Koff and Bun at Song Wat คาเฟ่ทรงวาด แห่งนี้ เกิดจากการรีโนเวทตึกแถวเก่าสไตล์คลาสสิกบนถนนทรงวาดของแบรนด์ Koff and Bun โดยมีเจ้าของเป็นถึงแชมป์นักคั่วจากรายการแข่งขันคั่วกาแฟระดับประเทศ “Thailand National Roasting Championship 2018” และเป็นทายาทร้านขนมจีบซาลาเปา “ไต้แป๊ะ” ตำนานความอร่อยที่มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2475 (Since 1932) ที่นี่จึงมีดีทั้งกาแฟและซาลาเปาขนมจีบ อันเป็นอัตลักษณ์ของ Koff and Bun
DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: party/space/design
ก่อนหน้านี้ คุณสิทธิ์ – พรประสิทธิ์ ไพศาลสินสกุล เจ้าของ คาเฟ่ทรงวาด ที่นี่ ประสบความสำเร็จมาแล้วกับร้าน Koff & Bun Coffee Roasters สาขาบางแค โดยใช้เวลากว่า 8 ปี จนกระทั่งพร้อมขยายสู่สาขาที่ 2 ด้วยการมองหาทำเลใกล้กับเยาวราช จนมาลงตัวที่ถนนทรงวาด แล้วลงมือรีโนเวทตึกแถวเก่าขนาดหนึ่งห้องแถวครึ่งให้กลายเป็นคาเฟ่ เพื่อบอกเล่าความถนัดด้านกาแฟและซาลาเปา อันเป็นคาแร็กเตอร์ของแบรนด์ Koff and Bun โดยมีคุณโต – ศุภรัตน์ ชินะถาวรจาก party / space / design มาช่วยออกแบบร้านและรีแบรนด์ดิ้งให้
จากปี พ.ศ.2475 ของตำนานซาลาเปา “ไต้แป๊ะ” และปี พ.ศ.2449 จุดกำเนิดของ “ถนนทรงวาด” ถนนสายเก่าแก่ที่เริ่มสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 หลังจากทรงเป็นผู้วาดถนนเส้นนี้ลงบนแผนที่ เพื่อลดความแออัดของพื้นที่ในย่านสำเพ็งหลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ จากความสำคัญของทั้งสองเรื่องราว ผู้ออกแบบจึงหยิบสิ่งนี้ขึ้นมาเล่าผ่านภาษางานออกแบบ เพื่อพาทุกคนย้อนไปสู่ตำนานที่ไม่เพียงแค่การรีโนเวทตึกเก่าให้เป็นคาเฟ่สวย ๆ แต่ยังต้องบอกเล่าประวัติศาสตร์อันสำคัญของบริบทนี้ไปพร้อม ๆ กัน
ภายนอกสะดุดตากับฟาซาดโครงเหล็กหุ้มไม้ตัวแทนของยุคใหม่ โดยยังคงเก็บลายปูนปั้นที่ปรากฏบนหัวเสา และรอยกระเทาะออกของปูนจนมองเห็นเนื้ออิฐ เปรียบดั่งตัวแทนของอาคารยุคเก่ากว่าร้อยปี จนเรียกได้ว่างานรีโนเวทครั้งนี้ ถือเป็นอาคารประยุกต์ร่วมสมัย ที่เข้ากับบริบทของย่าน เน้นเก็บรักษาเสน่ห์ดั้งเดิมให้ได้มากที่สุด ผู้ออกแบบเล่าว่าได้อ้างอิงบรรยากาศมาจากคาเฟ่ฝรั่งเศส หน้าร้านทำที่นั่ง 2 เซ็ต มีทั้งที่นั่งสำหรับใช้นั่งรออยู่ติดกับกระจกหน้าร้าน ดูคล้ายบรรยากาศคาเฟ่ในต่างประเทศ กับที่นั่งอีกชุดหนึ่งอย่าง ชุดโต๊ะเก้าอี้ไม้สัก ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของขนมจีบซาลาเปา หรืออีกนัยหนึ่งยังให้ความรู้สึกเหมือนเก้าอี้ในร้านกาแฟโบราณ ช่วยให้หน้าร้านมีความเป็นคอมมูนิตี้เบา ๆ สามารถสั่งกาแฟจากในร้าน แล้วมานั่งดื่มหน้าร้านได้
พื้นที่ส่วนใหญ่ของชั้น 1 ถูกยกให้กับเคาน์เตอร์บาร์ที่ออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่ เพื่อการทำงานของพนักงานและบาริสต้าที่คล่องตัว สะดวกสบาย โดยซ่อนพื้นที่จัดเก็บสิ่งของ และงานระบบต่าง ๆ ไว้อย่างเรียบร้อยภายใน บรรยากาศชั้นล่างเน้นความสนุกสนานเฟรนด์ลี่ เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับเพลงสนุก ๆ มีที่นั่งสตูลบาร์ยาวขนานไปกับแนวผนัง ด้านบนซ่อนดอกลำโพงและระบบปรับอากาศอย่างแยบยลดูกลมกลืนกัน มีชั้นวางแพ็คเกจจิ้งเมล็ดกาแฟที่ได้รับการออกแบบใหม่โดยทีม party / space / design โดยมีลวดลายอันบ่งบอกถึงตัวตนของเจ้าของปรากฏอยู่หน้าซอง
พื้นที่ชั้น 2 จัดให้เป็นพื้นที่ของสโลว์บาร์ สร้างบรรยากาศเหมือนค็อกเทลบาร์ แตกต่างจากชั้นล่างโดยสิ้นเชิง และเนื่องจากชั้นนี้มีระดับฝ้าที่ค่อนข้างเตี้ย เหนือเคาน์เตอร์บาร์ทรงโค้งขึ้นไป จึงดีไซน์ให้มีไลท์บ๊อกซ์เพื่อสร้างจุดเด่นให้กับบาร์ ฝ้าและผนังไม้เป็นวัสดุดั้งเดิมที่ได้รับการขัดและทำสีใหม่ ชั้นนี้ลูกค้าสามารถขึ้นมานั่งดูการดริปกาแฟอย่างมีศิลปะ พร้อมกับพูดคุยกับเจ้าของหรือบาร์ริสต้าได้อย่างใกล้ชิด ทั้งยังเป็นพื้นที่สำหรับซ้อมการชงกาแฟ หรือแฮ้งเอ๊าต์หลังปิดร้าน
ด้านข้างซึ่งเป็นชั้นบนของร้านรับส่งพัสดุที่อยู่ติดกัน คือห้องขนาดใหญ่ซึ่งเปิดโล่งเป็นโถงดับเบิ้ลสเปซ ห้องนี้ถือเป็นไฮไลต์ของคาเฟ่ก็ว่าได้ เพราะนอกจากใช้รองรับลูกค้าที่มาจากชั้นล่างแล้ว ห้องนี้ยังทำหน้าที่เป็นเสมือน Art Gallery Space เก็บโครงสร้างผนังและฝ้าไม้เดิมไว้ ส่วนหน้าต่างทำการเปลี่ยนวงกบเก่าที่ชำรุดใหม่ ห้องนี้จะถูกใช้เพื่อยกย่องตำนานของซาลาเปา “ไต้แป๊ะ” รวมถึงประวัติศาสตร์ของ “ถนนทรงวาด” เด่นด้วยป้ายคำว่า ทรงวาด และ พ.ศ.2449 ที่ติดอยู่บนผืนผนังอิฐเก่า ย้ำถึงยุคแห่งการนำความเจริญมาสู่สยาม และยุคกำเนิดถนนทรงวาดในสมัยรัชกาลที่ 5
ที่นั่งจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้บรรยากาศเหมือนสภากาแฟ โดยรูปทรงของเก้าอี้ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของขนมจีบ ที่บางชุดสามารถนำมาซ้อน หรือเข้าคู่กันได้ ส่วนขามีดีไซน์ที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งตั้งใจโชว์ให้เห็นแพตเทิร์น พื้นที่นั่งด้านหลังทำเป็นพื้นที่สำหรับประชุมซึ่งอยู่ใต้ซุ้มหลังคาสังกะสี พาย้อนไปถึงวันวานของร้าน “ไต้แป๊ะ” ในอดีต เช่นเดียวกับภาพถ่ายเก่าของถนนเยาวราชที่นำมาแขวนตกแต่ง พร้อมกันนั้นยังเล่าเรื่องราวผ่านลายเพ้นต์ภาพร้านซาลาเปา และเครื่องคั่วกาแฟบนผนัง เพื่อสื่อถึงธุรกิจของ Koff & Bun อีกด้วย
นอกจากนี้ ทีมผู้ออกแบบยังดึงสิ่งที่โดดเด่นของแบรนด์ Koff & Bun มาเล่าผ่านอัตลักษณ์ Brand CI หรือ Corporate Identity โดย party / space / design ได้รีแบรนด์ดิ้งให้ Koff & Bun มีภาพจำที่สดใสสนุกสนานขึ้น โดยใช้สีส้มและเท็กซ์แบบล้อมเพื่อแสดงออกถึงการได้ครองพื้นที่นั้น แต่ไม่ตะโกนเกินไป ซึ่งผู้ออกแบบยังคงต้องให้ความสำคัญกับสิ่งซึ่งถือเป็นสาระสำคัญ ไม่แพ้การออกแบบร้านให้ตอบโจทย์ทั้งเจ้าของ พนักงาน และลูกค้า
นั่นก็คือ “เราจำเป็นต้องนำสิ่งที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของย่านมาใส่ลงไปในงานดีไซน์เพื่อจะบ่งบอกความเป็นย่าน หรือที่ตั้ง โดยไม่ลืมที่จะบอกคาแร็กเตอร์ของแบรนด์ไปพร้อมกันด้วยไม่ใช่การเปิดมาแล้วคนมาที่นี่เจอร้านสวยอย่างเดียว แต่ควรจะเล่าอะไรได้มากกว่านั้น ดีไซเนอร์คือทำหน้าที่ทำให้ย่านนั้นมีคุณค่ามากขึ้น ผมว่างานดีไซน์ดีๆ จะช่วยผลักดันความเจริญในแต่ละย่านได้ทำให้ย่านนั้น ๆ Active ขึ้นครับ” คุณโต-ศุภรัตน์ ชินะถาวร จาก party / space / design
ที่ตั้ง
Koff and Bun at Song Wat
983/2 ถนนทรงวาด แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
พิกัด https://maps.app.goo.gl/nE4P5HJ6yyD2SfBs8
เปิดทุกวัน 8.00-17.00 น.
โทร. 06-2606-8962
เจ้าของ: คุณพรประสิทธิ์ ไพศาลสินสกุล
ออกแบบ-ตกแต่ง: party / space / design
ออกแบบบรรจุภัณฑ์: party / space / design
ออกแบบแบรนด์ดิ้ง: party / space / design
เรื่อง: Phattaraphon
ภาพ: กรานต์ชนก บุญบำรุง