Rimkhobfa Bookstore & Black and Milk Café ร้านหนังสือสแตนด์อโลนพร้อมคาเฟ่ในตัวแห่งย่านบางพลัด เกิดจากอาคารเก่าที่ได้รับการชุบชีวิตกลับมาให้เป็นบ้านแสนอบอุ่นแก่หนอนหนังสือ พร้อมร้อยเรียงเรื่องราวของกาแฟควบคู่ไปกับการอ่าน เพื่อดึงดูดนักอ่านรุ่นใหม่ในเวลาเดียวกัน
ร้านหนังสือริมขอบฟ้า คือแหล่งรวมหนังสือเนื้อหาเข้มข้นเรื่องเมืองไทยอันเป็นที่คุ้นเคยของนักอ่านอยู่แต่เดิม อดีตร้านซึ่งตั้งอยู่บนถนนราชดำเนินได้ย้ายทำเลใหม่มายังย่านบางพลัด ในอาคารเก่ารีโนเวตใหม่ให้เล่าถึงแก่นของ “ริมขอบฟ้า” จากมุมของคู่หูนักออกแบบแห่ง BodinChapa Architects ที่ได้รับโจทย์มาสื่อสารให้ร้านกลายเป็นพื้นที่ของนักอ่านสอดแทรกคาเฟ่ให้คนรุ่นใหม่แวะมาเลือกหนังสือและนั่งจิบกาแฟในบรรยากาศเป็นกันเอง
อาคาร 3 ชั้น แห่งนี้ อดีตเคยเป็นสำนักงานหลายฟังก์ชันมีทำเลอยู่ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ ในตำแหน่งที่เป็นจุดอับสายตาจากสะพานข้ามแยก ต่อมาได้รับการปรับปรุงโดยเน้นให้ภายในโปร่งโล่งจากแสงธรรมชาติที่ดึงผ่านช่องเปิดต่าง ๆ เปลี่ยนภาพลักษณ์จากอาคารทึบสู่ภาพลักษณ์คล้ายบ้าน พร้อมร้านกาแฟในตัว ภายในจึงอบอวลไปด้วยกลิ่นหนังสือและกาแฟ
การรีโนเวตเริ่มจากการทุบพื้นชั้น 2 ของอาคารออกบางส่วน และขยายให้พื้นที่ชั้น 1 มีสเปซมากขึ้นเพื่อลดความแออัด จากนั้นกั้นพื้นที่ให้เป็นร้านหนังสือและคาเฟ่ในสัดส่วนเท่า ๆ กัน เพื่อรองรับลูกค้าทั้งกลุ่มคนอ่านหนังสือและกลุ่มคนดื่มกาแฟ นอกจากนี้ พื้นที่ชั้น 2 แต่เดิมมีปัญหาฝ้าเพดานเตี้ยกว่าปกติ ได้แก้ไขด้วยการเปิดฝ้าเพดานเดิมออกให้เป็นโถงดับเบิลสเปซ พื้นที่ของชั้นนี้ใช้รองรับฟังก์ชันการใช้งานที่ยืดหยุ่นอย่างการจัดอีเวนต์และงานเสวนาได้ด้วย ในขณะเดียวกันก็เหลือสเปซอีกส่วนให้เพียงพอต่อการจัดเก็บหนังสือบนชั้นวางแบบถาวรของร้าน ส่วนพื้นที่ชั้น 3 จัดให้เป็นห้องประชุมอันมีหน้าต่างบานใหญ่ให้สามารถมองลงมายังชั้น 2 ได้
ลักษณะการออกแปลนอาคารแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ร้านหนังสือ และคาเฟ่บนชั้น 1 โดยมีเคาน์เตอร์บาร์เล็ก ๆ ของคาเฟ่ต้อนรับที่ด้านหน้า จากนั้นจึงขยายพื้นที่การใช้งานด้านในซึ่งมีการซ้อนทับกันของร้านกาแฟและร้านหนังสือ เมื่อเข้ามาด้านในจะพบกับการจัดวางองค์ประกอบให้ภายในร้านเน้นดิสเพลย์หนังสืออย่างสวยงาม เสิร์ฟมุมมองให้คนเห็นชั้นวางหนังสือที่แทรกไปตามพื้นที่ต่าง ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ ตั้งแต่โซนคาเฟ่ บันไดเชื่อมชั้น 1 และชั้น 2 จนถึงพื้นที่ที่อยู่ระหว่างทางเดิน โดยคงแนวคิดหลัก คือให้มองเห็นหนังสือที่วางโชว์อยู่ในทุก ๆ จุด ซึ่งมีทั้งฟังก์ชันที่นั่งและชั้นหนังสือสอดคล้องและเกื้อกูลกัน
จุดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของร้าน คือผนังผืนใหญ่ตั้งสูงกินพื้นที่จากชั้นล่างถึงชั้นบน พร้อมช่องเปิดสี่เหลี่ยมที่ด้านบนสุดซึ่งถูกตั้งชื่อว่า “Tower” ผนังนี้ใช้กั้นระหว่างส่วนใช้งานร้านหนังสือกและคาเฟ่ และได้กลายมาเป็นองค์ประกอบที่สถาปนิกเลือกใช้เป็นจุดดึงให้คนขึ้นไปใช้งานชั้น 2 โดยตั้งใจให้สอดคล้องกับบันไดที่ไหลต่อเนื่องจากโซนแคชเชียร์ในลักษณะวงโค้ง อันจะค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นไป โดยมีราวกันตกไหลต่อเนื่องไปบรรจบกับตัวผนัง Tower นี้ การตกแต่งยังได้หยิบเอาคอนเซ็ปต์ของร้านหนังสือ “ริมขอบฟ้า” มาใช้ โดยการไล่เฉดสีของกระเบื้องอิฐดินเผาจากอ่อนลงมาเข้ม จำลองสีของเส้นขอบฟ้าแล้วใช้ไลท์ติ้งช่วยขับเน้น ก่อนจะเจาะช่องสี่เหลี่ยมบนผนังที่ด้านบนชั้น 2 เป็นไอเดียลดมุมอับและเป็นดิสเพลย์โชว์หนังสือไปในตัว
ชั้น 2 ซึ่งเป็นโซนจัดเก็บหนังสือในพื้นที่โปร่งโล่ง อาบด้วยแสงธรรมชาติที่เข้ามาจากหน้าต่างบานกระจกสูง มีม่านกั้นในช่วงเวลาที่แสงจ้าเกินไป ภายในมีทั้งพื้นที่ที่ยืดหยุ่นต่อการจัดเสวนาบริเวณโซนชั้นวางเตี้ยที่สามารถเคลื่อนย้ายไปเก็บในห้องด้านหลังได้ ในขณะที่ส่วนที่เป็นชั้นวางสูงถัดออกไปเน้นเป็นการโชว์สินค้าและจัดเก็บหนังสือสลับกัน โดยวางตำแหน่งชิดกันไปตามรูปกรอบอาคาร ทิ้งระยะห่างให้โอบล้อมตัวลูกค้า ทว่าไม่คับแคบจนเกินไปเพื่อสะดวกต่อการหาหนังสือ ประกอบกับการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้วยที่นั่งแทรกเข้าไปในชั้นวางหนังสือบางจุดให้คนนั่งอ่านได้
ท้ายที่สุด เนื่องด้วยทำเลร้านค่อนข้างหลบมุม การใช้วัสดุและเสริมองค์ประกอบเป็นจุดดึงดูดสายตาคนที่ผ่านไป-มาภายนอก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ออกแบบคำนึงถึง เริ่มจากด้านหน้าที่ใช้กำแพงอิฐสีส้มยื่นต่อออกมาจากร้านเล็กน้อย ก่อนต้อนรับพื้นที่ทางเข้าคาเฟ่ด้วยมุมป้ายร้านเล็ก ๆ ที่พื้นใช้กระเบื้องสีส้มตัดกับสีเทาดำเบื้องหลังป้ายชื่อคาเฟ่ Black and Milk ในส่วนด้านหน้าร้านหนังสือมีการยื่นฟาซาดเพิ่มมิติในการมองเห็นตัวอาคาร ใช้ไม้สีอ่อนกรุลาดเข้าไปหาหน้าต่างเป็นขั้นบันได เป็นแรงบันดาลใจจากการวางเรียงหนังสือของร้าน
บรรยากาศทั้งภายนอกและภายใน การตกแต่งส่วนใหญ่ใช้วัสดุที่มีความเป็นกันเอง ให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน ขณะเดียวกันก็ต้องการออกแบบให้สะท้อนเนื้อหาของทิศทางหนังสือในร้านที่เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมและชีวิตผู้คน เช่น การใช้วัสดุที่เนื้อวัสดุและสีสันดูถ่อมตนเป็นธรรมชาติอย่าง กระเบื้องอิฐดินเผา โดยมีทั้งสีส้ม สีเทาดำ และสีฟ้า ออกแบบให้สอดคล้องกับองค์ประกอบภายในที่เน้นใช้ไม้ให้โทนสีสบายตา เสริมภาพลักษณ์ให้ร้านโดดเด่นแต่ก็ไม่แปลกแยกจากบริบท
ในยุคที่ใครต่างกล่าวว่าสื่อสิ่งพิมพ์กำลังจะถอยร่นจากสายตานักอ่าน ร้านหนังสือริมขอบฟ้านับเป็นตัวอย่างของธุรกิจที่ยืนหยัดเพื่อวงการหนังสือ ด้วยแนวคิดการดึงคาเฟ่อย่าง Black and Milk Café มาผนวกเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เสริมความยืดหยุ่นและความหลากหลายในแง่ของฟังก์ชันของพื้นที่ โดยไว้วางใจให้งานออกแบบเป็นเครื่องมือในการนำเสนอและเล่าเรื่องราวของร้านในภาษางานออกแบบแสนเรียบง่าย และปลุกศักยภาพอาคารเก่าด้วยการรีโนเวตให้ร้านเป็นจุดพักใจ และชวนคนรักการอ่านได้มาสัมผัสตัวอักษรในบรรยากาศใหม่ ๆ อีกครั้ง
ที่ตั้ง
Rimkhobfabooks & Black and Milk Café
121 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/mwhmE8RGhg2Xrg21A
ร้านหนังสือ เปิดทุกวัน 9.00 – 18.00 น. โทร. 08-1 344- 5132
คาเฟ่ เปิดทุกวัน 7.00 – 19.00 น. โทร. 06-1429 -0966
เจ้าของ: คุณอมร ทองธิว
ออกแบบ: BodinChapa Architects
เรื่อง: Kangsadan K.
ภาพ: อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม, ภูมิปกรณ์ ณ บางช้าง