จะใช้น้ำยาล้างจานยับยั้งแบคทีเรียแล้วก็ตาม ซึ่งเครื่องล้างจานจะมีฟังก์ชันยับยั้งเชื้อโรคและแบคทีเรียหลายขั้นตอน เช่น การใช้น้ำร้อนอุณหภูมิสูงถึง 70องศาเซลเซียสในการชะล้างคราบสกปรก เพื่อกำจัดกลิ่นและเชื้อโรค มีฟิลเตอร์ Anti-Bacteria ในตัวเครื่อง ไปจนถึงการยับยั้งแบคทีเรียอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบ UV-LED ซึ่งประเด็นนี้นับว่าชนะขาดการล้างจานด้วยมือไปเลย

4. ประหยัดน้ำ หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเครื่องล้างจานอัตโนมัติจะใช้น้ำมากกว่าเราลงมือล้างเอง ในความเป็นจริงเครื่องสามารถประหยัดน้ำมากกว่า เพราะการล้างภาชนะแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะจำนวนมากแค่ไหนก็จะใช้ปริมาณน้ำที่แน่นอนตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะบางรุ่นที่มีโปรแกรม ECO จะสามารถประหยัดน้ำและพลังงานได้มากขึ้นไปอีก

เลือกซื้อเครื่องล้างจานที่ใช่ และคุ้มค่า

1. เลือกขนาดและความจุ เครื่องล้างจานมีให้เลือกหลายขนาด เราจึงต้องเลือกให้เหมาะสมกับจำนวนภาชนะที่ต้องการล้างในแต่วัน โดยพิจารณาจากจำนวนสมาชิกในครอบครัว ซึ่งหากมีสมาชิกในบ้าน 1-2 คน อาจซื้อขนาดเล็กที่รองรับภาชนะได้ 6 ชุดต่อวันก็เพียงพอ แต่ถ้าหากมีครอบครัว 4 คนขึ้นไป ควรเลือกเครื่องที่รองรับภาชนะได้ 10-14 ชุด และมีพื้นที่รองรับภาชนะหลากหลายรูปแบบ ทั้ง จาน ชาม ช้อน ส้อม แก้วน้ำ ไปจนถึงอุปกรณ์ครัว หรือเลือกแบบที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในเครื่องได้ โดยใช้ตะกร้าหรือถาดมาเป็นตัวช่วย เพื่อประหยัดเวลาและพลังงานให้สามารถล้างเสร็จได้ในรอบเดียว
2. ใช้งานง่าย ถึงแม้หลายคนอาจมองหาเครื่องล้างจานที่มีฟังก์ชันเยอะๆ เพื่อรองรับได้การล้างได้หลากหลาย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องใช้งานได้ง่ายด้วย เช่น มีจอแสดงผลที่ชัดเจนเข้าใจง่าย มีโปรแกรมการใช้งานที่เหมาะสมสำหรับการล้างแต่ละครั้ง อย่าง TOSHIBA รุ่น DW-14F2(BS)-TH มีแผงควบคุมระบบสัมผัสบนตัวเครื่องเพื่อเปิด-ปิด ตั้งเวลาล้างจานล่วงหน้า ไปจนถึงตั้งค่าการล้างได้ถึง 8 โปรแกรม และมีฟังก์ชันเสริมให้เลือกอีกถึง 4 ฟังก์ชัน

3. เครื่องล้างจานมีระบบป้องกันน้ำรั่ว น้ำล้น เพราะความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ เครื่องล้างจานจึงต้องมีความสามารถในการตรวจจับการรั่วซึมของน้ำโดยอัตโนมัติ
4. เลือกช่องเติมน้ำยาทำความสะอาดที่หลากหลาย สำหรับเครื่องล้างจานจะมีน้ำยาทำความสะอาดภาชนะโดยเฉพาะแตกต่างจากการล้างด้วยมือ ในปัจจุบันมีน้ำยาทำความสะอาดสำหรับเครื่องล้างจานหลากหลายชนิด รวมถึงน้ำยาทำความสะอาดตัวเครื่องที่ช่วยดูแลเครื่องล้างจานให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น การเลือกใช้น้ำยาล้างจานและน้ำยาทำความสะอาดสำหรับเครื่องล้างจาน มีดังนี้ 

ขั้นตอนที่ 1 ใส่น้ำยาล้างจาน มีให้เลือกทั้งแบบผง และแบบน้ำ โดยเทน้ำยาล้างจานลงในช่องที่ถูกต้องและใส่ในปริมาณที่เหมาะกับจำนวนจานชามที่ต้องการล้าง

ขั้นตอนที่ 2 ใส่น้ำยาแวววาว(น้ำยาเคลือบเงา) เพื่อทำให้ภาชนะวาววับไร้รอยด่างและช่วยทำให้ภาชนะแห้งไวขึ้น เพียงแค่เปิดฝาช่องใส่น้ำยาให้เต็ม แล้วปิดฝา ก็เป็นอันใช้งานได้

ขั้นตอนที่ 3 ใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องล้างจาน อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง โดยคว่ำขวดน้ำยาลงในชั้นวางจานด้านล่าง แล้วตั้งอุณหภูมิเครื่องล้างจานไว้ที่ 65 องศาเซลเซียสแล้วกดปุ่มให้เครื่องทำงาน จะช่วยขจัดคราบไขมันและคราบสกปรกต่างๆ ที่เกาะบนพื้นผิวเครื่อง ลดการสะสมของเศษอาหารและเชื้อโรค ด้วย 3 ขั้นตอนนี้เราจะได้ภาชนะรวมถึงเครื่องล้างจานอัตโนมัติที่สะอาดหมดจด 

แต่หากการใส่น้ำยาล้างจาน และน้ำยาแวววาว แยกกันเป็นเรื่องยุ่งยาก ก็สามารถเลือกใช้ น้ำยาล้างจานแบบก้อน  หรือที่เรียกว่า เพาเวอร์บอล ซึ่งประกอบด้วยน้ำยาล้างจานและน้ำยาแวววาวในก้อนเดียว เพียงแค่ใส่ลงไปในช่องน้ำยาล้างจานแบบผงก็เป็นอันใช้งานได้ นอกจากจะทำความสะอาดจานชามแล้ว ยังทำให้ไม่ต้องทำความสะอาดตัวเครื่องล้างจานบ่อยๆ ด้วย เป็นคุณสมบติแบบ 3 in 1 ที่ใช้งานได้สะดวกที่สุด

ดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อเครื่องล้างจานอัตโนมัติ TOSHIBA รุ่น DW-14F2(BS)-TH ได้ที่  https://www.toshiba-lifestyle.com/th/dishwasher/desktop/dw-14f2-bs-th