โกปี๊ฮับ l KopiHub ร้านติ่มซำเจ้าดังจากชลบุรีที่ขยายสาขามายังอารีย์ซอย 2 กับสาขาที่ให้ชื่อว่า KopiHub Prime Ari เด่นด้วยการดึงเสน่ห์บ้านเก่ามาตกแต่งให้มีบรรยากาศหรูหราสมฐานะร้านอาหารใจกลางเมือง
DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: Does studio
KopiHub Prime Ari ได้รับการออกแบบโดย Does studio ที่ยังคงเก็บรายละเอียดและโครงสร้างของบ้านเก่าไว้เกือบทั้งหมด ก่อนปรับพื้นที่บางส่วนเพื่อให้รับกับฟังก์ชั่นใหม่ ต่อเติมบางส่วนเพื่อเพิ่มความแข็งแรงไปพร้อมกับองค์ประกอบที่ถือเป็น Corporate Identity หรือเอกลักษณ์ประจำของแบรนด์โกปี๊ฮับ l KopiHub เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกับอีก 2 สาขาที่ชลบุรี กลายเป็นการเจอกันระหว่างงานดีไซน์เก่ากับใหม่แบบลงตัว
คืนชีพบ้านเก่าปรับพื้นที่สู่ฟังก์ชันใหม่
การทำให้บ้านเก่ากลับคืนมาสู่ฟังก์ชันใหม่เป็นร้านอาหาร ทีมสถาปนิกและวิศวกรต้องประเมิณความแข็งแรงด้านโครงสร้างเพื่อคงเสน่ห์ของบ้านเดิมไว้ให้มากที่สุด โดยมีบางส่วนที่ต้องต่อเติมและเสริมโครงสร้างเพื่อความแข็งแรง จากบ้านสีเขียวหลังคาทรงจั่วครึ่งปูนครึ่งไม้ วันนี้จึงกลายมาเป็นบ้านไม้สีเข้มตัดแดง เอกลักษณ์ของแบรนด์โกปี๊ฮับ การรีโนเวทมีความยากหลายส่วน อาทิ การรื้อไม้เดิมออกแล้วนำมาขัดหน้าไม้ใหม่ ปรับโทนไม้ให้เป็นสีเข้ม ก่อนประกอบคืนกลับคืนไป ขณะที่โครงสร้างที่โดนปลวกกัดกินต้องทำการเสริมโครงสร้างเหล็กอย่างโครงเหล็กรัดเสาไม้ให้แข็งแรง ขณะที่คานเดิมบนชั้นสองได้ทำคานไขว้เพื่อรับน้ำหนักพื้นชั้น 2 ไว้ และเพิ่มระบบกันปลวกไว้ใต้ดิน
องค์ประกอบของบ้านเก่าที่ตั้งใจเก็บไว้นี้ สามารถเข้ากันดีกับดีไซน์ใหม่ได้อย่างไม่เขิน เช่น เสาปูนทรงโรมันหน้าบ้าน บันไดไม้เก่าตำแหน่งหน้าต่างของบ้านที่ยังคงอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือเปลี่ยนให้ช่องหน้าต่างมีขนาดกว้างและสูงขึ้น เพื่อดึงแสงและรับวิวเต็มที่ ชั้นบนเก็บระเบียงบ้านไว้ รวมถึงเหล็กดัดลวดลายอ่อนช้อย เชื่อมโยงความรู้สึกถึงบรรยากาศดั้งเดิมของบ้าน
ร้านติ่มซำที่กลมกล่อมทั้งสไตล์ไทยจีน
หากสังเกตดี ๆ ชื่อสาขาอื่น ๆ โกปี๊ฮับ ต้องต่อท้ายด้วยคำว่า ติ่มซำ-ชาชัก แต่สำหรับที่นี่ใช้ชื่อว่า โกปี๊ฮับ Prime ก็เพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ที่ต้องการให้ที่นี่หรูหราขึ้น โดยยังไม่ทิ้งคาแร็กเตอร์ที่สะท้อนสไตล์ไทย-จีน อย่างการนำฟอร์มที่ออกแบบขึ้นเฉพาะสาขานี้อย่าง ลายปะกน ที่ดัดแปลงจากบ้านทรงไทยเก่า แล้วใส่ความโค้งอย่างจีนลงไปเพื่อลดความแข็ง
โดยนำมาใช้เป็นลายของฟาซาดตะแกรงเหล็กเจาะรูสีแดง ฟอร์มดังกล่าวยังนำไปใช้ในหลายจุด อาทิ ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ตู้วางติ่มซำ ที่เปิดประตูมาก็เจอ เด่นด้วยฟอร์มลายปะกนที่นำมากลับหัว ครึ่งล่างไปฐานเคาน์เตอร์ ครึ่งบนอยู่ตรงผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ ติดโลโก้ร้านโดดเด่นบนกระเบื้องซัพเวย์สีแดงที่ใช้เหมือนกันทุกสาขา รวมถึงซุ้มทางเดินบนชั้น 2 มุมไฮไลต์ ที่ออกแบบจากฟอร์มของลายปะกนนี้เช่นกัน รวมถึงลายเพ้นต์หญิงสาวสมัยใหม่ที่สวมชุดจีนโบราณในลุคสุดชิค ผลงานการวาดภาพโดย StudioJew+ บ่งบอกถึงคอนเซ็ปต์ร้านที่มีความร่วมสมัย
ต่อเติมและเปลี่ยนแปลงสเปซให้ตอบโจทย์
เมื่อต้องเปลี่ยนฟังก์ชันจากบ้านเป็นร้านอาหาร เรื่องมุมมองและการจัดการพื้นที่จึงสำคัญ งานนี้สถาปนิกได้เจาะพื้นบ้านชั้น 2 ออก เพื่อเปิดเป็นช่อง Void สูงจรดฝ้าชั้นบนที่โชว์ให้เห็นจันทัน และแปไม้เดิมของบ้าน แขวนประดับด้วยโคมไฟขนาดใหญ่ เชื่อมมุมมองระหว่างชั้นบนกับชั้นล่าง มีห้องลับใต้บันไดที่เคยเป็นห้องน้ำเก่าให้ความรู้สึกลึกลับ
ภายในโชว์ให้เห็นเสาไม้เก่า และผนังอิฐมอฐ โครงสร้างดั้งเดิมที่ตั้งใจเก็บไว้ให้ได้เห็น มีส่วนต่อเติมใหม่อย่าง ห้องรับประทานอาหารด้านหน้า มองเห็นวิวสีเขียวของสวนหน้าบ้าน ผนังของโถงที่นั่งด้านในประดับด้วยบล็อกช่องลมและเข่งติ่มซำที่นำมาตกแต่งร่วมกัน นับเป็นการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา จดจำง่ายว่าที่นี่คือ ร้านติ่มซำ
เคาน์เตอร์ตู้วางติ่มซำเป็นระบบไฮดรอลิกปรับระดับขึ้น-ลงได้ ใช้เป็นบู๊ธดีเจคู่กับบาร์ค็อกเทล เป็นการออกแบบเผื่อไว้สำหรับเปิดเป็นค็อกเทลบาร์ยามค่ำคืน โดยเพดานหน้าบาร์ตกแต่งโคมไฟเพดานรูปน้ำเต้าผ่าครึ่งสะท้อนความเป็นจีน ผนังข้างร้านเจาะช่องแสงวงกลมมองเห็นวิวไผ่ริมรั้ว ช่วยให้มุมที่อยู่ริมสุดมุมนี้ มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามาช่วยให้น่านั่งยิ่งขึ้น
หรูหราในฐานะร้านอาหารใจกลางเมือง
การเลือกใช้วัสดุสำหรับสาขานี้ ตั้งใจให้เกิดความโดดเด่นในบรรยากาศที่หรูหราโดยเฉพาะดีเทลของอุโมงค์ทางเดินบนชั้น 2 เพื่อนำทางไปยังห้องวีไอพี อุโมงค์นี้ใช้วัสดุอย่าง หนังสีแดง ซึ่งเป็นหนังที่ใช้หุ้มเบาะในรถซุปเปอร์คาร์ ด้วยการนำมากรุประดับช่องทางเดินที่ปูพื้นด้วยกระเบื้องโมเสกสีแดง
สำหรับห้องวีไอพี สามารถรองรับแขกได้ราว 12 ท่าน ภายในห้องโดดเด่นด้วยภาพวาดพู่กันจีน ฝ้าเพดานกรุผ้าสักกะหลาดสีแดง โต๊ะหน้าท็อปหินอ่อนขาทองเหลืองดูหรูหรา เก้าอี้กรุเบาะหนังสีน้ำตาล เหมาะสำหรับลูกค้าที่มาเป็นหมู่คณะ หรือครอบครัวขนาดใหญ่
การรีโนเวทครั้งนี้เป็นเสมือนการสร้างภาพจำให้แก่ร้าน โกปี๊ฮับ l KopiHub จนกลายเป็นคาแร็กเตอร์ที่ทีมออกแบบตั้งใจนำมาสร้างสรรค์ลงบนพื้นที่แต่ละโซน พร้อม ๆ กับการทำงานที่ท้าทายเพื่อเก็บคุณค่าและอนุรักษ์บ้านเก่าของซอยอารีย์ไว้ให้อยู่คู่ย่าน แม้จะปรับเปลี่ยนเป็นร้านอาหาร แต่คุณค่าทางสถาปัตยกรรมยังคงอยู่ ใครชอบเสน่ห์บ้านเก่า มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวัง เช่นเดียวกับความอร่อยของติ่มซำสไตล์พรีเมียม ให้ทุกคนได้อิ่มท้อง อิ่มตา อิ่มใจ ไปกับานดีไซน์ที่มีให้เก็บทุกอณู
ที่ตั้ง
โกปี๊ฮับ Prime Ari
31/1 ซอยอารีย์ 2 ถนน พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
พิกัด https://maps.app.goo.gl/zKTtv4ia6NEdZpwm9
เปิดวันจันทร์ อังคาร พุธ และศุกร์ 9.00-21.00 น. วันเสาร์ และอาทิตย์ 7.00-21.00 น. (ปิดทุกวันพฤหัสบดี)
เจ้าของ : คุณณิชา จารุกิตต์ธนา
ออกแบบ : Does studio
เรื่อง : Phattaraphon
ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม และสุวิจักขณ์ ศรีภา
อ่านผลงานการออกแบบของ Does studio เพิ่มเติม