10 Iconic Chair ขวัญใจ ชาวคาเฟ่ - room

10 Iconic Chair ขวัญใจ ชาวคาเฟ่

เก้าอี้ตัวนั้นชื่อว่าอะไร!? สำหรับสายคาเฟ่ที่มีใจในการเลือกสรรเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเด็ดแล้ว การได้วาง Iconic Chair ซักตัวไว้ในร้าน ก็ถือได้ว่าเป็นความฟินแบบหนึ่ง และวันนี้ room จึงอยากชวนทุกคนไปดูกันกับ “10 เก้าอี้ Iconic Chair” ที่เชื่อเหลือเกินว่า หลายๆคนก็ต้องเคยผ่านตากันมาบ้าง ว่าแล้วก็คลิกไปดูต่อกันได้เล้ย!

Louis Ghost Chair for Kartell
โดย Philippe Starck
.
นี่คือเก้าอี้ที่นำเอาเส้นสายอย่าง วิคตอเรี่ยน มาเปลี่ยนวัสดุให้คงเหลือไว้แต่เส้นร่างที่ทำให้นึกย้อนไปถึงความหรูหรา หากแต่เข้ากันได้ดีกับงานออกแบบสมัยใหม่ ไม่ว่าจะแนว Futuristic, Modern หรือแม้แต่ Minimal
.
เหมาะสำหรับ: ร้านที่ไม่ต้องการให้เฟอร์นิเจอร์มาบดบังบรรยากาศ ทั้งยังช่วยให้พื้นที่ดูโปร่งโล่งขึ้นอีกด้วย
Thonet Chair No.14
โดย Michael Thonet
.
ที่สุดของบรรพบุรุษแห่งเก้าอี้คาเฟ่ ทุกวันนี้ก็ยังเห็นได้บ่น แน่นอนนี่คือเก้าอี้กึ่งอุตสาหกรรมตัวแรกๆของโลก ที่ประกอบขึ้นจากการดัดไอน้ำประกอบเข้ากับส่วนที่นั่ง ซึ่งมีให้เลือกระหว่างแบบหวายสาน และแผ่นไม้ ทำให้เก้าอี้ตัวนี้ ทนทาน ทั้งยังผลิตจำนวนมากได้ง่าย และชิ้นส่วนที่ขนส่งไปประกอบที่หน้าร้านได้ จึงทำให้ราคาของเก้าอี้ตัวอี้ดีกว่าเก้าอี้ในยุคเดียวกัน
.
เหมาะสำหรับ: คาเฟ่วินเทจ คลาสสิค หรือแนวร่วมสมัยที่ใส่ความย้อนยุคลงไปในบรรยากาศสมัยใหม่ก็เข้าที
Tolix Chaise A
โดย Xavier Pauchardin
.
ออกแบบขึ้นในปี 1934 ช่วงที่ความเป็นอินดัสเตรียลกำลังสุกงอม เก้าอี้ตัวนี้ เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีเดียวกับการขึ้นรูปแชสซีรถยนต์ ที่ใช้การปั้มเหล็กให้กลายเป็นทรงที่แข็งแรงขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในงานออกแบบที่เปลี่ยนงาน คราฟต์ สู่ระบบอุตสาหกรรมนั่นเอง
.
เหมาะสำหรับ: แนวลอฟต์ อินดัสเตรียล หรือแม้แต่รัสติคสไตล์ก็เข้ากัน
Series 7 Chair
โดย Arne Jacobsen
.
เก้าอี้ที่เป็นเสมือนภาพแทนของยุค Modernism ด้วยการผสานกันระหว่าง โครงขาสเตนเลสที่บางเบา แต่แข็งแรง และการขึ้นรูปด้วยการดัดไม้วีเนียร์ เกิดเป็นเฟอร์นิเจอร์ผลิตจำนวนมาก ที่ยังได้ความรู้สึกแบบคราฟต์ของไม้จริงอยู่ในตัว
.
เหมาะสำหรับ: ร้านสไตล์ Midcentury Modern, Contemporary ได้บรรยากาศอบอุ่นแต่สะอาดตามีความ Minimal อยู่กลายๆ
Emeco Navy Chair
โดย Wilton C. Dinges
.
เก้าอี้สุดทนถึกตั้งแต่ปี 1944 เพราะ Emeco ออกแบบเพื่อใช้สำหรับราชนาวีสหรัฐโดยเฉพาะๆ ขึ้นรูปด้วยอลูมิเนียมทั้งตัว เบา ไม่ขึ้นสนิม และทน! ดังจะเห็นได้ในหนังหลายๆเรื่องที่เอามาปาใส่กระจก(ห้ามทำตามเด็ดขาด)
.
เหมาะสำหรับ: พื้นที่เอาต์ดอร์ อินดอร์ สไตล์ Rustic, Modern, Vintage จนถึงแนวล้ำยุคก็ยังเหมาะ
Fermob Bistro Chair
โดย Edouard Leclerc
.
ถ้านึกถึงคาเฟ่ที่ฝรั่งเศส ก็ต้องเก้าอี้ตัวนี้เลย บรรยากาศสบายๆของคาเฟ่ริมถนน ที่ออกแบบไว้มาตั้งแต่ปี 1889 ทุกวันนี้ก็ยังคลาสสิคอยู่เลย!
.
เหมาะสำหรับ: ร้านที่ต้องการบรรยากาศสบายๆ มีความลอยตัว ยกย้าย เปลี่ยนแปลงพื้นที่ได้ง่าย แต่ก็ยังลงตัว
Hoffmann Side Chair
โดย Josef Hoffmann and Josef Frank
.
อีกหนึ่งดีไซน์จากปี 1925 ที่เน้นความหรูหรา กึ่งทางการ แต่ก็ยังดูสบาย ๆ ได้ด้วยหวายถัก นี่คือเก้าอี้ที่จะทำให้ร้านของคุณดูมี Class ได้ไม่ยาก
.
เหมาะสำหรับ: แน่นอนว่าต้องเป็นสไตล์ Classic Contemporary อย่างไม่ต้องสงสัย
Cesca Chair
โดย Marcel Breuer
.
ถือว่าล้ำมากในยุค 1925 แต่ก็ยังดูดีมาจนถึงทุกวันนี้ ถ้าคุณต้องการบรรยากาศสบาย ๆ ด้วยเส้นสายที่ดูอ่อนโยนแบบงานคราฟต์ แต่ก็ยังเนี๊ยบเฉียบคมด้วยวัสดุสมัยใหม่ Cesca Chair คือชิ้นที่ใช่!
.
เหมาะสำหรับ: บรรยากาศแบบ Country, Cottage, Modern ไปจนถึง Contemporary Mix and Match
DAW Armchair created
โดย Charles and Ray Eames
.
เก้าอี้ที่เห็นได้บ่อยมากถึงมากที่สุด แท้จริงแล้วเป็นงานออกแบบจากปี 1950 โดยโมเดลออริจินอลนั้น จะเป็นไฟเบอร์กลาส แต่เปลี่ยนเป็นวัสดุพลาสติกแล้วในปัจจุบันตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ความโดดเด่นคือการที่ Charles and Ray Eames ได้นำเสนอวิธีการออกแบบที่เกิดขึ้นจากสัดส่วน Ergonomic อย่างแท้จริง
.
เหมาะสำหรับ: สไตล์ Modern อย่างแน่นอนที่สุด แต่ด้วยการผสมผสานสีสัน และขาไม้ ก็ทำให้เราสามารถแมชเก้าอี้ชุดนี้กับสไตล์ใดๆได้อย่างไม่เคอะเขิน
Panton Chair
โดย Verner Panton
.
เก้าอี้สุดล้ำจากปี 1959 ที่ทุกคนต่างรู้ว่ายุคนั้นคือยุค SPACE AGE เมื่อทุกคนแหงนหน้ามองฟ้า และจินตนาการว่าการเดินทางสู่ห้วงจักรวาลนั้นอยู่อีกไม่ไกล เก้าอี้ตัวนี้จึงเป็นเหมือนภาพแทนของบรรยากาศในยุคสมัยนั้นก็ว่าได้ ผลิตจากวิธีที่สุดล้ำเช่นกัน(ในสมัยนั้น)นั่นก็คือ การใช้โมลด์ฉีดพลาสติกแบบชิ้นเดียว!
.
เหมาะสำหรับ: วางไว้เป็นประติมากรรมที่มีฟังค์ชั่นในมุมพิเศษของร้าน หรือ การตกแต่งร่วมสมัยแบบมิดเซนจูรี่ก็เหมาะ เติมสีสัน และความจัดจ้านให้บรรยากาศได้เป็นอย่างดี

เรื่อง และภาพประกอบ: Wuthikorn Sut